คอลัมน์ “TIMEOUT” โดย “ชมณัฐ”
ศึกลูกหนังโตโยต้า ไทย ลีก 2016 เปิดฉากฟาดแข้งกันไปแล้วทีมละ 4 นัด โดยไฮไลท์นอกจากทีมลุ้นแชมป์หน้าเดิมแล้ว ยังมีน้องใหม่จากดิวิชั่น 1 ที่คว้าตั๋วก้าวขึ้นมาโลดแล่น ซึ่งซีซั่นนี้ทุลักทุเลกว่าที่ผ่านมา เพราะกว่าจะรู้โฉมหน้าครบโควตาต้องรอจนถึงก่อนเปิดลีกเพียงไม่กี่สัปดาห์
พัทยา ยูไนเต็ด : คัมแบ๊กสู่ลีกสูงสุดในฐานะรองแชมป์ลีกรอง หลังหล่นลงมาเมื่อฤดูกาล 2014 ทว่ากลับมีปัญหาภายในจนเกือบจะไม่ได้ลงเล่นในไทยลีก เนื่องจาก “พายุ” พรรณธฤต เนื่องจำนงค์ ไฮโซอสังหาริมทรัพย์ ที่เข้ามาเทคโอเวอร์ทีม มีปัญหาเรื่องเงินๆทองๆ จนต้องคืนสิทธิ์ทำทีมให้กับเจ้าของเดิมคือกลุ่มชลบุรี
ในฤดูกาลนี้ “โลมาน้ำเงิน” ดึง มิลอส โจซิค โค้ชมือเก๋าชาวเซิร์บ ที่เคยคุม เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด มานั่งแท่นกุนซือ ส่วนขุมกำลังไทย มีแข้งชื่อดัง อาทิ ธนะศักดิ์ ศรีใส และอนุวัฒน์ อินยิน รวมถึง ชญาวัต ศรีนาวงษ์ ที่นำทีมแข้งดาวรุ่งกิเลนผยองมาสมทบ ส่วนแข้งนอกยืมตัว จูเนียร์ เนเกรา หอกบราซิลจากเอสซีจี เมืองทองฯ มาผนึกกับ อันโตนิโอ พีนา มิดฟิลด์เพื่อนร่วมชาติ บวกด้วยโควตาเอเชีย 3 ราย คือ ซุนนี ซาอัด ปีกทีมชาติเลบานอน ที่ยืมมาจากบีอีซี เทโรศาสน, คิม จิน คยู ปราการหลังอดีตทีมชาติเกาหลีใต้ ดีกรีกัปตันทีมเอฟซี โซล เมื่อซีซันที่แล้ว วัย 31 ปี และ ยูกิยะ ซูกิตะ กองกลางชาวญี่ปุ่น วัย 22 ปี ที่ผ่านการค้าแข้งกับ เอร์กูเลส ในเซกุนดาลีก สเปน
ผลงาน 4 นัดแรก (ย) แพ้ ชลบุรี เอฟซี 1-2, (ห) แพ้ แบงค็อก ยูไนเต็ด 1-2, (ย) เสมอ สุพรรณบุรี เอฟซี 0-0 และ (ห) เสมอ เชียงราย ยูไนเต็ด 3-3
สุโขทัย เอฟซี : ได้โลดแล่นบนลีกสูงสุดเป็นครั้งแรกในประวัติศาตร์ทีม หลังเฉือน นครปฐม ยูไนเต็ด ในเกมแข่งใหม่ นัดตกค้าง 1-0 คว้าอันดับ 3 มาครอง ภายใต้การนำของ สมศักดิ์ เทพสุทิน นักการเมืองชื่อดัง ในฐานะประธานสโมสร ส่วนกุนซือ คือ “โค้ชฉ่วย” สมชาย ชวยบุญชุม มือเก๋าเรื่องหนีตกชั้น
ขณะที่นักเตะเปลี่ยนใหม่แทบยกชุด เสริมด้วยแข้งดีกรีไทยลีก นำโดย เรนัน มาร์เกวซ กองหน้าจากเชียงราย ยูไนเต็ด จับคู่ล่าตาข่ายกับ ดิยุฟ บีรัม หอกไอวอรี โคสต์ และ ดาวิด บายีฮา มิดฟิลด์แคเมอรูน พร้อมด้วยทีเด็ดเดิมอย่าง จอห์น บาจโจ ตัวจี๊ดทีมชาติมาดากัสการ์ เจ้าของส่วนสูง 158 ซม. แต่โขกไปแล้ว 2 ตุงใส่ “ฉลามชล” ด้านแข้งไทยมีทั้ง สราวุธ กองลาภ (บางกอกกล๊าส เอฟซี) ปิยะราษฎร์ ลาจังหรีด (สุพรรณบุรี เอฟซี) พงศกร สีรอด (แบงค็อก ยูไนเต็ด) ลักษณะ คำรื่น (ชัยนาท ฮอร์นบิล)
ผลงาน 4 นัดแรก (ย) แพ้ ศรีสะเกษ เอฟซี 0-2, (ห) เสมอ เชียงราย ยูไนเต็ด 0-0, (ย) เสมอ ชลบุรี เอฟซี 2-2 และ (ห) ชนะ ราชบุรี มิตรผล เอฟซี 2-0
บีบีซียู เอฟซี : หวนคืนไทยลีกในรอบ 3 ปีแบบส้มหล่น จบอันดับ 4 แต่ได้โควตาแทน “โปลิศ” ที่โดนตัดสิทธิ์ เนื่องจากไม่มีความพร้อมเรื่องการเงิน ซึ่งฤดูกาลนี้ “บิ๊กแบง” ยังคงทีมบริหารชุดเดิม นำโดย วีรยุทธ โพธารามิก ผู้จัดการทีม เช่นเดียวกับนักเตะตัวหลักที่ยึดขุมกำลังจากซีซันก่อน เสริมด้วยต่างชาติ คือ ดิยาร์รา อาลี ตัวรับจากการท่าเรือ เอฟซี, ฮุน มา-ซัง กองหลังชาวเกาหลีใต้ ที่ร่วมทีมคำรบสอง และ วู กึน ยอง กองหน้าโสมขาว จากนครปฐม ที่ทำไป 20 ประตูเมื่อซีซันก่อน โดยมี โคอิชิ ซูกิยามา กุนซือชาวญี่ปุ่น คุมบังเหียน
ผลงาน 4 นัดแรก (ย) แพ้ ราชบุรี มิตรผล เอฟซี 0-2, (ห) ชนะ ศรีสะเกษ เอฟซี 2-0, (ย) แพ้ ราชนาวี 0-1 และ (ห) แพ้ นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี 2-4
ศึกลูกหนังโตโยต้า ไทย ลีก 2016 เปิดฉากฟาดแข้งกันไปแล้วทีมละ 4 นัด โดยไฮไลท์นอกจากทีมลุ้นแชมป์หน้าเดิมแล้ว ยังมีน้องใหม่จากดิวิชั่น 1 ที่คว้าตั๋วก้าวขึ้นมาโลดแล่น ซึ่งซีซั่นนี้ทุลักทุเลกว่าที่ผ่านมา เพราะกว่าจะรู้โฉมหน้าครบโควตาต้องรอจนถึงก่อนเปิดลีกเพียงไม่กี่สัปดาห์
พัทยา ยูไนเต็ด : คัมแบ๊กสู่ลีกสูงสุดในฐานะรองแชมป์ลีกรอง หลังหล่นลงมาเมื่อฤดูกาล 2014 ทว่ากลับมีปัญหาภายในจนเกือบจะไม่ได้ลงเล่นในไทยลีก เนื่องจาก “พายุ” พรรณธฤต เนื่องจำนงค์ ไฮโซอสังหาริมทรัพย์ ที่เข้ามาเทคโอเวอร์ทีม มีปัญหาเรื่องเงินๆทองๆ จนต้องคืนสิทธิ์ทำทีมให้กับเจ้าของเดิมคือกลุ่มชลบุรี
ในฤดูกาลนี้ “โลมาน้ำเงิน” ดึง มิลอส โจซิค โค้ชมือเก๋าชาวเซิร์บ ที่เคยคุม เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด มานั่งแท่นกุนซือ ส่วนขุมกำลังไทย มีแข้งชื่อดัง อาทิ ธนะศักดิ์ ศรีใส และอนุวัฒน์ อินยิน รวมถึง ชญาวัต ศรีนาวงษ์ ที่นำทีมแข้งดาวรุ่งกิเลนผยองมาสมทบ ส่วนแข้งนอกยืมตัว จูเนียร์ เนเกรา หอกบราซิลจากเอสซีจี เมืองทองฯ มาผนึกกับ อันโตนิโอ พีนา มิดฟิลด์เพื่อนร่วมชาติ บวกด้วยโควตาเอเชีย 3 ราย คือ ซุนนี ซาอัด ปีกทีมชาติเลบานอน ที่ยืมมาจากบีอีซี เทโรศาสน, คิม จิน คยู ปราการหลังอดีตทีมชาติเกาหลีใต้ ดีกรีกัปตันทีมเอฟซี โซล เมื่อซีซันที่แล้ว วัย 31 ปี และ ยูกิยะ ซูกิตะ กองกลางชาวญี่ปุ่น วัย 22 ปี ที่ผ่านการค้าแข้งกับ เอร์กูเลส ในเซกุนดาลีก สเปน
ผลงาน 4 นัดแรก (ย) แพ้ ชลบุรี เอฟซี 1-2, (ห) แพ้ แบงค็อก ยูไนเต็ด 1-2, (ย) เสมอ สุพรรณบุรี เอฟซี 0-0 และ (ห) เสมอ เชียงราย ยูไนเต็ด 3-3
สุโขทัย เอฟซี : ได้โลดแล่นบนลีกสูงสุดเป็นครั้งแรกในประวัติศาตร์ทีม หลังเฉือน นครปฐม ยูไนเต็ด ในเกมแข่งใหม่ นัดตกค้าง 1-0 คว้าอันดับ 3 มาครอง ภายใต้การนำของ สมศักดิ์ เทพสุทิน นักการเมืองชื่อดัง ในฐานะประธานสโมสร ส่วนกุนซือ คือ “โค้ชฉ่วย” สมชาย ชวยบุญชุม มือเก๋าเรื่องหนีตกชั้น
ขณะที่นักเตะเปลี่ยนใหม่แทบยกชุด เสริมด้วยแข้งดีกรีไทยลีก นำโดย เรนัน มาร์เกวซ กองหน้าจากเชียงราย ยูไนเต็ด จับคู่ล่าตาข่ายกับ ดิยุฟ บีรัม หอกไอวอรี โคสต์ และ ดาวิด บายีฮา มิดฟิลด์แคเมอรูน พร้อมด้วยทีเด็ดเดิมอย่าง จอห์น บาจโจ ตัวจี๊ดทีมชาติมาดากัสการ์ เจ้าของส่วนสูง 158 ซม. แต่โขกไปแล้ว 2 ตุงใส่ “ฉลามชล” ด้านแข้งไทยมีทั้ง สราวุธ กองลาภ (บางกอกกล๊าส เอฟซี) ปิยะราษฎร์ ลาจังหรีด (สุพรรณบุรี เอฟซี) พงศกร สีรอด (แบงค็อก ยูไนเต็ด) ลักษณะ คำรื่น (ชัยนาท ฮอร์นบิล)
ผลงาน 4 นัดแรก (ย) แพ้ ศรีสะเกษ เอฟซี 0-2, (ห) เสมอ เชียงราย ยูไนเต็ด 0-0, (ย) เสมอ ชลบุรี เอฟซี 2-2 และ (ห) ชนะ ราชบุรี มิตรผล เอฟซี 2-0
บีบีซียู เอฟซี : หวนคืนไทยลีกในรอบ 3 ปีแบบส้มหล่น จบอันดับ 4 แต่ได้โควตาแทน “โปลิศ” ที่โดนตัดสิทธิ์ เนื่องจากไม่มีความพร้อมเรื่องการเงิน ซึ่งฤดูกาลนี้ “บิ๊กแบง” ยังคงทีมบริหารชุดเดิม นำโดย วีรยุทธ โพธารามิก ผู้จัดการทีม เช่นเดียวกับนักเตะตัวหลักที่ยึดขุมกำลังจากซีซันก่อน เสริมด้วยต่างชาติ คือ ดิยาร์รา อาลี ตัวรับจากการท่าเรือ เอฟซี, ฮุน มา-ซัง กองหลังชาวเกาหลีใต้ ที่ร่วมทีมคำรบสอง และ วู กึน ยอง กองหน้าโสมขาว จากนครปฐม ที่ทำไป 20 ประตูเมื่อซีซันก่อน โดยมี โคอิชิ ซูกิยามา กุนซือชาวญี่ปุ่น คุมบังเหียน
ผลงาน 4 นัดแรก (ย) แพ้ ราชบุรี มิตรผล เอฟซี 0-2, (ห) ชนะ ศรีสะเกษ เอฟซี 2-0, (ย) แพ้ ราชนาวี 0-1 และ (ห) แพ้ นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี 2-4