xs
xsm
sm
md
lg

สื่อนอกจับตา “ช้างศึก” ปรับ 3 จุด ก้าวสู่ประวัติศาสตร์ไป “บอลโลก”

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

“ช้างศึก” เข้าใกล้ประวัติศาสตร์
เอเยนซี - ย้อนไปปี 2001 ทีมชาติไทย ภายใต้การคุมทัพของ ปีเตอร์ วิธ มีลุ้นไปเล่น เวิลด์ คัพ ปี 2002 ที่เกาหลีใต้ และญี่ปุ่น เป็นเจ้าภาพร่วม แต่ด้วยผลงานเสมอ 4 แพ้ 4 นัด ทำให้ต้องจอดป้ายทั้งที่เหลืออีกก้าวเดียวเท่านั้น

ผ่านไป 15 ปี โอกาสนั้นกลับมาอีกครั้ง หลังจาก “ช้างศึก” งัดฟอร์มเก่งตีตั๋วเข้าสู่รอบคัดเลือก รอบ 3 โซนเอเชียในฐานะแชมป์กลุ่มจากรอบก่อนหน้านี้ โดยนัดสุดท้ายเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 24 มีนาคม ที่ผ่านมาบุกไปเสมอ อิรัก 2-2 ที่สนามกลาง ตามด้วยลับแข้งเปิดสนามเหย้าแพ้ เกาหลีใต้ 0-1 อีก 3 วันให้หลัง

ดังนั้น พอล เมอร์ฟีย์ จึงวิเคราะผ่านเว็บไซต์ Soccernet ถึง 3 จุดหลัก ๆ ที่จำเป็นอย่างยิ่งที่จะส่งให้ทีมชาติไทยสร้างประวัติศาสตร์ได้ไปเล่นรอบสุดท้ายเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่รัสเซีย ปี 2018 มาฝากกัน

1. ยกระดับเกมรับ - ถือว่าโชคดีเป็นอย่างยิ่งที่ด่านสุดท้ายของทีมชาติไทย คือ กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ มือกาวจากค่าย “กิเลนผยอง” เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด เจ้าของฉายา “กวินทร์บินได้” เนื่องจากแนวรับยังมีความผิดพลาดให้เห็นหลายจุด โดยมีความเป็นไปได้สูงที่ “ซิโก้” เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง กุนซือหนุ่ม จะเลือกใช้บริการ กรวิทย์ นามวิเศษ, ธนบูรณ์ เกษารัตน์ และ สุทธินันท์ พุกหอม เป็นตัวเลือกลำดับต้น ๆ ของแผงแบ็กโฟร์

อย่างไรก็ตาม ไม่มีใครเป็นหัวใจที่คอยบัญชาเกม เนื่องจาก ธนบูรณ์ เหมาะที่จะยืนกองกลางมากกว่า ซึ่งหากเป็นเช่นนั้น จะทำให้หลังบ้านเล่นกันได้มั่นคงขึ้น เพราะมีคนคอยลดแรงกดดันจากคู่ต่อสู้ในด่านแรก แต่เมื่อหาคนแทน “เจ้าตั้ม” ไม่ได้ จึงทำให้ต้องถอยต่ำลงไปรับบทเซนเตอร์ฮาล์ฟไปก่อน เพราะเมื่อเจอกับคู่ต่อสู้ระดับเขี้ยวลากดินเกมรับคือสิ่งที่ต้องให้ความสำคัญก่อน

2. “เมสซี่เจ” ระเบิดฟอร์ม - เพลย์เมกเกอร์ร่างเล็กที่ปัจจุบันเล่นให้ เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด หลังย้ายจาก บีอีซี เทโรศาสน แบบยืมตัว ถือเป็นนักเตะไทยที่มีพรสวรรค์ที่สุดคนหนึ่ง แต่ยังไม่ได้แสดงศักยภาพผู้นำที่พึ่งพาได้ในสนามออกมามากพอ ดังนั้น เหมือนเป็นการบีบให้ “ซิโก้” ต้องเลือกแข้งรายอื่นแทนในบางครั้ง

เกมแพ้ เกาหลีใต้ “เมสซี่เจ” จุดประกายให้ทีมรวมถึงสร้างความลำบากใจให้กับผู้มาเยือนได้อย่างชัดเจน จังหวะที่ทำได้ดีคือสร้างโอกาสให้กับ สารัช อยู่เย็น กองกลางร่วมค่าย มีจังหวะยิงไกลแต่ว่าถูกเซฟเอาไว้ได้

อย่างไรก็ตาม ตลอดเส้นทางคัดฟุตบอลโลกที่ผ่านมา “เมสซีเจ” ยังยืนระยะไม่ได้ต่อเนื่อง ทำให้มีบทบาทกับทีมได้ไม่มากพอ โดยต้องแอสซิสต์กับยิงประตูมากกว่านี้ รวมถึงการประสานงานกับฟูลแบ็กต้องเข้าขารู้ใจ โดยเป็น “อุ้ม” ธีราทร บุญมาทัน แบ็กซ้ายกัปตันทีมที่เด่นกว่าทำ 4 แอสซิสต์ใน 2 แมตช์หลังสุดและยิง 2 ประตูในกลุ่ม เอฟ

ดังนั้น “ซิโก้” ต้องหาทางรีดฟอร์มของ “เมสซี่เจ” เพราะในฐานะตัวสร้างสรรค์เกมต้องจัดจ้านกว่านี้ โดยเกมกับ อิรัก นั้น ถูกถอดออกหลังจาก 1 ชั่วโมงแห่งความพยายาม กระนั้นก็ตามเพิ่งจะวัย 22 ปีเท่านั้นและการย้ายไปเล่นให้ “กิเลนผยอง” แบบยืมตัวในปีนี้น่าจะยกระดับในฐานะผู้เล่นได้ดี

3. สนามราชมังคลากีฬาสถาน - นับตั้งแต่ “ซิโก้” เข้ามาคุมทีมเมื่อปี 2014 ก็ปลุกกระแสลูกหนังไทยขึ้นมาได้อย่างเหลือเชื่อ บรรยากาศที่สนามกลับมาคักคักอีกครั้ง แฟนแห่เข้ามาเต็มความจุรวมถึงตั๋วที่ขายเกลี้ยงภายในระยะเวลาแค่ชั่วโมงเดียว ซึ่งนี้ทำเอาโค้ช เกาหลีใต้ อย่าง อูลี สตีลิเก ชาวเยอรมัน ตะลึงมาแล้ว

แน่นอนว่าไทยต้องใช้ความได้เปรียบที่สนาม ราชมังคลากีฬาสถาน ให้เป็นประโยชน์เพื่อข่มขวัญคู่ต่อสู้ เพราะรอบ 12 ทีมสุดท้าย การเก็บ 3 แต้มในบ้านสักนัดหรือสองนัดมีความสำคัญอย่างยิ่ง
มีลุ้นภายใต้บังเหียน “ซิโก้”
“เมสซี่เจ” ต้องรีดฟอร์ม
เสมอ อิรัก 2-2 เข้ารอบ 12 ทีมสุดท้าย

กำลังโหลดความคิดเห็น