ผู้จัดการสุดสัปดาห์ 360 - “น้องเม” เอรียา จุฑานุกาล กลายเป็นก้านเหล็กสาวที่ร้อนแรงที่สุดบนเวที แอลพีจีเอ ทัวร์ ฤดูกาล 2016 หลังจากเป็นคนแรกในประวัติศาสตร์ที่ประเดิมแชมป์ด้วยการกวาด 3 ถ้วยติดต่อกัน
คนล่าสุดที่คว้า 3 แชมป์ติดต่อกัน คือ ปาร์ค อินบี อดีตมือ 1 ของโลกจากเกาหลีใต้เกิดขึ้นเมื่อปี 2013 แต่ก่อนหน้านี้สร้างชื่อกวาดแชมป์มาแล้วนับไม่ถ้วน จึงไม่เป็นที่ฮือฮามากนัก ผิดกับ “โปรเม” ที่ปลดล็อกแชมป์แรกด้วย 3 แชมป์ และไม่มีทีท่าว่าจะหยุดแค่นี้จนสื่อต่างประเทศลุ้นว่าจะทำลายสถิติ 5 แชมป์ติดต่อกันของ แอนนิกา โซเรนสตัม (สวีเดน) ทำไว้ปี 2004 - 05 กับ แนนซี โลเปซ (สหรัฐอเมริกา) ทำไว้ปี 1978 ได้หรือไม่
เมื่อวันอาทิตย์ที่ 29 พฤษภาคม ที่ผ่านมา ตามเวลาท้องถิ่น เอรียา ลงเล่นรอบสุดท้ายรายการ “วอลวิก แชมเปียนชิป” ณ ทราวิส พอยต์ คันทรี คลับ ระยะ 6,709 หลาพาร์ 72 ตั้งอยู่ใน แอนน์ อาร์บอร์ เมืองในรัฐมิชิแกน ประเทศสหรัฐอเมริกา ก่อนทำโบกี-ฟรี 5 อันเดอร์พาร์ โดยเป็นการเก็บ 4 เบอร์ดีจาก 5 หลุมไล่ตั้งแต่หลุม 13-17 รวม 4 รอบมี 15 อันเดอร์พาร์เฉือน คริสตินา คิม นักกอล์ฟชาวอเมริกันถึง 5 สโตรก
ถือเป็นแชมป์รายการที่ 3 ต่อจาก “โยโกฮามา ไทร์ แอลพีจีเอ คลาสสิก” กับ “คิงส์มิลล์ แชมเปียนชิป” รวม 25 วัน เอรียา โกยเงินไปอื้อซ่าราว 585,000 เหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 20 ล้านบาท)
ผลงานของ “โปรเม” สร้างความตื่นตะลึงไม่น้อย โดยเฉพาะ คริสตินา คิม ที่คว้ามาแค่ 3 แชมป์ตลอดอายุ 32 ปี ต้องออกมากล่าวว่า “ยากจะอธิบายถึงผลงานของ เอรียา เพราะไม่ค่อยมีผู้เล่นแบบเธอในรุ่นของฉัน ลูกที่เธอตีออกมาทรงพลังและเล่นได้อย่างมีจินตนาการอย่างไม่น่าเชื่อ ถือว่าเวลานี้ยากที่ใครจะมาเบรกเธอแล้ว”
ย้อนไปปีก่อน เอรียา ฟอร์มติดหล่ม เนื่องจากไม่ผ่านตัดตัวถึง 10 รายการติดต่อกัน แน่นอนว่า อาจจะเป็นผลกระทบจากการที่วืดแชมป์หลายต่อหลายรายการไล่ตั้งแต่ “ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์” ที่บ้านเกิดตั้งแต่ปี 2013 ตามด้วยเมื่อต้นปี 2016 น่าจะได้เมเจอร์แรก คือ “เอเอ็นเอ อินสไปเรชัน” แต่ว่าก็ดันมาตกมาตาย
อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมา เอรียา ย้ำเสมอว่า ไม่เคยเสียกำลังใจพร้อมกับยิ้มสู้ และบอกว่าจะนำความผิดพลาดที่เกิดขึ้นมาเป็นประสบการณ์เรียนรู้ไม่ให้พลั้งซ้ำสอง ซึ่งตอนนี้ดูเหมือนว่าจะทำได้สำเร็จแล้วกับการรับมือกับสภาพจิตใจและความกดดันระหว่างแข่งขัน ซึ่งสาวน้อยวัย 20 ปี ก็ยอมรับว่าไม่รู้สึกตื่นเต้นเหมือนก่อนแล้วกระทั่งปล่อยพัตต์สุดท้าย
ปัจจุบัน เอรียา ก็สามารถพุ่งไปรั้งมือ 10 ของโลก ซึ่งถือเป็นท็อปเทนดังที่ตั้งเป้าหมายเอาไว้ก่อนหน้านี้ เมื่อเป็นเช่นนั้นก็ต้องก้าวไปอีกขั้น ซึ่งก็คือแชมป์ระดับเมเจอร์ที่ถือเป็นสิ่งที่นักกอล์ฟทุกคนใฝ่ฝัน แน่นอนว่าถึงตอนนี้ไม่มีอะไรเป็นไปไม่ได้แล้ว
เจสซิกา คอร์ดา นักกอล์ฟสาววัย 23 ปี ชาวอเมริกันที่ทำสกอร์ 9 อันเดอร์พาร์ ตามหลัง เอรียา 6 สโตรก ในศึก “วอลวิก แชมเปียนชิป” กล่าวว่า “เธอเหลือเชื่อมาก แม้ระหว่างแข่งขันแสดงอาการเหมือนเบื่อและล้าออกมาพร้อมกับเข้าไปนั่งหลบแดดตอนหลุม 16 กับหลุม 18 อีกทั้งเรียกให้ฉันไปนั่งข้าง ๆ ด้วย โดยบอกว่าคล้ายมาปิกนิกกัน” ซึ่งไม่แน่สิ่งนั้นอาจจะเป็นวิธีที่สาวไทยใช้ผ่อนคลายรับมือกับความกดดันก็เป็นได้
จริง ๆ ก็ไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะก่อนหน้านี้ เอรียา ก็ได้รับการคาดหมายว่าจะขึ้นมาสร้างชื่อก่อนจะสะดุดต้องเข้ารับการผ่าตัดหัวไหล่ขวาเมื่อซัมเมอร์ปี 2013 จาการลื่นล้ม เหนืออื่นใดสามารถกลับมาแกร่งกว่าเดิมด้วยศักยภาพการเล่นที่เพิ่มขึ้น อีกหนึ่งปัจจัยก็คือการเปลี่ยนโค้ชมาใช้บริการ แกรี กิลเคิร์สต์ เมื่อต้นปีที่ผ่านมาด้วย
น่าเสียดายที่ระหว่างวันที่ 3 - 5 มิถุนายนนี้ มีรายการชื่อว่า “ช็อปไรท์ แอลพีจีเอ คลาสสิก” มาขั้น ซึ่ง “โปรเม” ไม่ได้ลงชิงชัย ก็ได้แต่หวังว่าจะไม่เป็นการเบรกโมเมนตัมที่กำลังไหลลื่นก่อนลุยศึกเมเจอร์ “เคพีเอ็มจี วีเมนส์ พีจีเอ แชมเปียนชิป” ที่จะเริ่มวันที่ 9 มิ.ย.นี้ก็แล้วกัน
เรื่อง สรเดช เพชรแสงใสกุล