ผู้สื่อข่าว "เอ็นเอฟแอล เนชั่น (NFL Nation)" สวมบทผู้จัดการทั่วไปของแต่ละทีม ศึก อเมริกันฟุตบอล เอ็นเอฟแอล (NFL) ก่อนการดราฟต์ วันที่ 28-30 เมษายนนี้ ตามวัน-เวลาท้องถิ่น ที่เมืองชิคาโก จัดทำ "ม็อค ดราฟต์ (แบบจำลองการดราฟต์)" คาดว่า จาเหร็ด กอฟฟ์ จาก มหาวิทยาลัย แคลิฟอร์เนีย น่าจะถูก ลอส แองเจลิส แรมส์ เจ้าของสิทธิ์อันดับ 1 คว้าไปร่วมทัพ
อันดับ 1 ลอส แองเจลิส แรมส์ (แลกกับ เทนเนสซี ไตตันส์) - จาเหร็ด กอฟฟ์ ควอเตอร์แบ็ก
หมายตาไว้ทั้ง กอฟฟ์ และ คาร์สัน เวนท์ซ ดังนั้นไม่น่าแปลกใจ หากลงเอยกับคนใดคนหนึ่ง แต่ กอฟฟ์ วัย 21 ปี เหนือกว่าด้านการเล่นหลังแนวป้องกัน (พ็อคเก็ต) และประสบการณ์เกมที่ดุเดือด น่าจะเบียดคว้าตำแหน่งนัมเบอร์วันดราฟต์
อันดับ 2 ฟิลาเดลเฟีย อีเกิลส์ (แลกกับ คลีฟแลนด์ บราวน์ส) - คาร์สัน เวนท์ซ ควอเตอร์แบ็ก
ชนะ 10 เกมเพลย์ออฟ ตลอด 8 ปี หลังเลือก โดโนแวน แม็คแน็บบ์ อันดับ 2 เมื่อปี 1999 และยังไม่เคยชนะเกมโพสต์ซีซันเลย นับตั้งแต่ แม็คแน็บบ์ จากไป ไม่น่าแปลกใจ หาก ดัก พีเตอร์สัน เฮดโค้ชป้ายแดง จะเดินตามรอย แอนดี หรีด ขณะที่ อีเกิลส์ ยอมเทรดเพื่อขึ้นอันดับ 2 แบบสายฟ้าแล่บ ดังนั้น เวนซ์ วัย 23 ปี น่าจะเป็นคนกุมชะตาแฟรนไชส์
อันดับ 3 ซาน ดีเอโก ชาร์เจอร์ส - เดอฟอเรสต์ บัคเนอร์ ดีเฟนซีฟ เอนด์
ปล่อยให้คู่แข่งวิ่งเกิน 2,000 หลา ครั้งแรกตั้งแต่ปี 2013 เสียไป 17 ทัชดาวน์ ครั้งแรกตั้งแต่ปี 1985 ชาร์เจอร์ส จึงต้องการผู้เล่นที่หยุดเกมรุกภาคพื้นดิน และสามารถกดดันเกมขว้าง บัคเนอร์ จัดว่าเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมสุดๆ
อันดับ 4 ดัลลัส คาวบอยส์ - จาเลน แรมซีย์ คอร์เนอร์แบ็ก
เดอมาร์คัส ลอว์เรนซ์ ดีเฟนซีฟ เอนด์ มีสิทธิ์ติดโทษแบน ทำให้ โจอี โบซา เป็นตัวเลือกที่เหมาะสม แต่ถ้าปล่อย แรมซีย์ หลุดมือ ต้องถือว่าผิด เนื่องจาก คาวบอยส์ ต้องการตัวคุมปีกอยู่แล้ว อีกทั้ง แรมซีย์ รูปร่างสูงใหญ่ สามารถเล่นได้ทุกตำแหน่งกองหลัง แล้วค่อยไปเลือกไลน์แมนจากสิทธิ์รอบ 2 เป็นปีที่ 3 ติดต่อกัน
อันดับ 5 แจ็คสันวิลล์ จากัวร์ส - ไมเลส แจ็ค ไลน์แบ็คเกอร์
แจ็ค สรีระ 6 ฟุต 1 นิ้ว หนัก 245 ปอนด์ เป็นผู้เล่นดีสุดของรุ่น ด้านการคุมพื้นที่ และ จากัวร์ส ต้องการเพลย์เมกเกอร์ทีมรับ แบ่งเบาภาระ พอล ปอสลุสซ์นี หยุดการเปลี่ยนดาวน์ที่ 3 และมีสิทธิ์จะยึดตัวจริงอย่างถาวรระยะยาว
อันดับ 6 บัลติมอร์ เรฟเวนส์ - ลาเรมี ทุนซิล ออฟเฟนซีฟ แท็คเกิล
ยูจีน มอนโร ไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่าเป็นที่พึ่งพาของทีม ปล่อยให้ โจ แฟล็กโก ควอเตอร์แบ็ก ปิดฉากซีซันด้วยอาการเจ็บเข่า ผ่านไป 20 ปี หลังการดราฟต์ โจนาธาน อ็อกเดน เรฟเวนส์ น่าจะค้นพบตัวตายตัวแทนอย่างแท้จริง หยุดปฏิบัติการล่า แท็คเกิลด้านซ้าย ที่กินเวลานานถึง 8 ปี
อันดับ 7 ซาน ฟรานซิสโก โฟร์ตีไนเนอร์ส - รอนนี สแตนลีย์ ออฟเฟนซีฟ แท็คเกิล
จาเหร็ด กอฟฟ์ น่าจะถูกตัดหน้าไปแล้ว โฟร์ตีไนเนอร์ส จึงต้องหันมาเลือกผู้เล่นเกมรับระดับท็อป 5 แต่ก็เสร็จทีมอื่นๆ ไปก่อน 3 ราย แถมยังใช้สิทธิ์รอบแรก ดราฟต์คอร์เนอร์แบ็กเพียง 3 ครั้ง นับตั้งแต่คว้า รอนนี ล็อตต์ ปี 1981 สแตนลีย์ ถือเป็นการเสี่ยงที่น่าจะปลอดภัยสุด โดยเฉพาะอนาคต แอนโธนี เดวิส แท็คเกิลด้านขวา ที่ไม่มีบทสรุปว่า ต้องรีไทร์หรือไม่
อันดับ 8 คลีฟแลนด์ บราวน์ส - เอเซกิเอล เอลเลียตต์ รันนิงแบ็ก
มีเพียงหนึ่งเดียวจากทีมบุกของการดราฟต์ที่มีค่าพอติดท็อป 10 อาจเสี่ยงไปหน่อย หากเลือก รันนิงแบ็ก ตั้งแต่รอบแรก แต่ เอลเลียตต์ กดค่าเฉลี่ยมากกว่า 6 หลา ต่อการถือบอล 1 ครั้ง ตลอด 2 ซีซันล่าสุด กับ มหาวิทยาลัย โอไฮโอ สเตท ทะลวง 41 ทัชดาวน์
อันดับ 9 แทมปา เบย์ บัคคาร์เนียร์ส - โจอี โบซา ดีเฟนซีฟ เอนด์
เคยถูกจับตามองว่าจะเป็น นัมเบอร์วันดราฟต์ มาระยะหนึ่ง การขับเคี่ยวกับคู่แข่งร่วมดิวิชันที่มีควอเตอร์แบ็กอย่าง แคม นิวตัน (แครอไลนา แพนเธอร์ส) , ดรูว์ บรีส์ (นิวออร์ลีนส์ เซ็นต์ส) และ แม็ตต์ ไรอัน (แอตแลนตา ฟอลคอนส์) การกดดันเกมขว้างของ บัคคาร์เนียร์ส ต้องยกระดับขึ้นอย่างเร่งด่วน
อันดับ 10 นิวยอร์ก ไจแอนท์ส - เลโอนาร์โด ฟลอยด์ ไลน์แบ็คเกอร์ตัวนอก
ถึงเวลาต้องใช้สิทธิ์รอบแรก เลือกผู้เล่นทีมรับ นับตั้งแต่ปี 2011 หลังเสียระยะเฉลี่ยมากสุด 420.3 หลา ฟลอยด์ มีฝีไม้ลายมือด้านการกดดันเกมขว้างติดตัวอยู่แล้ว เอื้อประโยชน์ต่อการวางแผน บลิตซ์ (โจมตีควอเตอร์แบ็ก) แถมยังปรับมายืนสูงขึ้นใกล้กับ ดีเฟนซีฟ ไลน์แมน เมื่อถึงเวลาป้องกันเกมขว้าง
* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *
