คอลัมน์ EYE ON SPORTS โดย กษิติ กมลนาวิน ราชวังสัน
ในการจัดการแข่งขันกีฬาที่เป็น อีเว่นท์ เป็น ทัวร์นาเม้นท์ ไม่ว่าจะเป็น ฟุตบอล เทนนิส ว่ายน้ำ กรีฑา ก๊อล์ฟ หรือจะเป็นมหกรรมที่รวมกีฬาหลากชนิดเข้าด้วยกัน เช่น โอลิมปิค เกมส์ ถ้าผู้จัดการแข่งขันนั้นประกอบไปด้วยคนที่มีวิชา รู้ครบถ้วนจริง ๆ การจัดการแข่งขันนั้นก็ไม่น่าจะประสบกับสภาวะขาดทุนอย่างป่นปี้ ในทางตรงข้าม มันกลับสร้างผลกระทบทางเศรษฐกิจในทางที่ดีให้แก่เจ้าภาพอย่างมหาศาลเลยทีเดียว อย่างเช่น ยูโร 2016 ที่กำลังจะเริ่มการแข่งขันในอีก 2 วันข้างหน้า
สหสมาคมฟุตบอลยุโรป หรือ ยูเอ๊ฟฟ่า (UEFA) เจ้าของลิขสิทธิ์การแข่งขันฟุตบอลชิงแช้มพ์แห่งชาติ ยูโร 2016 (2016 UEFA European Championship) ได้สั่งให้ ฝรั่งเศส ประเทศเจ้าภาพทำการศึกษาเรื่องรายรับ - รายจ่าย มีตัวเลขประมาณการต่าง ๆ ออกมาเป็นรายงานให้เขาทราบอย่างชัดเจน อันนี้ก็เพราะว่า ยูเอ๊ฟฟ่า จะต้องมีส่วนสำคัญในรายได้ที่เกิดขึ้นนั่นเอง
ฝรั่งเศส แจกแจงในรายงานดังกล่าว ว่า ค่าใช้จ่ายในการสร้างสนามฟุตบอลใหม่และปรับปรุงสนามที่มีอยู่เดิมต้องใช้งบประมาณทั้งสิ้น 1,650 ล้าน เออโร หรือประมาณ 66,000 ล้านบาท อันนี้ยังไม่รวมค่าใช้จ่ายในการปรับปรุงถนนหนทางที่นำไปสู่สนามและพาหนะต่าง ๆ เช่น รถไฟใต้ดิน รถเมล ซึ่งคิดเป็นเงินอีกประมาณ 400 ล้าน เออโร ในขณะเดียวกัน เขาคาดว่าจะได้รับผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจกลับมาคิดเป็นเงินจำนวน 1,134 ล้าน เออโร
เทศกาล ยูโร 2016 นี้ มันจะทำให้เกิดกิจกรรมต่าง ๆ เพิ่มขึ้นอย่างมากมายทั่วประเทศ นอกเหนือจากที่มีการบริโภคและมีการใช้จ่ายกันในท้องถิ่นในสภาวะปกติอยู่แล้ว งานนี้จะมีเงินสะพัดราว 800 ล้าน เออโร อันเกิดจากผู้ชมราว 2.5 ล้านคน ซึ่งในจำนวนนี้เป็นชาวต่างชาติประมาณ 1 ล้านคนจาก 110 ประเทศ อีก 600 ล้าน เออโร จากค่าที่พัก ค่าอาหาร และร้านค้าต่าง ๆ รวมทั้ง ค่าใช้จ่ายใน แฟนโซน อีกร่วม 200 ล้าน เออโร
ผมขอแทรกไว้นิดว่า เรื่องที่พักสำหรับทีมนักเตะของทุกชาติที่เข้าร่วมการแข่งขัน เจ้าหน้าที่ควบคุมการแข่งขัน ผู้ตัดสิน สปอนเซ่อร์ ผู้ร่วมให้การสนับสนุน เจ้าหน้าที่ถ่ายทอดโทรทัศน์ สื่อมวลชน รวมทั้ง ทีมงานของผู้จัดการแข่งขัน นั้น เขามอบให้ คูโอนี (Kuoni) บริษัททัวร์ยักษ์ใหญ่ของ สวิส เป็นผู้ดูแลทั้งหมด ซึ่งบริษัทดังกล่าวเคยได้รับหน้าที่นี้มาแล้วใน ยูโร 2008 ที่ สวิส เป็นเจ้าภาพร่วมกับ อ๊อสเตรีย
ในส่วนของภาษีมูลค่าเพิ่มที่เป็นผลพวงเกี่ยวเนื่องกับ ยูโร 2016 อันนี้ ฝรั่งเศส จัดเก็บจากการบริโภคแต่ละประเภทไม่เท่ากัน ตั้งแต่ 10 ถึง 20 เพอร์เซ็นท์ และสำหรับตั๋วเข้าชมการแข่งขันนั้นเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม 5.5 เพอร์เซ็นท์ รวมแล้วคาดว่ารัฐจะได้รับภาษีมูลค่าเพิ่มประมาณ 178 ล้าน เออโร อันนี้มาจากการคิดคำนวณผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นรวม 1,312 ล้าน เออโร
แต่สำหรับคณะกรรมการจัดการแข่งขันซึ่งได้ดำเนินการจดทะเบียนเป็นนิติบุคคลนั้นได้รับความช่วยเหลือจากรัฐบาล โดยเมื่อราว 2 ปีที่ผ่านมา ทางรัฐบาลฝรั่งเศสอ้างว่าได้เล็งเห็นว่า ยูโร 2016 ที่เกิดขึ้นบนแผ่นดินฝรั่งเศสนั้นจะนำมาซึ่งผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจมากมาย จึงตกลงยกเว้นภาษีทุกชนิดที่จะเกิดขึ้นให้แก่ผู้จัดการแข่งขัน เอ็งจะมีรายได้ มีกำไร จ่ายเงินให้ใครก็ไม่ต้องมาเสียภาษี ซึ่งก็มีหลายฝ่ายไม่เห็นด้วย เพราะประเมินว่า การยกเว้นภาษีดังกล่าวทำให้รัฐต้องสูญรายได้ไปร่วม ๆ 200 ล้าน เออโร
สำหรับรายได้ที่ ฝรั่งเศส จะต้องนำส่ง ยูเอ๊ฟฟ่า เต็ม ๆ เลยนั้นอาจแบ่งได้เป็นประเภทต่าง ๆ คือ ลิขสิทธิ์ถ่ายทอดโทรทัศน์ประมาณ 1,000 ล้าน เออโร สปอนเซ่อร์ 400 ล้าน เออโร ค่าจำหน่ายบัตรเข้าชม 250 ล้าน เออโร และค่าจัดการต้อนรับอีก 250 ล้าน อันนี้หมายถึง ห้องรับรองสำหรับแขกวีไอพี บริษัท ห้างร้าน หน่วยงาน รวมถึง ลิขสิทธิ์การผลิตของที่ระลึก รวมทั้งหมดก็เป็นเงิน 1,900 ล้าน เออโร ซึ่ง ยูเอ๊ฟฟ่า จะมีกำไรเห็น ๆ 900 ล้าน เออโร หรือประมาณ 36,000 ล้านบาท
ในการจัดการแข่งขันกีฬาที่เป็น อีเว่นท์ เป็น ทัวร์นาเม้นท์ ไม่ว่าจะเป็น ฟุตบอล เทนนิส ว่ายน้ำ กรีฑา ก๊อล์ฟ หรือจะเป็นมหกรรมที่รวมกีฬาหลากชนิดเข้าด้วยกัน เช่น โอลิมปิค เกมส์ ถ้าผู้จัดการแข่งขันนั้นประกอบไปด้วยคนที่มีวิชา รู้ครบถ้วนจริง ๆ การจัดการแข่งขันนั้นก็ไม่น่าจะประสบกับสภาวะขาดทุนอย่างป่นปี้ ในทางตรงข้าม มันกลับสร้างผลกระทบทางเศรษฐกิจในทางที่ดีให้แก่เจ้าภาพอย่างมหาศาลเลยทีเดียว อย่างเช่น ยูโร 2016 ที่กำลังจะเริ่มการแข่งขันในอีก 2 วันข้างหน้า
สหสมาคมฟุตบอลยุโรป หรือ ยูเอ๊ฟฟ่า (UEFA) เจ้าของลิขสิทธิ์การแข่งขันฟุตบอลชิงแช้มพ์แห่งชาติ ยูโร 2016 (2016 UEFA European Championship) ได้สั่งให้ ฝรั่งเศส ประเทศเจ้าภาพทำการศึกษาเรื่องรายรับ - รายจ่าย มีตัวเลขประมาณการต่าง ๆ ออกมาเป็นรายงานให้เขาทราบอย่างชัดเจน อันนี้ก็เพราะว่า ยูเอ๊ฟฟ่า จะต้องมีส่วนสำคัญในรายได้ที่เกิดขึ้นนั่นเอง
ฝรั่งเศส แจกแจงในรายงานดังกล่าว ว่า ค่าใช้จ่ายในการสร้างสนามฟุตบอลใหม่และปรับปรุงสนามที่มีอยู่เดิมต้องใช้งบประมาณทั้งสิ้น 1,650 ล้าน เออโร หรือประมาณ 66,000 ล้านบาท อันนี้ยังไม่รวมค่าใช้จ่ายในการปรับปรุงถนนหนทางที่นำไปสู่สนามและพาหนะต่าง ๆ เช่น รถไฟใต้ดิน รถเมล ซึ่งคิดเป็นเงินอีกประมาณ 400 ล้าน เออโร ในขณะเดียวกัน เขาคาดว่าจะได้รับผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจกลับมาคิดเป็นเงินจำนวน 1,134 ล้าน เออโร
เทศกาล ยูโร 2016 นี้ มันจะทำให้เกิดกิจกรรมต่าง ๆ เพิ่มขึ้นอย่างมากมายทั่วประเทศ นอกเหนือจากที่มีการบริโภคและมีการใช้จ่ายกันในท้องถิ่นในสภาวะปกติอยู่แล้ว งานนี้จะมีเงินสะพัดราว 800 ล้าน เออโร อันเกิดจากผู้ชมราว 2.5 ล้านคน ซึ่งในจำนวนนี้เป็นชาวต่างชาติประมาณ 1 ล้านคนจาก 110 ประเทศ อีก 600 ล้าน เออโร จากค่าที่พัก ค่าอาหาร และร้านค้าต่าง ๆ รวมทั้ง ค่าใช้จ่ายใน แฟนโซน อีกร่วม 200 ล้าน เออโร
ผมขอแทรกไว้นิดว่า เรื่องที่พักสำหรับทีมนักเตะของทุกชาติที่เข้าร่วมการแข่งขัน เจ้าหน้าที่ควบคุมการแข่งขัน ผู้ตัดสิน สปอนเซ่อร์ ผู้ร่วมให้การสนับสนุน เจ้าหน้าที่ถ่ายทอดโทรทัศน์ สื่อมวลชน รวมทั้ง ทีมงานของผู้จัดการแข่งขัน นั้น เขามอบให้ คูโอนี (Kuoni) บริษัททัวร์ยักษ์ใหญ่ของ สวิส เป็นผู้ดูแลทั้งหมด ซึ่งบริษัทดังกล่าวเคยได้รับหน้าที่นี้มาแล้วใน ยูโร 2008 ที่ สวิส เป็นเจ้าภาพร่วมกับ อ๊อสเตรีย
ในส่วนของภาษีมูลค่าเพิ่มที่เป็นผลพวงเกี่ยวเนื่องกับ ยูโร 2016 อันนี้ ฝรั่งเศส จัดเก็บจากการบริโภคแต่ละประเภทไม่เท่ากัน ตั้งแต่ 10 ถึง 20 เพอร์เซ็นท์ และสำหรับตั๋วเข้าชมการแข่งขันนั้นเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม 5.5 เพอร์เซ็นท์ รวมแล้วคาดว่ารัฐจะได้รับภาษีมูลค่าเพิ่มประมาณ 178 ล้าน เออโร อันนี้มาจากการคิดคำนวณผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นรวม 1,312 ล้าน เออโร
แต่สำหรับคณะกรรมการจัดการแข่งขันซึ่งได้ดำเนินการจดทะเบียนเป็นนิติบุคคลนั้นได้รับความช่วยเหลือจากรัฐบาล โดยเมื่อราว 2 ปีที่ผ่านมา ทางรัฐบาลฝรั่งเศสอ้างว่าได้เล็งเห็นว่า ยูโร 2016 ที่เกิดขึ้นบนแผ่นดินฝรั่งเศสนั้นจะนำมาซึ่งผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจมากมาย จึงตกลงยกเว้นภาษีทุกชนิดที่จะเกิดขึ้นให้แก่ผู้จัดการแข่งขัน เอ็งจะมีรายได้ มีกำไร จ่ายเงินให้ใครก็ไม่ต้องมาเสียภาษี ซึ่งก็มีหลายฝ่ายไม่เห็นด้วย เพราะประเมินว่า การยกเว้นภาษีดังกล่าวทำให้รัฐต้องสูญรายได้ไปร่วม ๆ 200 ล้าน เออโร
สำหรับรายได้ที่ ฝรั่งเศส จะต้องนำส่ง ยูเอ๊ฟฟ่า เต็ม ๆ เลยนั้นอาจแบ่งได้เป็นประเภทต่าง ๆ คือ ลิขสิทธิ์ถ่ายทอดโทรทัศน์ประมาณ 1,000 ล้าน เออโร สปอนเซ่อร์ 400 ล้าน เออโร ค่าจำหน่ายบัตรเข้าชม 250 ล้าน เออโร และค่าจัดการต้อนรับอีก 250 ล้าน อันนี้หมายถึง ห้องรับรองสำหรับแขกวีไอพี บริษัท ห้างร้าน หน่วยงาน รวมถึง ลิขสิทธิ์การผลิตของที่ระลึก รวมทั้งหมดก็เป็นเงิน 1,900 ล้าน เออโร ซึ่ง ยูเอ๊ฟฟ่า จะมีกำไรเห็น ๆ 900 ล้าน เออโร หรือประมาณ 36,000 ล้านบาท
