ผู้จัดการรายวัน 360 - ศึกฟุตบอลลีกสูงสุดของเมืองไทย ฤดูกาล 2016 ในชื่อใหม่ว่า “โตโยต้า ไทย ลีก” จะเปิดสนามอย่างเป็นทางการ วันที่ 5-6 มีนาคม นี้ โดยมีการขอพระบรมราชานุญาต นำถ้วยพระราชทาน ก มาเป็นโทรฟีมอบแด่ผู้ชนะ พร้อมเงินรางวัลอีก 10 ล้านบาท ซึ่งในซีซันนี้มีไฮไลท์ทั้งในและนอกสนามต้องจับตาถึง 5 เรื่อง ชนิดที่ห้ามพลาดเป็นอันขาด
ดรีมทีม “กิเลนผยอง” :ไฮไลท์ที่น่าจับตามากที่สุดในฤดูกาลนี้ คงหนีไม่พ้นทัพ “กิเลนผยอง” เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ดับเบิ้ลรองแชมป์ซีซันก่อน ที่เปิดตัวสู้ศึกภายใต้แคมเปญ "เดอะ ดรีมทีม 2016" หลังกวาดนักเตะดีกรีทีมชาติไทย จาก บีอีซี เทโรศาสน มาค่อนทีม ประกอบด้วย “เมสซีเจ” ชนาธิป สรงกระสินธ์, ธนบูรณ์ เกษารัตน์, พีระพัฒน์ โน๊ตชัยยา, อดิศักดิ์ ไกรษร และทริสตอง โด ผนึกกำลังร่วมกับ “มุ้ย” ธีรศิลป์ แดงดา, สารัช อยู่เย็น และฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ พร้อมปรุงแต่งโดยกุนซือคนใหม่อย่าง “โค้ชแบน” ธชตวัน ศรีปาน ซึ่งต้องดูว่าเมื่ออุดมด้วยนักเตะฝีเท้าคุณภาพขนาดนี้ จะสามารถทวงความสำเร็จกลับคืนมาได้หรือไม่ เพราะมือเปล่าติดต่อกันมาแล้ว 3 ปีเต็ม
“บุรีรัมย์” เสริมทัพพลาดหรือไม่ : แชมป์เก่าและแชมป์ลีกสูงสุด 4 สมัย ประกาศกร้าวว่าจะเดินหน้าคว้าโทรฟีสมัยที่ 5 รวมถึงป้องกันแชมป์ทุกรายการที่กวาดเรียบมาเมื่อฤดูกาลที่แล้ว ซึ่งด้วยชื่อชั้นและดีกรียังถือภาษีเหนือกว่าทีมอื่นๆ แต่ทว่าก่อนเปิดซีซันเริ่มเผยจุดอ่อนให้เห็นบ้างแล้ว หลังผลงานย่ำแย่ในศึก เอเอฟซี แชมเปียนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม 2 นัดแรก คือ พ่ายคาบ้านต่อ เอฟซี โซล (เกาหลีใต้) 0-6 และบุกไปโดน ซานตง ลู่เหนิง (จีน) ยำ 0-3
โดยจะเห็นได้ชัดว่าแข้งใหม่ที่เสริมเข้ามายังสอบตก ดานิโล คิริโน กับ อันเดร โมริตส์ 2 แนวรุกแซมบ้า ที่หมายมั่นจะให้เป็นความหวังก็ฟอร์มบู่จนต้องถูกยกเลิกสัญญาอย่างรวดเร็ว ส่วน ไคโอะ กอนซัลเวส หอกลูกครึ่งญี่ปุ่น-บราซิเลียน ฟอร์มโดยรวมยังเทียบ กิลแบร์โต มาเชนา อดีตศูนย์หน้าของทีม ที่ทำไป 21 ประตู เมื่อฤดูกาลที่แล้วไม่ได้ ส่วนผู้เล่นไทยอย่าง สถาพร แดงศรี และอนันต์ บัวแสง ยังต้องรอพิสูจน์ตัวเองเช่นกัน ที่สำคัญช่วงต้นซีซันยังต้องชวดใช้งาน ดิโอโก หลุยส์ ซานโต ดาวซัลโวปีก่อน 33 ประตู ที่บาดเจ็บหัวไหล่พักยาว 3 เดือน ดังนั้นต้องติดตามว่าการช้อปปิ้งของ “ปราสาทสายฟ้า” จะเป็นเรื่องผิดพลาด จนถึงกับทำให้สะดุดชวดแชมป์หรือไม่
พระรองลุ้นเบียด : อีกหนึ่งความน่าสนใจของฤดูกาลนี้ก็คือ การเดินหน้าเสริมทัพของเหล่าสโมสรหัวตาราง อันดับ 3-6 ซีซันที่แล้ว ที่พร้อมจะท้าชนแย่งแชมป์กับ 2 บิ๊กทีม ไม่ว่าจะเป็น สุพรรณบุรี เอฟซี ที่ดึงตัวสตาร์ตัวเก๋าอย่าง “ตี๋” สินทวีชัย หทัยรัตนกุล มาเฝ้าเสา และ “อ้น” รังสรรค์ วิวัฒน์ชัยโชค มาคุมแดนกลาง หรือแบงค็อก ยูไนเต็ด ที่ทุ่มทุนกระชาก มาริโอ ยูรอฟสกี เพลย์เมกเกอร์ชาวมาซิโดเนีย อดีตแข้งตัวเก่งของ เอสซีจี เมืองทองฯ มาสร้างสรรค์เกม โดยมี “ลีซอ” ธีรเทพ วิโนทัย รอล่าตาข่ายอยู่แดนหน้า
ขณะที่ “ฉลามชล” ชลบุรี เอฟซี ภายใต้การคุมทีมของ เทิดศักดิ์ ใจมั่น แม้ฟอร์มจะยังไม่เข้าที่ แต่ก็เป็นปีที่ปรับทัพน่าสนใจได้ ปกเกล้า อนันต์, ประกิต ดีพร้อม และณรงค์ จันทร์เสวก มาเป็นทีเด็ด ส่วน บางกอกกล๊าส เอฟซี มี ศราวุฒิ มาสุข กับ สุรชาติ สารีพิมพ์ มาช่วยเติมเต็ม เพียงเท่านี้ก็อดใจรอไม่ไหวแล้วว่าการแย่งแชมป์ปีนี้จะขับเคี่ยวกันสนุกขนาดไหน
มาตรฐาน “เปา” หลังยกเครื่อง : พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย คนใหม่ ตัดสินใจนั่งควบตำแหน่ง “ประธานคณะกรรมการพัฒนาผู้ตัดสินและผู้ควบคุมการแข่งขัน” ลงมาคุมการทำหน้าที่ของเชิ้ตดำด้วยตัวเอง เพื่อลบล้างข้อครหาที่มีต่อวงการตุลาการสนาม และยกระดับสร้างมาตรฐานใหม่ พร้อมดึงผู้ทรงคุณวุฒิจากสหพันธ์ฟุตบอลเอเชีย (เอเอฟซี) มาทำงานร่วมกับ อดีตผู้ตัดสินอาวุโสชาวไทย อาทิ "เปาอั๋น" ผศ.ดร.ภิรมย์ อั๋นประเสริฐ และ "เปาแป๊ก” ปรัชญา เพิ่มพานิช ทว่าเพียงงานแรกในศึกฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทาน ก ก็เกิดข้อกังขามากมาย ดังนั้นต้องดูว่าผู้ตัดสินยุค “บิ๊กอ๊อด” จะเรียกศรัทธาคืนมาให้แฟนบอลได้หรือไม่ โดยล่าสุดยกเลิกการจับสลากเปาลงตัดสินก่อนเกมเป็นที่เรียบร้อย
“พีแอลที” โฉมใหม่ : ฟุตบอลลีกไทย เปลี่ยนบริษัทจัดการแข่งขันใหม่ จากเดิม บริษัท ไทย พรีเมียร์ ลีก จำกัด มาเป็น บริษัท พรีเมียร์ ลีก (ไทยแลนด์) จำกัด หรือ “พีแอลที” (PLT) พร้อมดึง พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. คนปัจจุบัน มานั่งแท่นเป็นประธานบริษัท มีหน้าที่คอยให้คำปรึกษา และป้องกันการล็อคผลบอล การพนัน และอิธิพลในวงการฟุตบอลไทย โดยไม่รับเงินเดือน ส่วนเรื่องการบริหารจัดการต่างๆเป็นหน้าที่ของ พล.ต.ท.บริหาร เสี่ยงอารมณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร พีทีแอล ทำงานร่วมกับ “เสี่ยเหน่ง” ศุภสิน ลีลาฤทธิ์ รองประธานสโมสรบางกอกกล๊าส เอฟซี ในฐานะอุปนายกสมาคมฯ ฝ่ายจัดการแข่งขัน
พร้อมกันนี้ได้เปิดให้สโมสรสมาชิกทั้ง 18 ทีม บนลีกสูงสุดมาร่วมถือหุ้น และบริหารงาน รวมถึงมีอำนาจตัดสินใจกรณีปัญหาต่างๆด้วยตนเอง ซึ่งเป็นครั้งแรกที่ดำเนินงานรูปแบบนี้ ซึ่งต้องจับตาดูว่าท้ายที่สุดแล้ว จะราบรื่นหรือไม่ โดยเฉพาะกรณีการพิจารณาตัดสินบทลงโทษต่างๆ
* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!***
ดรีมทีม “กิเลนผยอง” :ไฮไลท์ที่น่าจับตามากที่สุดในฤดูกาลนี้ คงหนีไม่พ้นทัพ “กิเลนผยอง” เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ดับเบิ้ลรองแชมป์ซีซันก่อน ที่เปิดตัวสู้ศึกภายใต้แคมเปญ "เดอะ ดรีมทีม 2016" หลังกวาดนักเตะดีกรีทีมชาติไทย จาก บีอีซี เทโรศาสน มาค่อนทีม ประกอบด้วย “เมสซีเจ” ชนาธิป สรงกระสินธ์, ธนบูรณ์ เกษารัตน์, พีระพัฒน์ โน๊ตชัยยา, อดิศักดิ์ ไกรษร และทริสตอง โด ผนึกกำลังร่วมกับ “มุ้ย” ธีรศิลป์ แดงดา, สารัช อยู่เย็น และฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ พร้อมปรุงแต่งโดยกุนซือคนใหม่อย่าง “โค้ชแบน” ธชตวัน ศรีปาน ซึ่งต้องดูว่าเมื่ออุดมด้วยนักเตะฝีเท้าคุณภาพขนาดนี้ จะสามารถทวงความสำเร็จกลับคืนมาได้หรือไม่ เพราะมือเปล่าติดต่อกันมาแล้ว 3 ปีเต็ม
“บุรีรัมย์” เสริมทัพพลาดหรือไม่ : แชมป์เก่าและแชมป์ลีกสูงสุด 4 สมัย ประกาศกร้าวว่าจะเดินหน้าคว้าโทรฟีสมัยที่ 5 รวมถึงป้องกันแชมป์ทุกรายการที่กวาดเรียบมาเมื่อฤดูกาลที่แล้ว ซึ่งด้วยชื่อชั้นและดีกรียังถือภาษีเหนือกว่าทีมอื่นๆ แต่ทว่าก่อนเปิดซีซันเริ่มเผยจุดอ่อนให้เห็นบ้างแล้ว หลังผลงานย่ำแย่ในศึก เอเอฟซี แชมเปียนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม 2 นัดแรก คือ พ่ายคาบ้านต่อ เอฟซี โซล (เกาหลีใต้) 0-6 และบุกไปโดน ซานตง ลู่เหนิง (จีน) ยำ 0-3
โดยจะเห็นได้ชัดว่าแข้งใหม่ที่เสริมเข้ามายังสอบตก ดานิโล คิริโน กับ อันเดร โมริตส์ 2 แนวรุกแซมบ้า ที่หมายมั่นจะให้เป็นความหวังก็ฟอร์มบู่จนต้องถูกยกเลิกสัญญาอย่างรวดเร็ว ส่วน ไคโอะ กอนซัลเวส หอกลูกครึ่งญี่ปุ่น-บราซิเลียน ฟอร์มโดยรวมยังเทียบ กิลแบร์โต มาเชนา อดีตศูนย์หน้าของทีม ที่ทำไป 21 ประตู เมื่อฤดูกาลที่แล้วไม่ได้ ส่วนผู้เล่นไทยอย่าง สถาพร แดงศรี และอนันต์ บัวแสง ยังต้องรอพิสูจน์ตัวเองเช่นกัน ที่สำคัญช่วงต้นซีซันยังต้องชวดใช้งาน ดิโอโก หลุยส์ ซานโต ดาวซัลโวปีก่อน 33 ประตู ที่บาดเจ็บหัวไหล่พักยาว 3 เดือน ดังนั้นต้องติดตามว่าการช้อปปิ้งของ “ปราสาทสายฟ้า” จะเป็นเรื่องผิดพลาด จนถึงกับทำให้สะดุดชวดแชมป์หรือไม่
พระรองลุ้นเบียด : อีกหนึ่งความน่าสนใจของฤดูกาลนี้ก็คือ การเดินหน้าเสริมทัพของเหล่าสโมสรหัวตาราง อันดับ 3-6 ซีซันที่แล้ว ที่พร้อมจะท้าชนแย่งแชมป์กับ 2 บิ๊กทีม ไม่ว่าจะเป็น สุพรรณบุรี เอฟซี ที่ดึงตัวสตาร์ตัวเก๋าอย่าง “ตี๋” สินทวีชัย หทัยรัตนกุล มาเฝ้าเสา และ “อ้น” รังสรรค์ วิวัฒน์ชัยโชค มาคุมแดนกลาง หรือแบงค็อก ยูไนเต็ด ที่ทุ่มทุนกระชาก มาริโอ ยูรอฟสกี เพลย์เมกเกอร์ชาวมาซิโดเนีย อดีตแข้งตัวเก่งของ เอสซีจี เมืองทองฯ มาสร้างสรรค์เกม โดยมี “ลีซอ” ธีรเทพ วิโนทัย รอล่าตาข่ายอยู่แดนหน้า
ขณะที่ “ฉลามชล” ชลบุรี เอฟซี ภายใต้การคุมทีมของ เทิดศักดิ์ ใจมั่น แม้ฟอร์มจะยังไม่เข้าที่ แต่ก็เป็นปีที่ปรับทัพน่าสนใจได้ ปกเกล้า อนันต์, ประกิต ดีพร้อม และณรงค์ จันทร์เสวก มาเป็นทีเด็ด ส่วน บางกอกกล๊าส เอฟซี มี ศราวุฒิ มาสุข กับ สุรชาติ สารีพิมพ์ มาช่วยเติมเต็ม เพียงเท่านี้ก็อดใจรอไม่ไหวแล้วว่าการแย่งแชมป์ปีนี้จะขับเคี่ยวกันสนุกขนาดไหน
มาตรฐาน “เปา” หลังยกเครื่อง : พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย คนใหม่ ตัดสินใจนั่งควบตำแหน่ง “ประธานคณะกรรมการพัฒนาผู้ตัดสินและผู้ควบคุมการแข่งขัน” ลงมาคุมการทำหน้าที่ของเชิ้ตดำด้วยตัวเอง เพื่อลบล้างข้อครหาที่มีต่อวงการตุลาการสนาม และยกระดับสร้างมาตรฐานใหม่ พร้อมดึงผู้ทรงคุณวุฒิจากสหพันธ์ฟุตบอลเอเชีย (เอเอฟซี) มาทำงานร่วมกับ อดีตผู้ตัดสินอาวุโสชาวไทย อาทิ "เปาอั๋น" ผศ.ดร.ภิรมย์ อั๋นประเสริฐ และ "เปาแป๊ก” ปรัชญา เพิ่มพานิช ทว่าเพียงงานแรกในศึกฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทาน ก ก็เกิดข้อกังขามากมาย ดังนั้นต้องดูว่าผู้ตัดสินยุค “บิ๊กอ๊อด” จะเรียกศรัทธาคืนมาให้แฟนบอลได้หรือไม่ โดยล่าสุดยกเลิกการจับสลากเปาลงตัดสินก่อนเกมเป็นที่เรียบร้อย
“พีแอลที” โฉมใหม่ : ฟุตบอลลีกไทย เปลี่ยนบริษัทจัดการแข่งขันใหม่ จากเดิม บริษัท ไทย พรีเมียร์ ลีก จำกัด มาเป็น บริษัท พรีเมียร์ ลีก (ไทยแลนด์) จำกัด หรือ “พีแอลที” (PLT) พร้อมดึง พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. คนปัจจุบัน มานั่งแท่นเป็นประธานบริษัท มีหน้าที่คอยให้คำปรึกษา และป้องกันการล็อคผลบอล การพนัน และอิธิพลในวงการฟุตบอลไทย โดยไม่รับเงินเดือน ส่วนเรื่องการบริหารจัดการต่างๆเป็นหน้าที่ของ พล.ต.ท.บริหาร เสี่ยงอารมณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร พีทีแอล ทำงานร่วมกับ “เสี่ยเหน่ง” ศุภสิน ลีลาฤทธิ์ รองประธานสโมสรบางกอกกล๊าส เอฟซี ในฐานะอุปนายกสมาคมฯ ฝ่ายจัดการแข่งขัน
พร้อมกันนี้ได้เปิดให้สโมสรสมาชิกทั้ง 18 ทีม บนลีกสูงสุดมาร่วมถือหุ้น และบริหารงาน รวมถึงมีอำนาจตัดสินใจกรณีปัญหาต่างๆด้วยตนเอง ซึ่งเป็นครั้งแรกที่ดำเนินงานรูปแบบนี้ ซึ่งต้องจับตาดูว่าท้ายที่สุดแล้ว จะราบรื่นหรือไม่ โดยเฉพาะกรณีการพิจารณาตัดสินบทลงโทษต่างๆ
* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!***
