คอลัมน์ Buzzer Beat โดย MVP
ศึกบาสเก็ตบอล เอ็นบีเอ (NBA) เพลย์ออฟ เปิดฉากขึ้นพร้อมกับข่าวคราวที่ไม่ค่อยดีเท่าไรของแฟนๆ โกลเดน สเตท วอร์ริเออร์ส หลัง สเตฟ เคอร์รี การ์ดจ่าย เนื่องจากอาการบาดเจ็บเสียแล้ว ลองเช็กดูคามคลิปของเว็บไซต์ต่างประเทศ เชื่อว่าคงไม่ได้รุนแรงหนัก ก็ยังเห็นว่าเดินเข้า ล็อคเกอร์ รูม ด้วยตัวเอง และการเผชิญหน้า ฮูสตัน ร็อคเก็ตส์ ก็คงจะไม่ใช่งานเหลือบ่ากว่าแรง
เจ้าของรางวัลผู้เล่นทรงคุณค่า (MVP) ปี 2015 ข้อเท้าพลิกตั้งแต่เกม 1 ของการรีแมตช์รอบชิงแชมป์สายตะวันตก พอร่างกายยังไม่เต็มร้อยช่วงวอร์มอัพ สตีฟ เคอร์ เฮดโค้ช ต้องพักไว้ข้างสนาม ขณะเดียวกัน ลองดูขุมกำลัง ร็อคเก็ตส์ แม้จะเข้ารอบอันดับ 8 ด้วยชื่อเสียงของ เจมส์ ฮาร์เดน กับ ดไวท์ ฮาวเวิร์ด บอกเลยว่า แฟน “นักรบ” ก็อาจมีเสียวๆ อยู่บ้าง
พอเอาเข้าจริงๆ วอร์ริเออร์ส ก็ยังอาศัยทรัพยากรที่มีอยู่ เอาตัวรอดมาได้ ขึ้นนำ 2-0 เกม นับถึงวันนี้ (19 เม.ย.) ถือว่ามีโอกาสกวาดซีรีส์แบบสบายๆ ลองย้อนไปดูสถิติ 2 ซีซันล่าสุด ก็ข่ม ร็อคเก็ตส์ แทบโงหัวไม่ขึ้น ชนะ 13 แพ้ 1 นึกๆ ดูแล้ว เคอร์รี อาจจะรอคัมแบ็กถึงรอบรองชนะเลิศของสายก็เป็นได้ อย่างที่ เคอร์ สัมภาษณ์ไว้ว่า จะพิจารณาจากความฟิตเป็นอันดับแรก ไม่ได้แยแสเรื่องซีรีส์จะยืดเยื้อ หรือเสี่ยงตกรอบหรือไม่
จากผลงานเกม 2 อังเดร อิกัวดาลา พึ่งพาได้เสมอหากถึงคราวจำเป็น ไม่ได้มีดีแค่เกมรับที่หยุด เลอบรอน เจมส์ จนคว้า MVP รอบชิงฯ ฤดูกาลที่แล้ว เริ่มเกมด้วยการยิง 3 คะแนน เข้าเป้า 4 จาก 5 ครั้ง นอกจากนี้คนอื่นๆ ก็ทำได้น่าประทับใจไม่แพ้กัน อาทิ แอนดรูว์ โบกัต เซ็นเตอร์ออสซี ที่ต้องลงมาเพื่อประกบ ดไวท์ ฮาวเวิร์ด เคลื่อนไหวอย่างคล่องแคล่ว ไม่ทำให้เสียจังหวะการเล่นเกมเร็วตามสรีระเฉียด 7 ฟุต
ชอน ลิฟวิงสตัน ลงมาคุมบอลแทน เคอร์รี แบบหล่อๆ สูง 6 ฟุต 7 นิ้ว ได้เปรียบ การ์ด ร็อคเก็ตส์ โจมตีได้ทั้งการชู้ตระยะกลาง หรือโพสต์ใส่ซะเลย และ เดรย์มอนด์ กรีน ฟอร์เวิร์ด จัดว่าครบเครื่อง ทั้งรุกและรับ ค่าเฉลี่ย เรกูลาร์ ซีซัน ถือว่าใกล้เคียง ดับเบิล-ดับเบิล หรือ ทริปเปิล-ดับเบิล ด้วยซ้ำ 14.0 แต้ม 9.5 รีบาวน์ด 7.4 แอสซิสต์
คนหนึ่งที่จะลืมเสียมิได้ คือ เคลย์ ธอมป์สัน การ์ดจอมแม่น ที่หลายๆ คนอาจจะลืมไปว่า ลูกยิง 3 แต้ม ก็อันตรายไม่ยิ่งหย่อนกว่า เคอร์รี สักเท่าไร หากลงเล่นคู่กันแล้ว อาจถูกกลบรัศมีไปบ้าง แต่เกมที่แล้ว รับบทพระเอกไปเต็มๆ ผลงาน 34 แต้ม
อย่างไรก็ตาม ประเด็นที่น่าสนใจอยู่ที่ เกมรุก วอร์ริเออร์ส ตกเป็นรองคู่แข่ง 3.7 แต้ม ต่อการครองบอล 100 ครั้ง หากขาด เคอร์รี แต่บางทีช่องว่างระหว่างเกม 1 กับ 3 อันยาวนาน 5 วัน มือปืนวัย 28 ปี ก็น่าจะฟิตกลับมาเช็กบิลเสียตั้งแต่เนิ่นๆ ที่โตโยต้า เซ็นเตอร์ เสียเลย มองอีกแง่หนึ่ง ถ้าจะพักเอาไว้ต่อไป รอจนกว่าจะพร้อมจริงๆ ก็ยังพอไหว ก็ยังพอไหวอยู่สำหรับ “นักรบ”
ไม่ว่า เคอร์ จะตัดสินใจแบบไหน คู่ต่อสู้รอบ 2 ของ วอร์ริเออร์ส เป็นได้ทั้ง แอลเอ คลิปเปอร์ส หรือ ปอร์ตแลนด์ เทรล เบลเซอร์ส ที่มี 2 การ์ดดาวดังอย่าง คริส พอล และ เดเมียน ลิลลาร์ด ตามลำดับ ถึงเวลานั้น เคอร์รี จำเป็นต้องลงสนาม เพื่องัดศักยภาพสูงสุดของทีม
ศึกบาสเก็ตบอล เอ็นบีเอ (NBA) เพลย์ออฟ เปิดฉากขึ้นพร้อมกับข่าวคราวที่ไม่ค่อยดีเท่าไรของแฟนๆ โกลเดน สเตท วอร์ริเออร์ส หลัง สเตฟ เคอร์รี การ์ดจ่าย เนื่องจากอาการบาดเจ็บเสียแล้ว ลองเช็กดูคามคลิปของเว็บไซต์ต่างประเทศ เชื่อว่าคงไม่ได้รุนแรงหนัก ก็ยังเห็นว่าเดินเข้า ล็อคเกอร์ รูม ด้วยตัวเอง และการเผชิญหน้า ฮูสตัน ร็อคเก็ตส์ ก็คงจะไม่ใช่งานเหลือบ่ากว่าแรง
เจ้าของรางวัลผู้เล่นทรงคุณค่า (MVP) ปี 2015 ข้อเท้าพลิกตั้งแต่เกม 1 ของการรีแมตช์รอบชิงแชมป์สายตะวันตก พอร่างกายยังไม่เต็มร้อยช่วงวอร์มอัพ สตีฟ เคอร์ เฮดโค้ช ต้องพักไว้ข้างสนาม ขณะเดียวกัน ลองดูขุมกำลัง ร็อคเก็ตส์ แม้จะเข้ารอบอันดับ 8 ด้วยชื่อเสียงของ เจมส์ ฮาร์เดน กับ ดไวท์ ฮาวเวิร์ด บอกเลยว่า แฟน “นักรบ” ก็อาจมีเสียวๆ อยู่บ้าง
พอเอาเข้าจริงๆ วอร์ริเออร์ส ก็ยังอาศัยทรัพยากรที่มีอยู่ เอาตัวรอดมาได้ ขึ้นนำ 2-0 เกม นับถึงวันนี้ (19 เม.ย.) ถือว่ามีโอกาสกวาดซีรีส์แบบสบายๆ ลองย้อนไปดูสถิติ 2 ซีซันล่าสุด ก็ข่ม ร็อคเก็ตส์ แทบโงหัวไม่ขึ้น ชนะ 13 แพ้ 1 นึกๆ ดูแล้ว เคอร์รี อาจจะรอคัมแบ็กถึงรอบรองชนะเลิศของสายก็เป็นได้ อย่างที่ เคอร์ สัมภาษณ์ไว้ว่า จะพิจารณาจากความฟิตเป็นอันดับแรก ไม่ได้แยแสเรื่องซีรีส์จะยืดเยื้อ หรือเสี่ยงตกรอบหรือไม่
จากผลงานเกม 2 อังเดร อิกัวดาลา พึ่งพาได้เสมอหากถึงคราวจำเป็น ไม่ได้มีดีแค่เกมรับที่หยุด เลอบรอน เจมส์ จนคว้า MVP รอบชิงฯ ฤดูกาลที่แล้ว เริ่มเกมด้วยการยิง 3 คะแนน เข้าเป้า 4 จาก 5 ครั้ง นอกจากนี้คนอื่นๆ ก็ทำได้น่าประทับใจไม่แพ้กัน อาทิ แอนดรูว์ โบกัต เซ็นเตอร์ออสซี ที่ต้องลงมาเพื่อประกบ ดไวท์ ฮาวเวิร์ด เคลื่อนไหวอย่างคล่องแคล่ว ไม่ทำให้เสียจังหวะการเล่นเกมเร็วตามสรีระเฉียด 7 ฟุต
ชอน ลิฟวิงสตัน ลงมาคุมบอลแทน เคอร์รี แบบหล่อๆ สูง 6 ฟุต 7 นิ้ว ได้เปรียบ การ์ด ร็อคเก็ตส์ โจมตีได้ทั้งการชู้ตระยะกลาง หรือโพสต์ใส่ซะเลย และ เดรย์มอนด์ กรีน ฟอร์เวิร์ด จัดว่าครบเครื่อง ทั้งรุกและรับ ค่าเฉลี่ย เรกูลาร์ ซีซัน ถือว่าใกล้เคียง ดับเบิล-ดับเบิล หรือ ทริปเปิล-ดับเบิล ด้วยซ้ำ 14.0 แต้ม 9.5 รีบาวน์ด 7.4 แอสซิสต์
คนหนึ่งที่จะลืมเสียมิได้ คือ เคลย์ ธอมป์สัน การ์ดจอมแม่น ที่หลายๆ คนอาจจะลืมไปว่า ลูกยิง 3 แต้ม ก็อันตรายไม่ยิ่งหย่อนกว่า เคอร์รี สักเท่าไร หากลงเล่นคู่กันแล้ว อาจถูกกลบรัศมีไปบ้าง แต่เกมที่แล้ว รับบทพระเอกไปเต็มๆ ผลงาน 34 แต้ม
อย่างไรก็ตาม ประเด็นที่น่าสนใจอยู่ที่ เกมรุก วอร์ริเออร์ส ตกเป็นรองคู่แข่ง 3.7 แต้ม ต่อการครองบอล 100 ครั้ง หากขาด เคอร์รี แต่บางทีช่องว่างระหว่างเกม 1 กับ 3 อันยาวนาน 5 วัน มือปืนวัย 28 ปี ก็น่าจะฟิตกลับมาเช็กบิลเสียตั้งแต่เนิ่นๆ ที่โตโยต้า เซ็นเตอร์ เสียเลย มองอีกแง่หนึ่ง ถ้าจะพักเอาไว้ต่อไป รอจนกว่าจะพร้อมจริงๆ ก็ยังพอไหว ก็ยังพอไหวอยู่สำหรับ “นักรบ”
ไม่ว่า เคอร์ จะตัดสินใจแบบไหน คู่ต่อสู้รอบ 2 ของ วอร์ริเออร์ส เป็นได้ทั้ง แอลเอ คลิปเปอร์ส หรือ ปอร์ตแลนด์ เทรล เบลเซอร์ส ที่มี 2 การ์ดดาวดังอย่าง คริส พอล และ เดเมียน ลิลลาร์ด ตามลำดับ ถึงเวลานั้น เคอร์รี จำเป็นต้องลงสนาม เพื่องัดศักยภาพสูงสุดของทีม
