คอลัมน์ EYE ON SPORTS โดย กษิติ กมลนาวิน ราชวังสัน
แล้วในที่สุดผลการจับสลากแบ่งสาย ฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบ 12 ทีมสุดท้าย ซึ่งจัดขึ้นเมื่อวานนี้ที่ โรงแรมแมนดาริน โอริเอ็นท่อล ใน กรุงกัวล่า ลุมโปร์ ประเทศมาเลเซีย ก็ออกมาเรียบร้อย นับว่าโชคดีที่ ไทย ไม่ได้อยู่กลุ่มเดียวกับ อีหร่าน เกาหลีใต้ และ อุซเบกิสถาน วันนี้ เรามาดูกันดีกว่าว่า ในการแข่งขันรอบคัดเลือก รอบสุดท้าย แต่ละนัดนั้น เราควรต้องได้ผลการแข่งขันเป็นอย่างไร จึงจะมีโอกาสได้ไป “รัสเซีย 2018”
กลุ่ม A ประกอบด้วย อีหร่าน เกาหลีใต้ อุซเบกิสถาน จีน กาตาร์ และ ซูเรีย ในขณะที่กลุ่ม B ของเรามี อ๊อสตราเลีย ญี่ปุ่น ซาอูดี อาราเบีย สหรัฐอาหรับ เอมีเรทส์ อีรัก และ ไทย ในรอบนี้ใช้การแข่งขันระบบ เหย้า-เยือน พบกันหมดในกลุ่ม แต่ละทีมต้องแข่งรวมทั้งสิ้น 10 นัด โดยมีคะแนนให้แย่งชิงกันทั้งสิ้น 90 คะแนน ซึ่งหากมีผลการแข่งขันของนัดใดออกเสมอ ก็จะมีคะแนนถูกโยนทิ้งขยะไปฟรีๆนัดละ 1 คะแนน แต่ละทีมมีโอกาสหยิบได้เต็มที่ไม่เกิน 30 คะแนน อันนี้ผมคิดว่า ทีมที่จะได้ผ่านเข้ารอบสุดท้าย ฟุตบอลโลก น่าจะต้องมีประมาณ 21 แต้ม
ก่อนอื่นผมมองภาพรวมว่า การแข่งขันที่บ้านของเราเองนั้น เราต้องเก็บชัยชนะให้ได้เกือบทุกนัด จะมีพลาดเก็บ 3 แต้มได้เพียงนัดเดียว แม้เอาชนะเขาไม่ได้แต่ก็ต้องไม่แพ้คาบ้าน รวมผลการแข่งในบ้านเราต้องชนะ 4 เสมอ 1 เก็บมาได้ 13 คะแนน ส่วนการแข่งขันในฐานะทีมเยือน อันนี้ยากยิ่ง เมื่อต้องเจอกับทีมจาก โถ 1 2 3 อย่าบังอาจไปเก็บ 3 แต้มจากบ้านเขา แต่ก็ต้องเอา 1 แต้มจากการเสมอกลับมาให้ได้ และหากจะมีแพ้บ้างก็ต้องยอมสัก 1 นัด แต่กับ 2 ทีมจากโถ 4 และ 5 แม้ไปเยือนเราก็ต้องเอาชนะ รวมผลการแข่งขันนอกบ้าน ชนะ 2 เสมอ 2 แพ้ 1 เก็บได้ 8 คะแนน หากทำได้ตามนี้ ก็จะทำให้เรามีคะแนนรวมเป็น 21 แต้ม ดังนั้น เป้าหมายการแข่งขัน นัดต่อนัด และผลที่ต้องได้ควรต้องเป็นดังนี้ครับ
นัดแรก วันที่ 1 กันยายน 2016 ไทย เยือน ซาอูดี อาราเบีย ทีมจากโถ 3 ควรจบลงด้วยผลเสมอ เอาคะแนนห่อกลับมาบ้านได้ 1 แต้ม ประเดิมเป็นขวัญกำลังใจ ในอีก 5 วันลงแข่งนัดที่ 2 คือวันที่ 6 กันยายน 2016 เราเปิดบ้านต้อนรับ ญี่ปุ่น ทีมจากโถ 2 ซึ่งเป็นยอดทีมจากเอเชีย เข้าร่วมฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายมาหลายหนแล้ว แต่แข่งในบ้านเรา ต้องชนะสถานเดียว ตุนอีก 3 แต้ม
นัดที่ 3 วันที่ 6 ตุลาคม 2016 ไทย เยือน สหรัฐอาหรับ เอมีเรทส์ ทีมจากโถ 4 แม้เป็นทีมเยือน แต่หากฝันจะไป รัสเซีย 2018 นัดนี้เราต้องบุกไปเอาชนะเขาถึงถิ่นให้ได้ เก็บอีก 3 คะแนน และอีก 5 วันต่อมาต้องไปแข่งนัดที่ 4 โดยไปเยือน อีรัก ทีมจากโถ 5 วันที่ 11 ตุลาคม 2016 นับเป็นคู่ต่อสู้ที่อ่อนที่สุดในบรรดา 5 ทีมที่เราต้องเผชิญแล้ว เขากินเราไม่ลง เจอกันหนนี้แน่นอนว่าเราจำเป็นต้องตั้งเป้าบุกไปเอาชนะเขาถึงถิ่นให้ได้ จบนัดนี้เราต้องมีตุน 10 แต้ม
นัดที่ 5 นัดสุดท้ายของปีนี้ วันที่ 15 พฤศจิกายน 2016 ไทย ต้อนรับ อ๊อสตราเลีย ทีมจากโถ 1 ต้องยอมรับว่าเป็นภารกิจที่ยากทีเดียว เป้าหมายคือเก็บ 1 แต้มจากผลเสมอ แต่ถ้านักเตะไทยเหิมเกริมถึงขนาดถล่ม อ๊อสตราเลีย โชว์แฟนบอลก็ไม่ว่ากัน นับเป็นคะแนนที่ได้เกินคาด เอาไว้มาปะชุนในนัดที่เราอาจพลาดพลั้งไปบ้าง เป็นอันว่าหลังจากผ่านไปครึ่งทาง ได้เจอกับทุกทีมกันถ้วนหน้าแล้ว เราจะต้องมี 11 คะแนน
นัดที่ 6 วันที่ 23 มีนาคม 2017 ไทย เปิดบ้านต้อนรับ ซาอูดี อาราเบีย นัดนี้พลังของกองเชียร์จะทำให้มีลุ้น เป้าหมายคือ 3 แต้มเท่านั้น ไม่มีทางเลือกอื่น นัดถัดมาอีก 5 วันเป็นนัดที่ 7 เราต้องบินไปแข่งกับ ญี่ปุ่น วันที่ 28 มีนาคม 2017 จะไปชนะเขานั้นเป็นเรื่องเพ้อฝัน เก็บกลับมา 1 แต้มนี่ก็ดีถมเถแล้ว ทำให้มีตุนเป็น 15 แต้ม
นัดที่ 8 เจอ สหรัฐอาหรับ เอมีเรทส์ วันที่ 13 มิถุนายน 2017 และนัดที่ 9 เจอ อีรัก วันที่ 31 สิงหาคม 2017 แข่งที่บ้านของเราเองทั้ง 2 นัด และเป็น 2 ทีมที่อ่อนที่สุดในกลุ่มของเราแล้ว จำเป็นต้องตั้งเป้าเอาชนะทั้ง 2 นัด เป็นอย่างอื่นไม่ได้เด็ดขาด เก็บ 6 แต้มเนื้อๆ และถือเป็นการชี้ขาดการเข้ารอบสุดท้าย ฟุตบอลโลก รัสเซีย 2018 อย่างชัดเจนหลังจบนัดนี้ เพราะนัดที่ 10 ในวันที่ 5 กันยายน 2017 นั้น เราต้องไปเยือน อ๊อสตราเลีย หนทางที่จะเอาชนะหรือแม้แต่เสมอก็ไม่น่าจะเป็นไปได้ ดังนั้น อย่าคาดหวังหยิบแต้มกลับมา หาก ทีมชาติไทย ทำได้ตามนี้ เราจะได้ไป ฟุตบอลโลก รอบสุดท้าย อย่างที่ฝันกันมานานอย่างแน่นอน ขอเพียงอย่าทำแต้มหล่นเละเทะกลางทางก็แล้วกัน
แล้วในที่สุดผลการจับสลากแบ่งสาย ฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบ 12 ทีมสุดท้าย ซึ่งจัดขึ้นเมื่อวานนี้ที่ โรงแรมแมนดาริน โอริเอ็นท่อล ใน กรุงกัวล่า ลุมโปร์ ประเทศมาเลเซีย ก็ออกมาเรียบร้อย นับว่าโชคดีที่ ไทย ไม่ได้อยู่กลุ่มเดียวกับ อีหร่าน เกาหลีใต้ และ อุซเบกิสถาน วันนี้ เรามาดูกันดีกว่าว่า ในการแข่งขันรอบคัดเลือก รอบสุดท้าย แต่ละนัดนั้น เราควรต้องได้ผลการแข่งขันเป็นอย่างไร จึงจะมีโอกาสได้ไป “รัสเซีย 2018”
กลุ่ม A ประกอบด้วย อีหร่าน เกาหลีใต้ อุซเบกิสถาน จีน กาตาร์ และ ซูเรีย ในขณะที่กลุ่ม B ของเรามี อ๊อสตราเลีย ญี่ปุ่น ซาอูดี อาราเบีย สหรัฐอาหรับ เอมีเรทส์ อีรัก และ ไทย ในรอบนี้ใช้การแข่งขันระบบ เหย้า-เยือน พบกันหมดในกลุ่ม แต่ละทีมต้องแข่งรวมทั้งสิ้น 10 นัด โดยมีคะแนนให้แย่งชิงกันทั้งสิ้น 90 คะแนน ซึ่งหากมีผลการแข่งขันของนัดใดออกเสมอ ก็จะมีคะแนนถูกโยนทิ้งขยะไปฟรีๆนัดละ 1 คะแนน แต่ละทีมมีโอกาสหยิบได้เต็มที่ไม่เกิน 30 คะแนน อันนี้ผมคิดว่า ทีมที่จะได้ผ่านเข้ารอบสุดท้าย ฟุตบอลโลก น่าจะต้องมีประมาณ 21 แต้ม
ก่อนอื่นผมมองภาพรวมว่า การแข่งขันที่บ้านของเราเองนั้น เราต้องเก็บชัยชนะให้ได้เกือบทุกนัด จะมีพลาดเก็บ 3 แต้มได้เพียงนัดเดียว แม้เอาชนะเขาไม่ได้แต่ก็ต้องไม่แพ้คาบ้าน รวมผลการแข่งในบ้านเราต้องชนะ 4 เสมอ 1 เก็บมาได้ 13 คะแนน ส่วนการแข่งขันในฐานะทีมเยือน อันนี้ยากยิ่ง เมื่อต้องเจอกับทีมจาก โถ 1 2 3 อย่าบังอาจไปเก็บ 3 แต้มจากบ้านเขา แต่ก็ต้องเอา 1 แต้มจากการเสมอกลับมาให้ได้ และหากจะมีแพ้บ้างก็ต้องยอมสัก 1 นัด แต่กับ 2 ทีมจากโถ 4 และ 5 แม้ไปเยือนเราก็ต้องเอาชนะ รวมผลการแข่งขันนอกบ้าน ชนะ 2 เสมอ 2 แพ้ 1 เก็บได้ 8 คะแนน หากทำได้ตามนี้ ก็จะทำให้เรามีคะแนนรวมเป็น 21 แต้ม ดังนั้น เป้าหมายการแข่งขัน นัดต่อนัด และผลที่ต้องได้ควรต้องเป็นดังนี้ครับ
นัดแรก วันที่ 1 กันยายน 2016 ไทย เยือน ซาอูดี อาราเบีย ทีมจากโถ 3 ควรจบลงด้วยผลเสมอ เอาคะแนนห่อกลับมาบ้านได้ 1 แต้ม ประเดิมเป็นขวัญกำลังใจ ในอีก 5 วันลงแข่งนัดที่ 2 คือวันที่ 6 กันยายน 2016 เราเปิดบ้านต้อนรับ ญี่ปุ่น ทีมจากโถ 2 ซึ่งเป็นยอดทีมจากเอเชีย เข้าร่วมฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายมาหลายหนแล้ว แต่แข่งในบ้านเรา ต้องชนะสถานเดียว ตุนอีก 3 แต้ม
นัดที่ 3 วันที่ 6 ตุลาคม 2016 ไทย เยือน สหรัฐอาหรับ เอมีเรทส์ ทีมจากโถ 4 แม้เป็นทีมเยือน แต่หากฝันจะไป รัสเซีย 2018 นัดนี้เราต้องบุกไปเอาชนะเขาถึงถิ่นให้ได้ เก็บอีก 3 คะแนน และอีก 5 วันต่อมาต้องไปแข่งนัดที่ 4 โดยไปเยือน อีรัก ทีมจากโถ 5 วันที่ 11 ตุลาคม 2016 นับเป็นคู่ต่อสู้ที่อ่อนที่สุดในบรรดา 5 ทีมที่เราต้องเผชิญแล้ว เขากินเราไม่ลง เจอกันหนนี้แน่นอนว่าเราจำเป็นต้องตั้งเป้าบุกไปเอาชนะเขาถึงถิ่นให้ได้ จบนัดนี้เราต้องมีตุน 10 แต้ม
นัดที่ 5 นัดสุดท้ายของปีนี้ วันที่ 15 พฤศจิกายน 2016 ไทย ต้อนรับ อ๊อสตราเลีย ทีมจากโถ 1 ต้องยอมรับว่าเป็นภารกิจที่ยากทีเดียว เป้าหมายคือเก็บ 1 แต้มจากผลเสมอ แต่ถ้านักเตะไทยเหิมเกริมถึงขนาดถล่ม อ๊อสตราเลีย โชว์แฟนบอลก็ไม่ว่ากัน นับเป็นคะแนนที่ได้เกินคาด เอาไว้มาปะชุนในนัดที่เราอาจพลาดพลั้งไปบ้าง เป็นอันว่าหลังจากผ่านไปครึ่งทาง ได้เจอกับทุกทีมกันถ้วนหน้าแล้ว เราจะต้องมี 11 คะแนน
นัดที่ 6 วันที่ 23 มีนาคม 2017 ไทย เปิดบ้านต้อนรับ ซาอูดี อาราเบีย นัดนี้พลังของกองเชียร์จะทำให้มีลุ้น เป้าหมายคือ 3 แต้มเท่านั้น ไม่มีทางเลือกอื่น นัดถัดมาอีก 5 วันเป็นนัดที่ 7 เราต้องบินไปแข่งกับ ญี่ปุ่น วันที่ 28 มีนาคม 2017 จะไปชนะเขานั้นเป็นเรื่องเพ้อฝัน เก็บกลับมา 1 แต้มนี่ก็ดีถมเถแล้ว ทำให้มีตุนเป็น 15 แต้ม
นัดที่ 8 เจอ สหรัฐอาหรับ เอมีเรทส์ วันที่ 13 มิถุนายน 2017 และนัดที่ 9 เจอ อีรัก วันที่ 31 สิงหาคม 2017 แข่งที่บ้านของเราเองทั้ง 2 นัด และเป็น 2 ทีมที่อ่อนที่สุดในกลุ่มของเราแล้ว จำเป็นต้องตั้งเป้าเอาชนะทั้ง 2 นัด เป็นอย่างอื่นไม่ได้เด็ดขาด เก็บ 6 แต้มเนื้อๆ และถือเป็นการชี้ขาดการเข้ารอบสุดท้าย ฟุตบอลโลก รัสเซีย 2018 อย่างชัดเจนหลังจบนัดนี้ เพราะนัดที่ 10 ในวันที่ 5 กันยายน 2017 นั้น เราต้องไปเยือน อ๊อสตราเลีย หนทางที่จะเอาชนะหรือแม้แต่เสมอก็ไม่น่าจะเป็นไปได้ ดังนั้น อย่าคาดหวังหยิบแต้มกลับมา หาก ทีมชาติไทย ทำได้ตามนี้ เราจะได้ไป ฟุตบอลโลก รอบสุดท้าย อย่างที่ฝันกันมานานอย่างแน่นอน ขอเพียงอย่าทำแต้มหล่นเละเทะกลางทางก็แล้วกัน