ผู้จัดการรายวัน 360 – ศึกฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทาน คิงส์ คัพ ครั้งที่ 44 ประจำปี 2559 กำลังจะเปิดฉากแล้ว โดย “ช้างศึก” ทีมชาติไทย มีคิวลงเล่น 2 นัดในระบบ น็อคเอาท์ ปะทะคู่ต่อสู้ที่มีอันดับโลกเหนือกว่าจากแดนอาหรับ ซึ่งแน่นอนว่าจะเป็นบททดสอบอย่างดีหากหวังที่จะไปเล่นฟุตบอลโลก 2018 ที่รัสเซีย เนื่องจากในรอบคัดเลือกโซนเอเชีย รอบ 12 ทีมสุดท้าย ต้องพบกับทีมจากตะวันออกกลางถึง 3 ทีม ซึ่งต้องการันตีชัยชนะในบ้านให้ได้ทุกนัดจึงจะมีโอกาส
ทัพนักเตะทีมชาติไทย เตรียมประเดิมสนามศึก “คิงส์ คัพ” ครั้งที่ 44 ปะทะ ซีเรีย ค่ำวันที่ 3 มิถุนายน นี้ ที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน เวลา 20.00 น. ขณะที่อีกคู่ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) พบ จอร์แดน ในเวลา 17.00 น. โดยหากเสมอกัน 90 นาที จะยิงจุดโทษตัดสินทันที ไม่มีการต่อเวลาพิเศษ ซึ่งผู้ชนะของทั้งสองคู่จะผ่านเข้าไปชิงชนะเลิศ ในวันที่ 5 มิถุนายน เวลา 20.00 น. ส่วนผู้แพ้ชิงอันดับ 3 วันเดียวกัน เวลา 17.00 น.
สำหรับฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทาน คิงส์ คัพ ครั้งนี้ มีความหมายเป็นอย่างมาก เนื่องจากถูกจัดขึ้นในช่วงโปรแกรม ฟีฟา เดย์ จึงทำให้ผลการแข่งขันจะถูกนำไปคิดคะแนนสะสมอันดับโลกหรือ “ฟีฟา แรงกิง” ทั้ง 4 ทีมที่เข้าร่วมจึงต้องเน้นเป็นพิเศษ โดย “ช้างศึก” อันดับ 119 โลก (อันดับ 17 เอเชีย) แนวรุกนำโดย “มุ้ย” ธีรศิลป์ แดงดา, “เมสซีเจ” ชนาธิป สรงกระสินธ์, อดิศักดิ์ ไกรษร และ เกริกฤทธิ์ ทวีกาญจน์ ส่วนเกมรับมี “อุ้ม” ธีราทร บุญมาทัน แบ๊กซ้ายกัปตันทีม คอยสั่งการรวมกับ สารัช อยู่เย็น และ ธนบูรณ์ เกษารัตน์
ที่สำคัญทัวร์นาเมนท์นี้จะเป็นบททดสอบว่าทัพ “ช้างศึก” มีดีพอแค่ไหนในการลุ้นไปฟุตบอลโลก 2018 ที่รัสเซีย เนื่องจาก ยูเออี และ ซีเรีย มีดีกรีเป็นทีมที่ผ่านเข้าสู่รอบ 12 ทีมสุดท้ายโซนเอเชีย โดยทีมแรกยังอยู่สาย บี ร่วมกับไทย นอกจากนี้ในกลุ่มยังมี ซาอุดิ อาระเบีย และ อิรัก ที่เป็นทีมจากโซนอาหรับด้วยเช่นกัน ดังนั้นหาก “ช้างศึก” หวังที่จะไปบอลโลก ต้องแสดงให้เห็นใน คิงส์ คัพ ว่าสามารถการันตี 3 คะแนนในบ้านจากทีมในภูมิภาคนี้ให้ได้
“ซิโก้” เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง กุนซือใหญ่ทีมชาติไทย เผยว่า “ซีเรียถือว่าไม่ธรรมดา มีเกมรุกที่เฉียบคม ผู้เล่นสูงใหญ่ เทคนิคดี ในการคัดฟุตบอลโลก รอบสอง แพ้ ญี่ปุ่น ทีมเดียว นอกนั้นชนะรวด และยิงได้ถึง 26 ประตู ที่สำคัญได้มาปรับตัวกับสภาพอากาศที่เวียดนามมาแล้ว อย่างไรก็ตามยังพอมีจุดอ่อนในเรื่องพละกำลัง วิ่งเต็มที่ได้ราว 80 นาที ดังนั้นจึงจะใช้จุดแข็งของไทยคือความฟิตไล่บดในช่วงท้ายเกม ซึ่งรายการนี้จะเป็นการได้ทดลองเล่นกับทีมจากตะวันออกกลาง ซึ่งเราจะต้องเจอถึง 3 ทีมในการคัดฟุตบอลโลก ดังนั้นจึงต้องเน้นเป็นพิเศษ ต้องชนะและคว้าแชมป์ให้ได้”
ขณะเดียวกันเมื่อวันที่ 2 มิถุนายน ที่ผ่านมา ตัวแทนทั้ง 4 ทีมได้ร่วมแถลงความพร้อมก่อนเกม ที่ศูนย์การค้าเอ็มควอเทียร์ โดย ใกล้รุ่ง ตรีจักรสังข์ ผู้ช่วยโค้ชทีมชาติไทย กล่าวว่า "ทีมไทยสมบูรณ์พร้อมไม่มีใครบาดเจ็บ ซึ่งเราหวังถึงแชมป์แน่นอน ที่สำคัญเราได้สั่งให้นักฟุตบอลเล่นเต็มที่ ไม่มีเก็บเป็นความลับ แม้จะทราบมาว่า ออสเตรเลีย ที่อยู่ร่วมกลุ่มกับไทยใน รอบ 12 ทีมสุดท้ายคัดบอลโลก ได้ส่งสเกาท์มาดูฟอร์มก็ตาม”
ด้าน ซีเรีย ดีกรีอันดับ 110 ของโลก (อันดับ 14 เอเชีย) นำทัพโดย ซันฮากีฟ มัลกี ศูนย์หน้าตัวเก๋าวัย 32 ปี ที่เคยค้าแข้งกับ โรดา เจซี ทีมดังลีกดัตช์ สถิติ 65 นัด 42 ประตู ซึ่งก่อนมาเยือนเมืองไทย บุกไปอุ่นเครื่องพ่าย เวียดนาม 0-2 โดย ไอมาน ฮาคีม เฮดโค้ช เผยว่า ทีมมีปัญหาเรื่องตัวผู้เล่นที่บางรายยังไม่ฟิต ซึ่งในเกมอุ่นเครื่องที่แพ้เวียดนามต้องยอมรับว่ามีปัญหาที่แผงกองหลังจริง และเรารู้ว่ากองหน้าไทยก็มีความอันตราย แต่ทั้งนี้ก็เป็นเกมต่อเกม เรามั่นใจว่าจะต้องหยุดกองหน้าไทยให้ได้ ส่วนสภาพอากาศนั้นไม่มีปัญหาอะไร
ส่วนอีกสองทีมซึ่งจะต้องมีทีมใดทีมหนึ่งโคจรมาชนกับ “ช้างศึก” ในรอบชิงชนะเลิศ หรือ ชิงอันดับ 3 อย่าง สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) อยู่อันดับ 68 โลก (อันดับ 7 เอเชีย) ใช้ ขุนพลชุด ยู-23 ที่เตรียมชิงชัยใน โอลิมปิกเกมส์ 2016 เป็นแกนหลัก ผสมโรงด้วย อาห์เหม็ด อาลี ปีกซ้าย และ ฮัมดาน อัล คามาลี เซ็นเตอร์แบ๊ก ที่ติดธงในโควตาอายุเกินด้วยเช่นกัน โดย มาห์ดี อาลี เฮดโค้ช กล่าวว่า ทีมมีปัญหานักเตะบาดเจ็บเล็กน้อย บางคนจึงไม่ได้ร่วมเดินทางมาด้วย แต่ก็เป็นเรื่องดีที่จะได้ทดลองระบบการเล่นใหม่ๆ ซึ่งทัวร์นาเมนท์นี้มีความสำคัญ เพราะเป็นการเตรียมทีมไปเล่นฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก ดังนั้นเราจึงหวังที่จะคว้าแชมป์ให้ได้
ในส่วน จอร์แดน อันดับ 82 โลก (อันดับ 9 เอเชีย) จัดทัพใหญ่ ขาดเพียง อามิร์ ซาฟี นายด่านมือหนึ่งรายเดียว ที่เหลือมี ฮัมซา อัล-ดาร์ดัว ศูนย์หน้าที่ระเบิดไป 6 ประตูในศึกคัดบอลโลกล่าสุดเป็นทีเด็ด โดย อับดุลลาห์ อาบู เซมา กุนซือ กล่าวว่า นักเตะไม่มีใครบาดเจ็บ ทีมชุดนี้เป็นการผสมระหว่างผู้เล่นเก่าและผู้เล่นหน้าใม่ ซึ่งเราหวังว่าจะได้ประสบการณ์ที่ดีจากรายการนี้
* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!***