xs
xsm
sm
md
lg

“โอสถ” ยันไม่ส่งต่อเก้าอี้นายก เตรียมร้องศาลขอความเป็นธรรม

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

พลตรีโอสถ (ขวา) ยันไม่ส่งมอบเก้าอี้นายกให้ นายชูเกรียติ (ซ้าย)
พล.ต.โอสถ ภาวิไล อดีตนายกสมาคมกีฬาคนพิการแห่งประเทศไทย เร่งให้ กกท. ตรวจสอบกรณีทุจริตให้แล้วสิ้น จึงจะมีการส่งมอบงาน พร้อมเตรียมฟ้องร้องต่อศาลแพ่งให้เข้ามาดูแล ย้ำไม่มีผลกระทบกับนักกีฬาพาราลิมปิก เพราะไม่เกี่ยวกับสมาคมฯ

หลังจากที่สมาคมกีฬาคนพิการแห่งประเทศไทย ได้จัดการประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2558 ไปเมื่อวันที่ 25 มีนาคม ที่ผ่านมา ซึ่งมีวาระสำคัญ คือ การเลือกตั้งนายกสมาคมฯคนใหม่ ผลปรากฏว่า นายชูเกียรติ สิงห์สูง เป็นฝ่ายเอาชนะ พล.ต.โอสถ ภาวิไล นายกสมาคมฯคนเก่า ด้วยคะแนน 10 - 9 เสียง จนกระทั่งเมื่อวันที่ 21 กรกฎาคมที่ผ่านมา นายชูเกียรติ ได้เข้ามารับมอบงานที่ที่ทำการสมาคมกีฬาคนพิการฯ ภายในสนามกีฬาแห่งชาติ ปทุมวัน ทว่า พล.ต.โอสถ ไม่ส่งมอบงานให้ โดยให้เหตุผลว่า การเลือกตั้งในวันดังกล่าว มีการใช้เอกสารปลอม และผิดข้อบังคับของสมาคมฯ

ล่าสุด เมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ที่ทำการสมาคมกีฬาคนพิการฯ พล.ต.โอสถ ภาวิไล ได้แถลงข่าวถึงกรณีดังกล่าว โดยเปิดเผยว่า จากการทำงานมากว่า 21 ปี ไม่ได้ยึดติดกับตำแหน่งแต่อย่างใด เพียงแต่เห็นการกระทำที่ผิด จึงอยากทำให้ถูกต้องตามข้อบังคับของสมาคม “ทางคณะกรรมการบริหารชุดเก่าฯ ได้มีการตรวจสอบเอกสารสิทธิ์ของผู้มีสิทธิ์ลงคะแนนเสียงแล้ว ทำให้พบว่าเอกสารในการมอบอำนาจของหลายสมาคมฯ ที่นำใช้เป็นหลักฐานเพื่อรับรองสิทธิ์ในการเลือกตั้งไม่ถูกต้องตามกฎข้อบังคับของสมาคมฯ จึงได้มีการยืนเรื่องร้องเรียนไปยังการกีฬาแห่งประเทศไทย เมื่อวันที่ 4 เม.ย. ที่ผ่านมา แต่ทางการกีฬาแห่งประเทศไทยไม่มีการตอบกลับ หรือเรียกเข้าชี้แจงแต่อย่างใด ทำให้ยื่นร้องต่อนายทะเบียนของการกีฬาแห่งประเทศไทยอีกเป็นครั้งที่ 2 อีก แต่ กกท. ยังไม่มีการเรียกเข้าชี้แจง”

“ทำให้รู้สึกว่าไม่มีความเป็นธรรม เนื่องจาก กกท. ทำงานไม่ได้เรื่อง เรื่องที่เกิดขึ้นนี้มีการรับรองผลการเลือกตั้งฯ ของ นายชูเกียรติ สิงห์สูง ไปแล้วเมื่อวันที่ 16 มิ.ย. โดยไม่มีการสอบสวน ยอมรับว่า เป็นความผิดพลาดของกระบวนการการเลือกตั้ง ใบมอบอำนาจไม่ถูกต้อง ตามข้อบังคับ ซึ่งใบมอบอำนาจต้องมาจากสมาคมฯ แต่ที่เจอเป็นแบบถ่ายเอกสารและมีความผิดพลาด มีการแก้ไข เรื่องนี้มันเกี่ยวพันกับ กกท. แถมทาง กกท. ได้ตอบกลับมาว่าเรื่องนี้เป็นความผิดพลาดเพียงเล็กน้อย และสามารถแก้ไขได้ ทั้ง ๆ ที่ไม่ถูกต้อง แต่ กกท. ไม่สนใจ ทำให้ต้องยืนเรื่องไปที่นายทะเบียน กกท. อีกครั้งเพื่อให้นำเรื่องเข้าที่ประชุมคณะกรรมการบริหารของ กกท. ที่ประชุมในวันที่ 5 ก.ค. แต่ นายทะเบียน กกท. ยังไม่นำเรื่องเขาที่ประชุมบอร์ดบริหาร กกท. เพื่อพิจาราณาอีก เรื่องนี้ไม่ถูกต้อง และตนจะไม่ยอมส่งมอบงานให้กับทีมงานชุดใหม่อย่างแน่นอน ทำให้ต้องยื่นเรื่องขออุทรณ์ไปอีกครั้งในวันที่ 21 ก.ค.”

ทั้งนี้ อดีตนายกสมาคมกีฬาคนพิการแห่งประเทศไทย กล่าวว่า การไม่ส่งมอบงานจะไม่มีผลกับการเตรียมนักกีฬาพาราลิมปิก เพราะมีคณะทำงานที่ดูแลเรื่องนี้โดยเฉพาะอยู่แล้ว “ในเรื่องการไม่ส่งมอบอำนาจ ถ้าเห็นว่าผมผิดก็ไปฟ้องผม ถ้าเห็นว่านักกีฬาลำบากมาก เพราะไม่ได้รับเบี้ยเลี้ยง ก็ช่วยบอกทาง กกท. ให้ผมสามารถเซ็นเอกสารได้ ตอนนี้ผมได้มีการนำเรื่องฟ้องร้องไว้ที่ศาลแพ่งแล้ว แต่กว่าจะมีการวินิจฉัยคงอีกหลายเดือน ขณะที่การเตรียมนักกีฬาสำหรับเข้าแข่งขันพาราลิมปิกเกมส์ ที่ประเทศบราซิล นั้น เป็นหน้าที่ของคณะกรรมการพาราลิมปิกแห่งประเทศไทย ไม่เกี่ยวข้องกับสมาคมฯ ดังนั้น เรื่องที่เกิดขึ้นจึงไม่มีผลต่อการเตรียมนักกีฬาอย่างแน่นอน”
กำลังโหลดความคิดเห็น