ประวัติศาสตร์ชาติของ อัลแบเนีย ไม่เคยเล่นฟุตบอลโลกหรือยูโรมาก่อน ดังนั้นปี 2016 ถือเป็นครั้งแรก โดยเป็น 1 ใน 5 ชาติที่เปิดซิงชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป แน่นอนงานของ "ดิ อีเกิลส์" ในการที่จะสร้างเซอร์ไพรส์ไม่ง่ายเลย โดยต้องฝากความหวังไว้ที่กุนซือชาวอิตาเลียนกับนักเตะที่ค้าแข้งเวที กัลโช เซเรีย อา
อิตาเลียน จ็อบ - มีโค้ชไม่กี่คนหรอกที่อยากรับงานนี้หนึ่งในนั้นคือ จานนี เดอ บิอาซี ซึ่งก็พา อัลแบเนีย ไปเล่นรอบสุดท้ายครั้งแรกในประวัติศาสตร์จากผลงานรองแชมป์กลุ่ม ไอ ในรอบคัดเลือกเบียดทั้ง เดนมาร์ก และ เซอร์เบีย ซึ่งกุนซือวัย 59 ปีมีประสบการณ์ทั้งในฐานะกองกลางและเคยคุมสโมสรอิตาลี อาทิ เบรสชา, โตริโน และ อูดิเนเซ ซึ่งจากผลงานจึงทำให้ปีที่แล้วได้รับพาสปอร์ตอัลแบเนียนเป็นสัญลักษณ์ของความรักและทุ่มเทเพื่อประเทศนี้
หัวใจจากคาบสมุทรบอลข่าน - เดอ บิอาซี ใช้บริการนักเตะที่เกิดในอัลแบเนียรวมถึงผู้เล่นพลัดถิ่นผสมผสานกับประสบการณ์ที่ได้จากการค้าแข้งที่ อิตาลี, เยอรมนี และ สวิตเซอร์แลนด์ แม้ว่าจะจบที่ 2 ของกลุ่ม แต่สามารถบุกไปเอาชนะแชมป์กลุ่มอย่าง โปรตุเกส 1-0
ไม่ใช่หมูให้เคี้ยว - การที่มีกุนซือชาวอิตาเลียนแน่นอนว่าสไตล์การเล่นที่ออกมาคือเหนียวแน่นเอาไว้ก่อนแล้วคอยหาจังหวะเข้าทำ ดังนั้นการชนะหรือแพ้นั้นผลต่างประตูย่อมไม่ค่อยเกิน 1 ลูก กระดูกสันหลังของทีมคือหลังบ้านเริ่มจาก เอตริท เบริชา มือกาว ลาซิโอ, เอลซีด ไฮซาจ กองหลัง นาโปลี และ ลอริค กานา แนวรับ น็องต์ส ที่มีประสบการณ์ติดธง 90 นัด
ขาดแคลนประตู - อัลแบเนีย ประสบปัญหาในการจบสกอร์รอบคัดเลือก 8 นัดยิงได้ 10 ประตู เพราะ "บังเกอร์-สไตล์" ที่ เดอ บิอาซี นำมาใช้ อย่างเช่นเกมอุ่นเครื่องบุกไปแพ้ ออสเตรีย 1-2 เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมาหลังเสีย 2 ประตูช่วง 15 นาทีแรก ส่วนเกมถัดมาที่บุกชนะ ลักเซมเบิร์ก 2-0 ก็เพราะคู่ต่อสู้มีนักเตะถูกไล่ออก
หวังเซอร์ไพรส์ - เกมลับแข้งเมื่อเดือนมิถุนายนปี 2015 อัลแบเนีย สร้างความประหลาดใจด้วยการชนะเจ้าภาพ ฝรั่งเศส 1-0 ก่อนที่จะจับสลากโคจรมาอยู่กลุ่มเดียวกัน แน่นอนว่าการเป็นทีมรองบ่อนคือเล่นแบบไม่มีอะไรจะเสียจึงเป็นทีมอย่าง สวิตเซอร์แลนด์ กับ โรมาเนีย ต่างหากที่กดดันหากเจอกันแล้วเอาชนะไม่ได้ ที่สำคัญนักเตะไม่มีใครรู้สไตล์อย่างดาวรุ่ง เออร์กีย์ กาเซ มิดฟิลด์ พีเอโอเค วัย 22 ปี และ มิลอต ราชิกา ปีกวัย 19 ปีของ วิเทสส์ อาร์เนม
