เอเยนซี - มหกรรมกีฬาแห่งมวลมนุษยชาติ โอลิมปิก 2016 จะเปิดฉากขึ้นในวันที่ 5 สิงหาคมนี้ ณ กรุงริโอ เดอ จาเนโร ประเทศบราซิล หลายชาติที่เข้าร่วมการประลองความเป็นหนึ่งบ้างใช้เวทีนี้เป็นที่พิสูจน์ฝีมือของนักกีฬารุ่นใหม่ที่ถูกผลักดันขึ้นมาอย่างเต็มกำลังให้พร้อมเป็นความหวังใหม่ของชาติ ขณะเดียวกัน ยังเป็นเวทีสั่งลาของเหล่าซูเปอร์สตาร์มือเก๋าหลาย ๆ คนที่สร้างชื่อประสบความสำเร็จในรายการนี้มาแล้วหลายสมัยได้โบกมืออำลาการรับใช้ชาติด้วยอายุที่มากขึ้น และความอิ่มตัวต่าง ๆ ดังเช่นที่หยิบยกมา 5 รายต่อไปนี้
โรเจอร์ เฟเดอเรอร์ (เทนนิส)
แชมป์ แกรนด์ สแลม 17 สมัย เข้าร่วมศึก โอลิมปิก เป็นครั้งที่ 3 ซึ่งผลงาน 2 ครั้งก่อนหน้าต่างประสบความสำเร็จคว้าเหรียญรางวัลกลับบ้านได้ทั้งสิ้น ทั้งเหรียญทองประเภทคู่ กับ สตานิสลาส วาวรินกา (ปักกิ่ง 2008) และเหรียญเงินประเภทเดี่ยว (ลอนดอน 2012) ส่วนครั้งล่าสุดที่ ริโอ เดอ จาเนโร แม้จะพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าตัวเองยังฟิตพอที่จะกรำศึกหนักแบบ 3 ใน 5 เซตได้ด้วยอายุอานาม 34 ปี แต่ด้วยสภาพร่างกายที่ไม่สดเหมือนคนหนุ่มที่ลงแข่ง ทำให้นี่น่าจะเป็นศึกห้าห่วงครั้งสุดท้ายที่เจ้าตัวจะได้เล่นให้ทีมชาติสวิตเซอร์แลนด์ เพราะอีก 4 ปีข้างหน้า ที่โตเกียว น่าจะไม่ไหว โดยปีนี้ขอลง 3 รุ่น ทั้งเดี่ยว, ชายคู่กับ “สแตน” และคู่ผสมกับ มาร์ตินา ฮินกิส พร้อมวางเป้าขอเหรียญติดมือทิ้งทวนให้ได้
ไมเคิล เฟลป์ส (ว่ายน้ำ)
เงือกหนุ่มแห่ง บัลติมอร์ สหรัฐอเมริกา ก่อนหน้านี้เกือบไม่ได้เข้าร่วมวง “ริโอ เกมส์” หลังเจอปัญหาชีวิตรุมเร้าทั้งโดนยึดใบขับขี่ เพราะเมาแล้วขับ รวมถึงฟิตร่างกายอย่างหนักหน่วงในวัย 31 ปี เพื่อคว้าตั๋วลงแข่งขันที่ บราซิล จนกระชากมาได้ 4 ประเภท คือ ผีเสื้อ 100 เมตร, ผีเสื้อ 200 เมตร, เดี่ยวผสม 200 เมตร และผลัดผสม 4x100 เมตร นับเป็นโอลิมปิกครั้งที่ 5 แล้วที่เจ้าตัวจะได้แสดงแสนยานุภาพให้โลกได้ประจักษ์ ขยับจำนวนเหรียญทองที่เยอะอยู่แล้ว 18 เหรียญให้เพิ่มขึ้นไปอีก สั่งลาก่อนผันตัวไปเป็นคุณพ่อดูแลลูกชายที่เพิ่งคลอดและครอบครัวแบบเต็มตัว
อูเซน โบลต์ (กรีฑา)
ชายที่วิ่งเร็วที่สุดในโลก เริ่มส่งสัญญาณบางอย่างออกมาระหว่างการแข่งขันรายการต่าง ๆ เมื่อเจ้าตัวถูกอาการบาดเจ็บเล่นงานบ่อยครั้ง ล่าสุด ก็เป็นอาการกล้ามเนื้อต้นขาฉีกขณะลงชิงชัยที่ เยอรมนี ส่วนปัจจุบันก็รักษาตัวจนหายดีแล้ว และพร้อมสำหรับการเดินลงสู่ลู่กรีฑาศึกกีฬาห้าห่วงในฐานะตัวแทนแห่ง จาเมกา ที่บอกชัดเจนเด็ดขาดแล้วว่านี่จะเป็นครั้งสุดท้าย โดยลง 3 ประเภทถนัดเหมือนเดิม คือ เดี่ยว 100 เมตร, เดี่ยว 200 เมตร และผลัด 4 x100 เมตร หวังปิดฉากด้วยเหรียญทองทั้งหมดหลังโกยมาแล้ว 6 เหรียญก่อนหน้า เรียกว่า งานนี้ต้องตื่นขึ้นมาดูให้ได้ เพราะการแข่งขันนั้นตัดสินด้วยเวลาเพียง 1 - 2 วินาทีเท่านั้น
ลีนเดอร์ เพส (เทนนิส)
อีกหนึ่งตำนานของวงการเทนนิสแดนภารตะ ผ่านประสบการณ์ลงแข่งขันโอลิมปิกมาอย่างโชกโชนตั้งแต่ปี 1996 ที่ แอตแลนตา ได้เหรียญทองแดง ติดมือกลับมา แม้อายุอานามปาเข้าไป 43 ปี แต่เสือเฒ่าแห่งอินเดีย ไฟยังลุกโชนไม่ยอมให้เด็กใหม่เข้ามายึดพื้นที่ง่าย ๆ โดยเฉพาะประเภทคู่ที่แข็งแกร่งยิ่งในช่วงหลังจับมือกับ มาร์ตินา ฮินกิส ตำนานหวดหญิงชาวสวิส ได้แชมป์ แกรนด์ สแลม เฟรนช์ โอเพน ประเภทคู่ผสมครั้งล่าสุด ร่วมกันมาแล้วรวมกับแชมป์อื่น ๆ ในประเภทคู่ คือ 55 รายการ ส่วนปีนี้จับมือกับ โรฮัน โบพานนา ล่าเหรียญทองประเภทชายคู่ ซึ่งถือเป็นเกียรติยศเดียวที่เจ้าตัวยังไม่เคยได้และก็น่าจะเป็นครั้งสุดท้ายแล้วเช่นกันสำหรับเวทีโอลิมปิกของตัวเอง
โม ฟาราห์ (กรีฑา)
ปอดเหล็กระยะไกลแห่ง สหราชอาณาจักร กลับมาลงแข่ง โอลิมปิก อีกครั้งในวัย 33 ปี หลังสร้างความสำเร็จให้กับ “ทีมจีบี” หยิบเหรียญทองประเภทวิ่ง 5,000 เมตร กับ 10,000 เมตร มาให้ประชาชนเจ้าภาพ “ลอนดอนเกมส์” ได้ภาคภูมิใจ รวมกับเหรียญทองในการแข่งขันรายการต่าง ๆ อีก 14 เหรียญ แค่นี้ก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้ ฟาราห์ ทิ้งทวนการเป็นนักกีฬาได้อย่างเต็มภาคภูมิที่ “ริโอ เกมส์” แล้วมาดูว่าโอลิมปิกสุดท้ายของเขาจะได้อำลาไปพร้อมกับท่าเต้น “โมบ็อต” อันเป็นที่ฮือฮาเหมือน 4 ปีก่อนหรือไม่
* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *
