ผู้จัดการรายวัน 360 - ทัพมวยสากลสมัครเล่นไทยหนึ่งในกีฬาความหวัง ถือว่าล้มเหลวชวดเหรียญทองใน โอลิมปิก ลอนดอน เกมส์ 2012 ทำให้ศึก ริโอ เกมส์ 2016 ที่กำลังจะมาถึงนี้ ต้องทำงานอย่างหนัก เพื่อเรียกศรัทธาคืนมา ทว่า กำปั้นชายที่ได้โควตาไปแล้ว 3 คน พิจารณาจากเส้นทางคงมีเพียงรายเดียวที่มีโอกาส ส่วนฝั่งนักชกสาวต้องเจอขวากหนามชิ้นโต อย่างไรก็ตาม ยังพอมีหวังจากตั๋วใบสุดท้าย หาก “เจ้าเพชร” อำนาจ รื่นเริง กำปั้นดีกรีแชมป์โลกอาชีพ ที่หวนกลับมาชกสมัครเล่นอีกครั้ง สามารถผ่านการคัดเลือกไปขึ้นสังเวียนที่บราซิลได้สำเร็จ
สมาคมกีฬามวยสากลแห่งประเทศไทย พยายามทุกวิถีทางที่จะผลักดันกำปั้นไทยในการคว้าตั๋วโอลิมปิกเกมส์ 2016 ไม่ว่าจะเป็นการดึง แก้ว พงษ์ประยูร เจ้าของเหรียญเงิน ปี 2012 กลับมาชกอีกครั้งในวัย 36 ปี หรือดัน “ซูเปอร์แบงค์” ปชัญญะ หลงชิน นักมวยไทยชื่อดัง มาใส่เสื้อกล้าม ตลอดจนเฟ้นลูกครึ่งอย่าง นิก เฟรสเซอร์ (ไทย-ฮอลแลนด์) มารับใช้ชาติ แต่สุดท้ายทั้ง 3 ราย ก็จอดป้ายอย่างไม่ได้ลุ้น
ส่งให้ ณ ตอนนี้ ทัพเสื้อกล้ามไทย ได้โควตาลุย “ริโอ เกมส์” แล้วเพียง 4 รุ่น แบ่งเป็น ชาย 3 รุ่น ซึ่งเท่ากับสมัยที่แล้วใน “ลอนดอน เกมส์” ประกอบด้วยหน้าเดิม คือ ฉัตรชัย บุตรดี รุ่น แบนตัมเวต (56 กิโลกรัม) กับ สายลม อาดี รุ่น (เวลเตอร์เวต 69 กิโลกรัม) และหน้าใหม่อย่าง วุฒิชัย มาสุข รุ่น ไลต์เวลเตอร์เวต (64 กิโลกรัม) ส่วนฝั่ง หญิง อีก 1 รุ่น จาก เปี่ยมวิไล เล่าเปี่ยม รุ่น ฟลายเวต (51 กิโลกรัม) ซึ่งถือเป็นนักชกหญิงคนแรกในประวัติศาสตร์ไทย ที่ได้ตั๋วลุยรายการนี้
จึงถูกคาดการณ์ว่าอาจจะมีโอกาสชวดเหรียญทองเป็นสมัยที่สองติดต่อกัน เพราะหากดูตามหน้าเสื่อแล้ว คงมีเพียง “เจ้าเอ็ม” วุฒิชัย เจ้าของเหรียญทองเอเชียนเกมส์ 2014 และอันดับ 1 ของโลกในรุ่นตัวเอง วัย 26 ปี ที่พอจะใกล้เคียงที่สุด ที่สำคัญ เจ้าของเหรียญรางวัลในรุ่นนี้จากปีก่อนทั้ง 4 คน ไม่มีใครเข้าชิงชัยในครั้งนี้เลย มีเพียง ยาสเนียล โทเลโด จาก คิวบา และ อีวัลเดส เปตราอุสกัส จาก ลิธัวเนีย เจ้าของเหรียญทองแดง รุ่นไลต์เวต จากครั้งที่แล้ว ที่ขยับน้ำหนักขึ้นมาชกในรุ่นเดียวกัน
ขณะที่ “เจ้าสด” ฉัตรชัย วัย 31 ปี อันดับ 7 โลก ครั้งที่แล้วจอดป้ายรอบ 16 คน ปีนี้มีสิทธิ์ต้องเจอคู่แข่งระดับพระกาฬมากมาย โดยเฉพาะ โรเบียซี รามิเรซ แชมป์เก่า รุ่นฟลายเวต จากคิวบา และ ไมเคิล คอนเลน มือ 1 โลก ดีกรีเหรียญทองแดง จากไอร์เลนด์ ที่ขยับพิกัดขึ้นมาชกรุ่นเดียวกัน เช่นเดียวกับ “เจ้าลม” สายลม วัย 29 ปี อันดับ 47 โลก ที่หนก่อนกลับบ้านตั้งแต่จบไฟต์แรก
ทางฝั่ง “แสบ” เปี่ยมวิไล วัย 32 ปี หลังจากคว้าเหรียญเงินในศึกชิงแชมป์โลก พร้อมซิวตั๋วโอลิมปิก จนอันดับพุ่งขึ้นมารั้งที่ 3 ของโลก แม้จะได้เป็นมือวางและชนะบายในรอบแรก แต่ในรุ่นยังมีขวากหนามชิ้นโตอย่าง นิโคลา อดัมส์ เจ้าของเหรียญทองครั้งก่อน ชาวอังกฤษ ที่เพิ่งปราบเจ้าตัวมา 2-1 เสียง ในการชิงแชมป์โลก
อย่างไรก็ตาม ทัพเสื้อกล้ามไทยอาจยังมีลุ้นจากไพ่ใบสุดท้ายอย่าง อำนาจ รื่นเริง ที่กลับมาชกมวยสากลสมัครเล่นอีกครั้งเป็นการสั่งลา ในวัย 36 ปี หลังเคยฝากผลงานในนามทีมชาติ ด้วยการทะลุถึงรอบ ควอเตอร์ ไฟนอล รายการนี้เมื่อปี 2008 ก่อนจะเทิร์นโปรชกอาชีพ จนคว้าแชมป์โลกรุ่นฟลายเวต สหพันธ์มวยนานาชาติ (IBF) และเพิ่งเสียเข็มขัดในการป้องกันแชมป์ ครั้งที่ 6 เมื่อเดือนพฤษภาคม ที่ผ่านมา โดยครั้งนี้ “เจ้าเพชร” จะขึ้นสังเวียนชิงตั๋วโอลิมปิก ในโควตามวยสากลอาชีพ รายการ เวิลด์ ซีรีส์ บ็อกซิ่ง-เอพีบี 2016 ระหว่าง 3 - 5 กรกฎาคม นี้ ที่ประเทศเวเนซุเอลา ในรุ่นไลต์เวต (60 กิโลกรัม) ซึ่งมีโควตา 3 ที่นั่ง
ด้าน วุฒิชัย เชื่อในตัวรุ่นพี่ว่าจะคว้าโควตาลุย “ริโอ เกมส์” ได้แน่นอน “การที่เราได้โควตาน้อย เพราะตอนนี้ไม่ได้คัดกันง่าย ๆ เหมือนสมัยก่อน เมื่อก่อนเข้าถึงรอบ 16 คนก็ได้ไปแล้ว แต่ตอนนี้ถึงจะได้เหรียญทองแดงในรอบคัดเลือกก็ใช่ว่าจะได้ไปชัวร์ ที่สำคัญ ยังมีเรื่องการเปลี่ยนกฎการชกอีก ส่วนพี่อำนาจนั้น ผมมั่นใจว่า เขาจะได้ตั๋วร้อยเปอร์เซ็นต์ ผมอยู่กับเขามาตั้งแต่เด็กและติดตามดูมาตลอด รู้ว่าการที่มาชกในพิกัด 60 กิโลกรัม นั้นจะไม่เสียเปรียบแน่นอน เพราะเขาเป็นคนที่มีความเร็ว ต่อยหมัดยาวได้ดี ที่สำคัญมีความเก๋า ดังนั้นการชกแค่ 3 ยก จึงไม่ใช่ปัญหา และเมื่อได้ไปโอลิมปิก ผมเชื่อว่าพี่เพชรมีสิทธิ์ที่จะได้เหรียญทองสูง”
พร้อมกันนี้ “เจ้าเอ็ม” ได้ทิ้งท้ายถึงเป้าหมายของตัวเองว่า “คู่แข่งที่ผ่านเข้ามาชกในโอลิมปิกนั้นมีความเก่งทุกชาติอยู่แล้ว นักชกที่เป็นตัวเต็งคงหนีไม่พ้นจาก อุซเบกิสถาน คาซัคสถาน คิวบา และรัสเซีย เพราะถือเป็นตัวท็อปในรุ่นที่สูสีกันมาก ดังนั้น ถ้าใครพลาดนิดเดียว หรือเพียง 10 วินาทีก็มีสิทธิ์แพ้ได้เลย ส่วนเรื่องการให้คะแนนนั้น ก็มีหวั่นอยู่บ้าง แต่ผมเองก็ไม่ได้เก็บมาคิดมาก ขอทำให้เต็มร้อย จะแพ้หรือชนะค่อยมาว่ากัน ขอแค่พี่น้องชาวไทยเห็นว่าเราชนะก็พอแล้ว จากนี้ก็ต้องเตรียมกลับไปดูแลความฟิตของร่างกายให้ดี และฝึกซ้อมปรับเปลี่ยนสไตล์การชกให้ออกหมัดมากขึ้น และมีสมาธิให้มากขึ้น”