โนวัค ยอโควิช นักเทนนิสหนุ่มมือ 1 โลกจาก เซอร์เบีย กล่าวรู้สึกตื้นตันหลังได้แชมป์ แกรนด์ สแลม ที่ใฝ่ฝันมาตลอดครบทุกรายการในศึก เฟรนช์ โอเพน ที่ ฝรั่งเศส เมื่อคืนวันที่ 5 มิถุนายน ที่ผ่านมา ก่อนวาดฝันขอเป็นชายคนที่ 2 ที่สามารถเก็บแชมป์ใหญ่ครบทั้ง 4 ใบในปีเดียว ตามรอยตำนาน ร็อด เลเวอร์
หวดหนุ่มวัย 29 ปี เก็บแชมป์ เฟรนช์ โอเพน ใบสุดท้ายที่ยังไม่เคยครอบครองตลอดการเล่นอาชีพได้สำเร็จ จากผลเอาชนะ แอนดี เมอร์เรย์ เพื่อนซี้จาก สหราชอาณาจักร 3-1 เซต 3-6, 6-1, 6-2, 6-4 ส่งให้เจ้าตัวได้สแลมเป็นใบที่ 12 รวมทุกรายการ และเป็นคนที่ 8 ของวงการที่ได้สแลมครบทุกรายการแล้ว
ทำให้ตอนนี้ ยอโควิช รั้งอันดับ 4 ร่วมของคนที่ได้สแลมสูงสุดเท่า รอย เอเมอร์สัน ตำนานชาวออสซี แต่ยังตามหลัง ราฟาเอล นาดาล คู่ปรับชาวสแปนิช กับ พีท แซมพราส ตำนานรุ่นพี่ชาวอเมริกันอยู่ 2 รายการ ซึ่งเจ้าตัวก็วาดฝันอยากมีโอกาสเก็บสแลมที่เหลืออีก 2 รายการอย่าง วิมเบิลดัน และ ยูเอส โอเพน เป็น “คาเลนดาร์ สแลม”
ยอโควิช เผย “ผมไม่ได้จะทำตัวยะโสโอหังนะ แต่ก็คิดถึงความสำเร็จครั้งสูงสุดในชีวิตอยู่เหมือนกัน แน่นอนว่าการได้แชมป์รายการนี้ทำให้ผมรู้สึกมีความสุขมากและช่วยเติมเต็มที่สิ่งที่ขาดหาย ผมพยายามมาตลอด แต่หากถามว่าผมจะทำ คาเลนดาร์ สแลม ได้หรือไม่ บอกเลยว่านั่นมีความเป็นไปได้ทีเดียว”
“มันเป็นเรื่องที่เหลือเชื่อมากที่รู้ว่า ร็อด เลเวอร์ คือ คนล่าสุดที่ทำ คาเลนดาร์ สแลม ได้เมื่อปี 1962 และ 1969 ถือเป็นหนึ่งในความท้าท้ายสำหรับนักเทนนิสเลยทีเดียว” หวดเลือดเซิร์บ กล่าว
ส่วนผู้แพ้อย่าง เมอร์เรย์ แม้รู้สึกผิดหวังแต่ก็ยินดีที่ได้เห็นเพื่อนประสบความสำเร็จ “นี่เป็นวันของเขาอย่างแท้จริง การได้แชมป์ แกรนด์ สแลม ครบ 4 ใบ ถือเป็นผลงานที่ยอดเยี่ยม มันไม่เคยเกิดขึ้นมานานแล้ว ส่วนตัวผมรู้สึกตัวเองห่วยแตกมากที่แพ้ แต่ก็ภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของความสำเร็จของเขา ยินดีกับทีมของเขาด้วย สมควรได้แล้ว”