เอเยนซี - ศึกบาสเก็ตบอล เอ็นบีเอ (NBA) ทราบคู่ชิงชนะเลิศแล้วคือ โกลเดน สเตท วอร์ริเออร์ส พบ คลีฟแลนด์ คาวาเลียร์ส ซึ่งจัดขุมกำลังมาแบบเต็มสูบ หมายมั่นปั้นมือชำระแค้นที่สั่งสมมาตั้งแต่ปี 2015 โดยจะเปิดฉากเกมแรก (แข่งระบบ 4 ใน 7 เกม) ที่สนาม โอราเคิล อารีนา เช้าวันศุกร์ที่ 3 มิถุนายน ตามวัน-เวลาประเทศไทย
ย้อนกลับไปซีซันที่แล้ว ต้องบอกว่า คาวาเลียร์ส อกหักแบบโชคร้าย พ่ายซีรีส์ 2-4 เกม ขุมกำลัง “บิ๊กทรี” เหลือเพียง เลอบรอน เจมส์ ฟอร์เวืร์ด ขาดคู่หูอย่าง เควิน เลิฟ กับ คายรี เออร์วิง ที่มีปัญหาบาดเจ็บ แถมยังโดน อังเดร อิกัวดาลา สวิงแมนจอมเก๋า ใส่กุญแจจนเล่นไม่ออก 3 เกมสุดท้าย นำไปสู่การคว้าผู้เล่นทรงคุณค่า (MVP) รอบชิงฯ ทั้งที่ไม่ได้เป็นตัวจริงครบทุกเกมของ อดีตขุนพล ฟิลาเดลเฟีย เซเวนตีซิกเซอร์ส
วอร์ริเออร์ส เพิ่งเช็กบิล โอกลาโฮมา ซิตี ธันเดอร์ แบบดุเดือด 4-3 เกม รอบชิงชนะเลิศ สายตะวันตก วันอังคารที่ 31 พฤษภาคม ที่ผ่านมา ด้วยทีเด็ดลูกยิง 3 คะแนน ที่สามารถพลิกเกมได้เสมอ โดยเฉพาะ 2 เกมล่าสุด หวังผลได้ถึง 46.7 และ 45.9 เปอร์เซ็นต์ ตามลำดับ ทั้ง เคลย์ ธอมป์สัน การ์ดจอมแม่น เหมาไป 11 ลูก เกมที่ 6 เป็นสถิติสูงสุดเพลย์ออฟ ใน 1 เกม และ สตีเฟน เคอร์รี การ์ดจ่าย ซัดไปรวม 32 ลูก ตลอดซีรีส์ 7 เกม
ที่พบกันมาช่วง เรกูลาร์ ซีซัน 2 เกม เป็นฝั่ง แชมป์เก่า กวาดเรียบ ทว่าชัยชนะครั้งนั้นเกิดขึ้นยุค เดวิด แบล็ตต์ เฮดโค้ช ที่ถูกปลดไปแล้ว และก่อนหน้า “แคฟส์” จะดึงจิ๊กซอว์ชิ้นสำคัญอย่าง แชนนิง ไฟร์ ฟอร์เวิร์ดสำรอง มาจาก ออร์แลนโด แมจิก ซึ่งยิงไกลเข้าเป้า 58 เปอร์เซ็นต์ รอบเพลย์ออฟ ประสิทธิภาพสูงสุดหากเทียบกับผู้เล่นที่พยายามส่องมากกว่า 20 ครั้ง กอปรกับ เจ.อาร์.สมิธ มือปืนประจำทีม อาจจะพอประชันฝีมือด้านการยิงวงนอกได้สูสี
ทั้งนี้ เคอร์รี วัย 28 ปี อาจเล่นเกมรุกครบเครื่อง ทั้งการชู้ตระยะ 2 คะแนน หรือ 3 คะแนน หรือการเลี้ยงบอลอันเหนียวแน่น และคล่องแคล่ว แต่ก็ถูกตั้งข้อสังเกตด้านเกมรับ เนื่องจาก เคอร์ มักเลือก อิกัวดาลา หรือ ธอมป์สัน ประกบ รัสเซลล์ เวสต์บรูก ขณะที่ “คิงเจมส์” ก็ตั้งความหวังไว้ค่อนข้างสูงว่า จะนำแชมป์ลีกกีฬาอาชีพครั้งแรก กลับคืนสู่มาตุภูมิ นับตั้งแต่ คลีฟแลนด์ บราวน์ส ครองแชมป์ อเมริกันฟุตบอล เอ็นเอฟแอล (NFL) ปี 1964
ฟาก ไทรอนน์ ลู นายใหญ่ขัดตาทัพ คาดหวังจะเดินตามรอย สตีฟ เคอร์ หัวหน้าโค้ช วอร์ริเออร์ส สัมผัสโทรฟี “แลร์รี โอ’ไบรอัน” ตั้งแต่ฤดูกาลแรกที่รับงาน ก่อนหน้า เคอร์ จะทำสำเร็จ ย้อนกลับไปปี 1982 เป็น แพ็ต ไรลีย์ ประธาน ไมอามี ฮีต คนปัจจุบัน พา แอลเอ เลเกอร์ส เถลิงแชมป์ หลังจากคุมทีมแบบเต็มตัว ระหว่างฤดูกาลปกติ
อย่างที่ทราบกันดีว่า วอร์ริเออร์ส ถือ โฮม คอร์ต แอดแวนเทจ เนื่องจากสถิติดีสุด ช่วงเรกูลาร์ ซีซัน ชนะ 73 แพ้ 9 ทว่าการห้ำหั่นกับ “โอเคซี” ชนิดต้องวัดกันถึงฎีกา ย่อมส่งผลต่อสภาพร่างกาย ซึ่งนับจากนี้ พลพรรค “นักรบ” จะได้พักแค่ 2 วัน ต่างจาก รองแชมป์เก่า ที่เช็กบิล โตรอนโต แร็พเตอร์ส 4-2 เกม ตั้งแต่สุดสัปดาห์ที่ผ่านมา (28 พ.ค.) ดังนั้นการชาร์จแบตเกือบ 1 สัปดาห์ ย่อมมีสิทธิ์ปล้นสัก 1 เกม เพื่อกลับไปปิดบัญชี ที่ ควิกเคน โลนส์ อารีนา ได้เช่นกัน
การเผชิญหน้ากันของ วอร์ริเออร์ส กับ คาวาเลียร์ส ถือเป็นการรีแมตช์รอบชิงฯ ครั้งที่ 13 ของ NBA ตามสถิติดังกล่าว ทั้ง 2 ทีม ผลัดกันแพ้-ชนะซีรีส์ 6 ครั้ง โดย ชิคาโก บูลล์ส ยุคคู่หูมหากาฬอย่าง ไมเคิล จอร์แดน กับ สกอตตี พิพเพน และ ฟิล แจ็คสัน เฮดโค้ชระดับปรมาจารย์ เป็นทีมลำดับที่ 7 ซึ่งสามารถป้องกันตำแหน่งไว้ได้ ปี 1997 กับ 1998 พบ ยูทาห์ แจซซ์