คอลัมน์ “สกอร์บอร์ด” โดย “แมวดำ”
เทรนด์การออกกำลังกายเพื่อดูแลสภาพร่างกายกำลังเป็นที่นิยม ผู้คนเริ่มเห็นความสำคัญของการออกกำลังกายมากขึ้น ตอนนี้ไปทางไหนก็มีแต่การจัดงานวิ่ง จัดแข่งขันจักรยาน แต่ที่เป็นเรื่องเป็นราวจนต้องนำมาบอกกล่าวเล่าให้ฟัง เห็นจะเป็นการแข่งขัน “คีรีวง ครอส คันทรี” วันที่ 24 กรกฎาคมนี้ ณ หมู่บ้านคีรีวง อ.ลานสกา จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งว่ากันว่าเป็นพื้นที่ที่มีอากาศบริสุทธิ์สดชื่นที่สุดในประเทศไทย
โดยการแข่งขันครั้งนี้มีการกำหนดระยะทางไว้ 3 ระยะ ประกอบด้วย 15 กิโลเมตร (กำหนดราคาสมัคร 600 บาท รับ 300 คน), 25 กิโลเมตร (ราคา 900 บาท 400 คน) และ 50 กิโลเมตร (ราคา 1,200 บาท 300 คน) ซึ่งถ้ามีคนสมัครวิ่งครบตามที่รับสมัครไว้ก็จะมีนักวิ่ง 1 พันคน (ไม่รวมทีมงานของนักวิ่ง และฝ่ายจัด รวมถึงผู้สนับสนุนต่าง ๆ)
ดรามาบังเกิดตรงที่ว่า การจัดการแข่งขันครั้งนี้ มีชาวบ้านในพื้นที่เขาไม่ค่อยเห็นด้วย เนื่องจากถึงขณะนี้ยังไม่เห็นเส้นทางแน่ชัด เกรงกันว่า อาจมีเส้นทางรุกล้ำเข้าไปในบริเวณพื้นที่อุทยานแห่งชาติ ซึ่งอาจจะวิ่งตัดผ่านลำธารน้ำไหล จากวิ่งสูดดมกลิ่นความสดชื่นจะกลายเป็นทำลายธรรมชาติ แถมที่กังวลอีกเรื่อง คือ ช่วงนี้ชาวบ้านเขามีสวนผลไม้ สวนยาง หากทางวิ่งไปเที่ยววิ่งผ่านสวนเขา ยางเขา แล้วจะทำการเก็บเกี่ยวกันอย่างไร ที่สำคัญ ถนนหนทางลัดเลาะเข้าสวนนี้ ออกสวนโน้น มันปลอดภัยพอสำหรับนักวิ่งหรือไม่ เพราะคนพื้นที่เขาให้เส้นทางทำมาหากินมีรถเข้าออกกันตามปกติ
นอกจากนี้ ที่กลัวกันยังเป็นเรื่องขยะและสิ่งปฏิกูลที่เกิดจากการแข่งขัน พอนักวิ่งมา ขวดน้ำ แก้วน้ำ ขยะต่าง ๆ ก็มา ใครจะเก็บ คนวิ่งมาเหนื่อย ๆ จะปุเลงปุเลงกระเตงขวดน้ำ แก้วน้ำไปด้วยหรือ หากใครถือไม่ไหวมีจุดทิ้งให้หรือไม่ พอเสร็จสรรพจากการวิ่งแล้ว พี่ ๆ ทั้งหลายกลับไป ขยะที่พกมาใครจะขนกลับบ้าง ทั้งหมดทั้งมวลล้วนเป็นความห่วงใยจากคนพื้นที่ บ้านใครใครก็รักก็หวง ทุกวันนี้การโปรโมตว่าหมู่บ้านแห่งนี้มีอากาศบริสุทธิ์ที่สุดในประเทศก็มีคนแห่แหนกันขึ้นไปสูดดมจนบางทีคนพื้นที่เขาก็เดือดร้อนรำคาญนักท่องเที่ยวไม่รู้จักกาลเทศะเหมือนกัน
พอมีคนออกมาแสดงความไม่เห็นด้วยมากขึ้นเรื่อย ๆ ทางฝ่ายจัดก็พยายามออกมาชี้แจงว่า เรื่องเส้นทางที่ห่วงว่าจะเข้าไปในอุทยานแห่งชาตินั้น คงไม่มี เพราะตรวจสอบพิกัดกันแล้วกับเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติเขาหลวง อีกทั้งยืนยันว่า จะไม่มีการแผ้วถางทางให้เกิดความเสียหายกับธรรมชาติ หรือสร้างเส้นทางใหม่ เพราะเป็นการวิ่งวิบาก รวมถึงจะขอความร่วมมือกับชาวสวนให้มีการใช้เส้นทางบางส่วน และจะให้นักวิ่งหยุดชิดข้างทางทันทีหากมีรถมอเตอร์ไซค์ขนผลไม้ของชาวบ้านผ่านมา (เพราะทางมันอาจจะแคบและชัน เกรงจะเกิดอันตรายกับนักวิ่ง) ส่วนเรื่องการทำความสะอาดจะมีการขอความร่วมมือกับนักวิ่งทุกคนไม่ทิ้งขยะตลอดเส้นทาง และจะทิ้งในบริเวณที่จัดให้เท่านั้น รวมทั้งจะจัดเตรียมทีมงานบางส่วนเพื่อเก็บขยะตลอดเส้นทางวิ่งอีกครั้งหนึ่ง
ดูเหมือนตอนนี้ทั้งสองฝ่ายกำลังตอบโต้กันอยู่ในโลกออนไลน์ บอกตามตรงส่วนตัวแล้วชอบให้มีการจัดกิจกรรมแบบนี้เยอะ ๆ แต่หากชาวบ้านในท้องที่เขาไม่เอาด้วย น่าจะหาที่อื่นที่เหมาะสมมากกว่า หากเกิดปัญหากระทบกระทั่งระหว่างนักวิ่งกับชาวบ้านขึ้นมา ไม่รู้ว่าใครจะรับผิดชอบ...
เทรนด์การออกกำลังกายเพื่อดูแลสภาพร่างกายกำลังเป็นที่นิยม ผู้คนเริ่มเห็นความสำคัญของการออกกำลังกายมากขึ้น ตอนนี้ไปทางไหนก็มีแต่การจัดงานวิ่ง จัดแข่งขันจักรยาน แต่ที่เป็นเรื่องเป็นราวจนต้องนำมาบอกกล่าวเล่าให้ฟัง เห็นจะเป็นการแข่งขัน “คีรีวง ครอส คันทรี” วันที่ 24 กรกฎาคมนี้ ณ หมู่บ้านคีรีวง อ.ลานสกา จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งว่ากันว่าเป็นพื้นที่ที่มีอากาศบริสุทธิ์สดชื่นที่สุดในประเทศไทย
โดยการแข่งขันครั้งนี้มีการกำหนดระยะทางไว้ 3 ระยะ ประกอบด้วย 15 กิโลเมตร (กำหนดราคาสมัคร 600 บาท รับ 300 คน), 25 กิโลเมตร (ราคา 900 บาท 400 คน) และ 50 กิโลเมตร (ราคา 1,200 บาท 300 คน) ซึ่งถ้ามีคนสมัครวิ่งครบตามที่รับสมัครไว้ก็จะมีนักวิ่ง 1 พันคน (ไม่รวมทีมงานของนักวิ่ง และฝ่ายจัด รวมถึงผู้สนับสนุนต่าง ๆ)
ดรามาบังเกิดตรงที่ว่า การจัดการแข่งขันครั้งนี้ มีชาวบ้านในพื้นที่เขาไม่ค่อยเห็นด้วย เนื่องจากถึงขณะนี้ยังไม่เห็นเส้นทางแน่ชัด เกรงกันว่า อาจมีเส้นทางรุกล้ำเข้าไปในบริเวณพื้นที่อุทยานแห่งชาติ ซึ่งอาจจะวิ่งตัดผ่านลำธารน้ำไหล จากวิ่งสูดดมกลิ่นความสดชื่นจะกลายเป็นทำลายธรรมชาติ แถมที่กังวลอีกเรื่อง คือ ช่วงนี้ชาวบ้านเขามีสวนผลไม้ สวนยาง หากทางวิ่งไปเที่ยววิ่งผ่านสวนเขา ยางเขา แล้วจะทำการเก็บเกี่ยวกันอย่างไร ที่สำคัญ ถนนหนทางลัดเลาะเข้าสวนนี้ ออกสวนโน้น มันปลอดภัยพอสำหรับนักวิ่งหรือไม่ เพราะคนพื้นที่เขาให้เส้นทางทำมาหากินมีรถเข้าออกกันตามปกติ
นอกจากนี้ ที่กลัวกันยังเป็นเรื่องขยะและสิ่งปฏิกูลที่เกิดจากการแข่งขัน พอนักวิ่งมา ขวดน้ำ แก้วน้ำ ขยะต่าง ๆ ก็มา ใครจะเก็บ คนวิ่งมาเหนื่อย ๆ จะปุเลงปุเลงกระเตงขวดน้ำ แก้วน้ำไปด้วยหรือ หากใครถือไม่ไหวมีจุดทิ้งให้หรือไม่ พอเสร็จสรรพจากการวิ่งแล้ว พี่ ๆ ทั้งหลายกลับไป ขยะที่พกมาใครจะขนกลับบ้าง ทั้งหมดทั้งมวลล้วนเป็นความห่วงใยจากคนพื้นที่ บ้านใครใครก็รักก็หวง ทุกวันนี้การโปรโมตว่าหมู่บ้านแห่งนี้มีอากาศบริสุทธิ์ที่สุดในประเทศก็มีคนแห่แหนกันขึ้นไปสูดดมจนบางทีคนพื้นที่เขาก็เดือดร้อนรำคาญนักท่องเที่ยวไม่รู้จักกาลเทศะเหมือนกัน
พอมีคนออกมาแสดงความไม่เห็นด้วยมากขึ้นเรื่อย ๆ ทางฝ่ายจัดก็พยายามออกมาชี้แจงว่า เรื่องเส้นทางที่ห่วงว่าจะเข้าไปในอุทยานแห่งชาตินั้น คงไม่มี เพราะตรวจสอบพิกัดกันแล้วกับเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติเขาหลวง อีกทั้งยืนยันว่า จะไม่มีการแผ้วถางทางให้เกิดความเสียหายกับธรรมชาติ หรือสร้างเส้นทางใหม่ เพราะเป็นการวิ่งวิบาก รวมถึงจะขอความร่วมมือกับชาวสวนให้มีการใช้เส้นทางบางส่วน และจะให้นักวิ่งหยุดชิดข้างทางทันทีหากมีรถมอเตอร์ไซค์ขนผลไม้ของชาวบ้านผ่านมา (เพราะทางมันอาจจะแคบและชัน เกรงจะเกิดอันตรายกับนักวิ่ง) ส่วนเรื่องการทำความสะอาดจะมีการขอความร่วมมือกับนักวิ่งทุกคนไม่ทิ้งขยะตลอดเส้นทาง และจะทิ้งในบริเวณที่จัดให้เท่านั้น รวมทั้งจะจัดเตรียมทีมงานบางส่วนเพื่อเก็บขยะตลอดเส้นทางวิ่งอีกครั้งหนึ่ง
ดูเหมือนตอนนี้ทั้งสองฝ่ายกำลังตอบโต้กันอยู่ในโลกออนไลน์ บอกตามตรงส่วนตัวแล้วชอบให้มีการจัดกิจกรรมแบบนี้เยอะ ๆ แต่หากชาวบ้านในท้องที่เขาไม่เอาด้วย น่าจะหาที่อื่นที่เหมาะสมมากกว่า หากเกิดปัญหากระทบกระทั่งระหว่างนักวิ่งกับชาวบ้านขึ้นมา ไม่รู้ว่าใครจะรับผิดชอบ...