xs
xsm
sm
md
lg

ก้าวผ่านความกลัว-กำลังใจ แรงผลัก “โปรเม” ถึงแชมป์

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

โปรสาวประวัติศาสตร์ของไทย
ผู้จัดการสุดสัปดาห์ 360 - กอล์ฟคือกีฬาที่ผู้เล่นต้องสู้กับตัวเองก่อนเป็นลำดับแรกหมายถึงควบคุมจิตใจจากนั้นก็วาดวงสวิงเพื่อให้สกอร์ออกมาดีที่สุดจึงค่อยไปวัดกับคู่แข่ง บางคนไม่อาจต้านทานแรงกดดันที่ถาโถมจนตีเสียเองหมดลุ้นแชมป์ชนิดที่เรียกว่าหลุมเดียวเปลี่ยนชีวิตก็มีให้เห็นมาแล้วนักต่อนัก

เอรียา จุฑานุกาล นักกอล์ฟสาวไทย ก็เคยเผชิญ “ฝันร้าย” ทำนองดังกล่าวมาแล้วสดๆ ร้อนๆ ก็คือเมเจอร์แรกของปี 2016 รายการ “เอเอ็นเอ อินสไปเรชัน” เมื่อช่วงต้นเดือนเมษายนที่ผ่านมา โดยทำสกอร์ 13 อันเดอร์พาร์ทิ้งผู้ตาม 2 สโตรกขณะที่เหลืออีก 3 หลุมจะได้สัมผัสโทรฟีย์ แต่กลับพลาดเสีย 3 โบกีทุกหลุมไล่ตั้งแต่ทำ 3 พัตต์หลุม 16 พาร์ 4 ตามด้วยตกบังเกอร์และตกน้ำตามลำดับ สุดท้ายรูดจบที่ 4 สกอร์ 10 อันเดอร์พาร์ ปล่อยแชมป์หลุดมือให้ ลิเดีย โค มือ 1 ของโลกจาก นิว ซีแลนด์ ที่ทำไป 12 อันเดอร์พาร์

ยิ่งกว่านั้นย้อนไปเมื่อปี 2013 ในศึก “ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์” เอรียา ตอนนั้นอายุ 17 ปีเกือบได้แชมป์ที่บ้านเกิด แต่พลาดปล่อยความได้เปรียบ 2 สโตรกที่นำอยู่หลุดมือทั้งที่เหลือหลุมเดียว โดยเสียทริปเปิลโบกีหลุมสุดท้ายพาร์ 5 สุดท้ายเสียแชมป์ให้กับ ปาร์ค อินบี ของเกาหลีใต้ที่ชนะไปแค่สโตรกเดียว

ยังมีเมื่อปี 2015 ที่ เอรียา ได้เพลย์ออฟกับ 2 สาวเกาหลีอย่าง คิม เซ-ยอง กับ ยู ซุน-ยอง ในศึก “เพียว ซิลค์-บาฮามาส” ก่อนจะแพ้ทางด้าน คิม ไปอย่างน่าเสียดาย

ประสบการณ์ที่ผ่านมากลายเป็นเกราะป้องกันจนส่งให้ “โปรเม” กลายเป็นนักกอล์ฟสาวไทยคนแรกที่คว้าแชมป์ระดับ แอลพีจีเอ ทัวร์ รายการ “โยโกฮามา ไทร์ แอลพีจีเอ คลาสสิก” เมื่อวันที่ 8 พฤษภาคมที่ผ่านมา โดยรอบ 3 เล่นได้อย่างยอดเยี่ยมทำถึง 9 อันเดอร์พาร์จนกุมความได้เปรียบก่อนเล่นรอบสุดท้าย 3 สโตรก ซึ่งก็เกือบมีดราม่าอีกครั้งเพราะความกดดันจึงทำสกอร์ 4 เบอร์ดีกับ 4 โบกีจบวันที่อีเวนพาร์เข้าป้ายด้วยสกอร์ 14 อันเดอร์พาร์

แชมป์นี้ของ “โปรเม” ถือว่าไม่ธรรมดา เพราะเฉือนอันดับ 2 ร่วมที่มี 3 รายสโตรกเดียว ซึ่งแต่ละคนล้วนดีกรีไม่ธรรมดาประกอบไปด้วย เอมี หยาง (เกาหลีใต้) กับ 2 สาวอเมริกันอย่าง สเตซีย์ ลูอิส อดีตมือ 1 ของโลกกับ มอร์แกน เพรสเซล ที่ทั้งคู่มีดีกรีคว้าแชมป์ระดับเมเจอร์มาแล้ว 2 กับ 1 รายการตามลำดับ

สำหรับแชมป์นี้ เอรียา รับเงินรางวัล 195,000 เหรียญสหรัฐ (ประมาณ 6.8 ล้านบาท) โดยปี 2016 ทำไปแล้ว 492,820 เหรียญสหรัฐ (ประมาณ 17.2 ล้านบาท) แต่ถ้ารวมตลอดอาชีพโกยไปถึง 975,347 เหรียญสหรัฐ (ประมาณ 34.1 ล้านบาท) พร้อมขยับ 11 ขั้นขึ้นมารั้งมือ 21 ของโลก ซึ่งทำให้เป็นมือ 1 ของไทยด้วย

ซึ่ง “โปรเม” ก็ให้สัมภาษณ์ว่าเกือบอกหักซ้ำรอยอีกครั้ง เพราะว่าเธอตื่นเต้นจนควบคุมอะไรไม่ได้เลยทั้งแขนและขาสั่นไปหมด โดยเฉพาะจังหวะพัตต์หลุมสุดท้าย แต่ก็ได้แคดดีช่วยกระตุ้นตลอดเวลา เหนืออื่นใดก็คือครอบครัวที่ให้กำลังใจเสมอมาไม่ว่าจะล้มกี่ครั้งไม่ว่าจะเป็นพี่สาว “โปรโม” โมรียา จุฑานุกาล กับคุณแม่นฤมล แน่นอนว่าทั้งคู่ก็อยู่ตรงขอบกรีนในวินาทีที่ เอรียา คว้าแชมป์แรกในชีวิต จากนั้นก็ได้มอบแชมป์ให้แม่เนื่องจากใกล้เคียงกับวันแม่สากลพอดิบพอดี

เอรียา ถือเป็นดาวรุ่งที่น่าจับตามองตั้งแต่สมัยเป็นเยาวชนกวาดแชมป์ AJGA (สมาคมกอล์ฟเยาวชนของสหรัฐอเมริกา) นับไม่ถ้วน โดยถือเป็นผู้เล่นที่เด็กที่สุดวัย 11 ปีที่ควอลิฟายลุยศึก แอลพีจีเอ ทัวร์ ก่อนจะเทิร์นโปรเมื่อปี 2012 จากนั้นกลางปี 2013 เส้นทางกอล์ฟอาชีพหลุดชะงักไปพักหนึ่งเพราะลื่นล้มต้องผ่าตัดหัวไหล่ แต่ว่าก็สามารถกลับมาได้อย่างยอดเยี่ยม

เส้นทางความสำเร็จของแต่ละคนนั้นไม่เหมือนกัน สำหรับโปรสาวที่ชื่อ เอรียา ถือว่าผ่านร้อนผ่านหนาวมาพอสมควรทั้งที่วัย 20 ปีบนเส้นทางสิ่งที่รักที่เธอได้เลือกแล้ว ซึ่งหลังจากอกหักวืดแชมป์หลายต่อหลายครั้งพระศุกร์เข้าพระเสาร์แทรกมีปัญหาอาการบาดเจ็บ แต่ตอนนี้สามารถปลดล็อคแชมป์แรกได้แล้วจากนี้ก็น่าจะได้เวลาทะยานไล่ตามฝันได้อย่างเต็มที่ไม่ว่าจะเป็นการไต่ท็อปเท็นโลกที่เคยเปรยเอาไว้รวมถึงการไปลุยศึก โอลิมปิก 2016 ไล่ล่าเหรียญรางวัลที่ ริโอ เกมส์ ประเทศบราซิล

เรื่อง สรเดช เพชรแสงใสกุล
เซลฟีกับถ้วยแชมป์
แชมป์นี้แคดดีมีส่วนช่วยไม่น้อย
รับเงินรางวัลก้อนโต
พี่สาวกับแม่ที่เป็นกำลังใจเสมอ

กำลังโหลดความคิดเห็น