xs
xsm
sm
md
lg

“สิงโต” ล่าแชมป์กลุ่ม ชนสโลวาเกีย “วาร์ดี” ลุ้นสตาร์ท

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

วาร์ดี มีโอกาสเป็นตัวจริง
เอเยนซี - ศึก ยูโร 2016 ที่ประเทศฝรั่งเศส ดำเนินมาถึงนัดสุดท้ายของรอบแรก โดยวันจันทร์ที่ 20 มิถุนายนนี้เป็นคิวของกลุ่ม บี เตะพร้อมกันตอนตี 2 ตามเวลาไทย อังกฤษ ปะทะ สโลวาเกีย ซึ่งมีตำแหน่งแชมป์กลุ่มเป็นเดิมพัน ขณะที่ รัสเซีย บ๊วยของสายที่มีแต้มเดียวหวังสู้ยิบตาชนะ เวลส์ เพื่อพลิกสถานการณ์เข้ารอบให้ได้

อังกฤษ รั้งตำแหน่งผู้นำขณะนี้จากผลงานที่มี 4 แต้ม โดยเกมล่าสุดต้องขอบคุณ 2 ตัวสำรองแดนหน้า เจมี วาร์ดี กับ ดาเนียล สเตอร์ริดจ์ ที่ลงมายิงคนละลูกแซงชนะ เวลส์ 2-1 ไปในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ ดังนั้นคาดว่าเกมพบ สโลวาเกีย รอย ฮ็อดจ์สัน นายใหญ่ "สิงโตคำราม" คงต้องปรับแผงรุก 3 คนที่เล่นไม่ออก หลังได้สตาร์ท 2 เกมติดคือ ราฮีม สเตอร์ลิง, อดัม ลัลลานา และ แฮร์รี เคน

ทันทีที่จบเกมแรกที่ อังกฤษ เสมอ รัสเซีย 1-1 ฮ็อดจ์สัน ถูกวิจารณ์อย่างหนักที่ไม่ส่ง วาร์ดี หอกจากทีมแชมป์ พรีเมียร์ ลีก อย่าง เลสเตอร์ ซิตี ลงสนาม ถัดมาเกมพบ เวลส์ ก็ยังดื้อไม่แปลง 11 ตัวจริงโชคดีที่ไม่รั้นจนกระทั่งจบเกมไม่เช่นนั้นสถานการณ์ตอนนี้คงเสี่ยงที่จะตกรอบ ดังนั้นคาดว่าเกมสุดท้ายรอบแบ่งกลุ่มจะได้เห็นแนวรุกใหม่ของ "สิงโตคำราม" แน่นอน

วาร์ดี ออกมากล่าวก่อนเกมที่จะพบกับ สโลวาเกีย ณ สต๊าด ช๊อฟฟรัว กีชาร เมืองแซงต์-เอเตียนน์ ว่า "ผมพอใจอย่างมาก เหนืออื่นใดคงต้องรอถึงวันจันทร์ว่าบอสจะจัดทัพอย่างไร ซึ่งไม่ว่าเป็นใครก็หวังว่าจะทำผลงานได้ดี สิ่งสำคัญที่สุดคือเรามีทางเลือกเยอะมากกว่า"

ดังนั้นผลงานปีที่แล้วของ 3 แนวรุกทีมชาติอังกฤษจึงต้องถูกนำมาเปรียบเทียบ โดย เคน เจ้าของดาวซัลโว พรีเมียร์ ลีก 25 ประตูจากค่าย ท็อตแนม ฮ็อทสเปอร์ ลงเล่น 5,092 นาที / ยิง 2 ประตูจาก 7 นัดในทีมชาติ, วาร์ดี ยิงในลีก 24 ประตูลงลงเล่น 3,707 นาที / ยิง 4 ประตูจาก 5 นัดในทีมชาติและ สเตอร์ริดจ์ จาก ลิเวอร์พูล ยิงในลีก 8 ประตูลงเล่น 1,812 นาที / ยิง 3 ประตูจาก 6 นัดในทีมชาติ

โดย เคน นั้นกรำศึกหนักให้กับ สเปอร์ส ตลอดทั้งฤดูกาล แน่นอนแม้จะอายุแค่ 22 ปีแต่ความล้าสามารถถามหาได้เสมอ นอกจากนี้ยังเป็นทัวร์นาเมนต์แรกในชีวิตของเจ้าตัวอีกด้วย

ขณะที่ สโลวาเกีย แม้จะเล่น ยูโร ครั้งแรก แต่ไม่ธรรมดามี 3 แต้มขับเคลื่อนทีมโดย มาเร็ก ฮามซิก กองกลาง นาโปลี ที่ยิงได้ในเกมล่าสุดที่ชนะ รัสเซีย 2-1 อีกคนก็คือ มาร์ติน สเคอร์เทล เป็นหัวใจแนวรับ เกมนี้อาจได้ปะทะกับเพื่อนร่วมค่าย ลิเวอร์พูล อย่าง สเตอร์ริดจ์, สเตอร์ลิง และ ลัลลานา

ส่วนอีกคู่เวลาเดียวกันเตะที่ สเตเดียม มูนิซิปัล เมืองตูลูส รัสเซีย ที่ใครต่อใครหลายคนอยากให้ตกรอบ เนื่องจากฮูลิแกนก่อเรื่องตั้งแต่นัดแรกที่เสมอ อังกฤษ 1-1 ล่าสุดแพ้ สโลวาเกีย จึงมีแค่แต้มเดียว จะต้องเจอกับ เวลส์ ที่มี 3 แต้ม

เวลส์ ดูเหมือนจะพึ่ง แกเร็ธ เบล ปีกจรวดจาก รีล มาดริด มากเกินไป โดยยิงไปแล้ว 2 ประตูซึ่งก็มาจากลูกฟรีคิกทั้งหมด ส่วนคนอื่นนั้นฝากความหวังไม่ได้ อารอน แรมซีย์ กับ โจ อัลเลน ดูเหมือนจะต่ำกว่ามาตรฐานนัดพบ อังกฤษ นั้นวิ่งไม่เจอบอลเลยถูกบีบให้ถอยต่ำมาตัดเกมอย่างเดียว ดังนั้น คริส โคลแมน กุนซือ "มังกรแดง" ต้องแก้ปัญหาตรงจุดนี้เป็นการด่วน

ก่อนเกม เบล กล่าวว่า "เกมกับ อังกฤษ ทุกคนผิดหวังกันมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งการแพ้ที่ถูกยิงช่วงทดเวลาบาดเจ็บแบบนั้น เหนืออื่นใดต้องลืมๆ ไปซะและมุ่งเป้าในเกมกับ รัสเซีย เพราะโอกาสเข้ารอบอยู่ในมือแล้ว ซึ่งทุกคนใจจดจ่อเป็นอย่างมาก"

เวลส์ จะประมาทไม่ได้อย่างเด็ดขาด เพราะนักเตะ รัสเซีย ถือว่ามีประสบการณ์ระดับนานาชาติมากกว่า แต่ เลโดนิด สลุตสกี นายใหญ่ "หมีขาว" ก็คงกลุ้มใจไม่น้อยกับการไร้ตัวเลือก เพราะก่อนทัวร์นาเมนต์คีย์แมนอย่าง อลัน ซาโกเยฟ ตัวปั้นเกมได้รับบาดเจ็บต้องผ่าตัด ผู้เล่นที่เหลือนั้นก็ดูเหมือนจะถนัดในเรื่องเกมรับมากเป็นพิเศษ โดย 2 เกมที่ผ่านมานั้นใช้ 11 ตัวผู้เล่นออกสตาร์ทหน้าเดิม

สรุป อังกฤษ ขอแค่เสมอก็จะผ่านเข้าสู่รอบน็อคเอาต์อย่างแน่นอน แต่ถ้าชนะก็จะคว้าแชมป์กลุ่ม แต่ถ้าแพ้ก็ยังมีโอกาสเข้ารอบในฐานะที่ 3 ที่ดีที่สุด 4 ทีมจากทั้งหมด 6 กลุ่ม ส่วน เวลส์ ถ้าชนะ รัสเซีย ก็เข้ารอบทันทีหรือเสมอก็เพียงพอ แต่ “สิงโตคำราม” ต้องไม่แพ้ สโลวาเกีย
ฮามซิก คีย์แมน สโลวาเกีย
เบล แบกทัพ “มังกรแดง”
อเล็กซานเดอร์ โคโคริน หอก รัสเซีย

กำลังโหลดความคิดเห็น