คอลัมน์ Buzzer Beat โดย MVP
หากติดตามข่าวสารโดยเฉพาะฝั่ง บาสเก็ตบอล เอ็นบีเอ (NBA) ส่วนใหญ่มักจะเจอการเปรียบเทียบของ ซูเปอร์สตาร์ยุคอดีต กับ ปัจจุบัน เช่น ความสำเร็จของ เลอบรอน เจมส์ กับ ไมเคิล จอร์แดน หรือ ไมเคิล จอร์แดน กับ โคบี ไบรอันท์ หรือเลยเถิดไปถึงรุ่นคุณปู่ บิลล์ รัสเซลล์ เจ้าของแหวนแชมป์ 11 สมัย ของ บอสตัน เซลติกส์ แรกๆ ก็อาจจะตื่นเต้น พอบ่อยเข้าก็ชักจะหน่ายอยู่เหมือนกัน
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นต่างยุคต่างสมัย คงเป็นเรื่องของความชอบส่วนตัว ยากเหลือเกินที่จะตัดสินว่า ใครผิดใครถูก เนื่องจากเราคงไม่สามารถหาคำตอบที่แท้จริงได้ นอกเสียจากพึ่งพาเกม NBA2K เพราะขนาดการแข่งขัน “ซูเปอร์โบว์ล” ยังมีเกมยอดฮิตอย่าง แมดเดน เอ็นเอฟแอล (Madden NFL) ช่วยทำนาย
เกริ่นมาเสียยืดยาว สิ่งที่อยากจะระบาย นั่นคือ ประเด็น โกลเดน สเตท วอร์ริเออร์ส ยอดทีมยุคปัจจุบันที่กำลังไล่ล่าสถิติชนะสูงสุดตลอดกาลของ ชิคาโก บูลล์ส 72 เกม ที่ทำไว้ เมื่อฤดูกาล 1995-96 หากนับผลงานก่อนเผชิญหน้า แอตแลนตา ฮอว์กส เช้าวันพุธที่ 2 มีนาคมนี้ แชมป์เก่า ยังมีสิทธิ์แพ้ได้อีก 4 จาก โปรแกรมที่เหลือ 24 เกมเท่านั้น
หลายๆ ท่านน่าจะทราบข่าวคราวที่ผู้เล่นยุคเก่า สบประมาท วอร์ริเออร์ส กันไปแล้ว ไม่ว่าจะเป็น สตีเฟน แจ็คสัน ที่เคยเป็นศิษย์เก่า เชื่อว่า ทีมของตัวเองยุค 2006-07 จะล้ม สตีเฟน เคอร์รี และผองเพื่อน รวมถึง เซดริค เซบัลลอส อดีตขุนพล ฟีนิกซ์ ซันส์ ฤดูกาล 1992-93 ที่มีทั้ง แดนนี เอนจ์ , ชาร์ลส บาร์กลีย์ , ทอม แชมเบอร์ส , เควิน จอห์นสัน และ แดน มาจ์ลี ก็สามารถสยบ “นักรบ” อย่างราบคาบ
หรือบรรดารุ่นใหญ่ ทั้ง ออสการ์ โรเบิร์ตสัน ตำนาน มิลวอคกี บัคส์ หยามสถิติการยิง 3 คะแนน ของ สเตฟ เคอร์รี ว่า ตัวประกบสมัยนี้ ปล่อยให้ชู้ตง่ายเกินไป แหม่ แต่เอาเข้าจริงๆ แล้ว พี่แกเคาะบอลเกินครึ่งสนามมาไม่กี่ฟุต ก็ส่องซะแล้วอย่างเช่น ลูกชู้ตปลิดชีพ โอกลาโฮมา ซิตี ธันเดอร์ ช่วงต่อเวลาพิเศษ ใครจะไปคิดล่ะครับ ว่าจะกล้าทำได้ขนาดนั้น
การเล่นบาสเก็ตบอลยุคอดีต หากนึกถึงพวก ชาคิลล์ โอ'นีล , ชาร์ลส บาร์กลีย์ หรือ ชอว์น เคมพ์ เป็นต้น ก็คงนึกถึงการเล่นที่ดุดัน ปะทะกันหนักๆ หรือ สแลม ดังค์ ชนิดแป้นแทบแตก หรือ การเซ็ตเพลย์ที่เรามักจะติดหูกับระบบ “ไทรแองเกิล ออฟเฟนซ์” ที่สร้างความสำเร็จแก่ บูลล์ และ แอลเอ เลเกอร์ส หรือ “พิค แอนด์ โรลล์” ของ จอห์น สต็อคตัน กับ คาร์ล มาโลน คู่หู ยูทาห์ แจซซ์ ยุคเกรียงไกร
ผ่านไปสัก 10-20 ปี “สมอลล์ บอลล์” กลายเป็นระบบที่หลายๆ ทีม ไม่เว้นแม้แต่ ทีมชาติสหรัฐอเมริกา นำมาใช้ เนื่องจากความคล่องตัว และปราดเปรียวของผู้เล่นตัวเล็กที่จู่โจมชนิดคู่แข่งไม่ทันตั้งตัว ยุคปัจจุบัน วอร์ริเออร์ส กับ ธันเดอร์ น่าจะเป็นทีมที่นำมาใช้ได้มีประสิทธิภาพดีสุด หรือดูจากผลโหวต “ออล-สตาร์” ที่เพิ่งผ่านไปไม่นาน ตำแหน่งเซ็นเตอร์ ถือเป็นตำแหน่งที่แฟนๆ รุ่นนี้ ไม่เห็นคุณค่ากันแล้ว
การเล่นบาสเก็ตบอลยุคปัจจุบัน จึงกลายเป็นเกมที่ดูสนุกทั้งการทำคะแนนที่สูงขึ้น เนื่องจากการปรับกติกา เช่น ตีวง “โนชาร์จ โซน” บริเวณใต้แป้น เอื้อประโยชน์ต่อผู้เล่นทะลวงเข้าไปกินฟาวล์ ขณะที่ยุคก่อนๆ มักจะเน้นขายซูเปอร์สตาร์มากกว่า อย่างน้อยๆ คนไม่เคยดู ก็ต้องได้ยินชื่อ แมจิก จอห์นสัน , แลร์รี เบิร์ด หรือ ไมเคิล จอร์แดน ผ่านหูกันมาบ้าง
ดังนั้นความเร็วของระบบ “สมอลล์ บอลล์” ที่มักจัด 5 ขุนพลทักษะ และความคล่องตัวสูง จึงกลายเป็นเครื่องหมายคำถามตัวโตๆ แก่ ยอดทีมยุคเก่า ว่า จะสู้ความเร็วของเกมยุคปัจจุบันไหวหรือเปล่า ความดุดันที่มี หากถอยลงไปตั้งรับกันไม่ทัน แล้วจะมีประโยชน์อย่างไร
อย่าหาว่าตัวผมเป็นแฟน โกลเดน สเตท วอร์ริเออร์ส เลย เพราะความจริงแล้ว ก็ติดตาม ชิคาโก บูลล์ส มาตตั้งแต่ยุค “เอ็มเจ” ถึงแม้จะเคยปันใจให้ ซาคราเมนโต คิงส์ ยุคเจ้า “ไวท์ ช็อคโกแลต” เจสัน วิลเลียมส์ บ้างก็ตาม เพียงแต่อยากบอกแค่ว่า การเปรียบเทียบไม่ว่าจะเป็น ซูเปอร์สตาร์ยุคเก่า กับ ปัจจุบัน หรือ ยอดทีมยุคอดีต กับ ปัจจุบัน เป็นเพียงสิ่งที่มีอยู่แค่จินตนาการ ความคิด หรือความชอบของใครก็ของมัน เท่านั้นเอง
หากติดตามข่าวสารโดยเฉพาะฝั่ง บาสเก็ตบอล เอ็นบีเอ (NBA) ส่วนใหญ่มักจะเจอการเปรียบเทียบของ ซูเปอร์สตาร์ยุคอดีต กับ ปัจจุบัน เช่น ความสำเร็จของ เลอบรอน เจมส์ กับ ไมเคิล จอร์แดน หรือ ไมเคิล จอร์แดน กับ โคบี ไบรอันท์ หรือเลยเถิดไปถึงรุ่นคุณปู่ บิลล์ รัสเซลล์ เจ้าของแหวนแชมป์ 11 สมัย ของ บอสตัน เซลติกส์ แรกๆ ก็อาจจะตื่นเต้น พอบ่อยเข้าก็ชักจะหน่ายอยู่เหมือนกัน
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นต่างยุคต่างสมัย คงเป็นเรื่องของความชอบส่วนตัว ยากเหลือเกินที่จะตัดสินว่า ใครผิดใครถูก เนื่องจากเราคงไม่สามารถหาคำตอบที่แท้จริงได้ นอกเสียจากพึ่งพาเกม NBA2K เพราะขนาดการแข่งขัน “ซูเปอร์โบว์ล” ยังมีเกมยอดฮิตอย่าง แมดเดน เอ็นเอฟแอล (Madden NFL) ช่วยทำนาย
เกริ่นมาเสียยืดยาว สิ่งที่อยากจะระบาย นั่นคือ ประเด็น โกลเดน สเตท วอร์ริเออร์ส ยอดทีมยุคปัจจุบันที่กำลังไล่ล่าสถิติชนะสูงสุดตลอดกาลของ ชิคาโก บูลล์ส 72 เกม ที่ทำไว้ เมื่อฤดูกาล 1995-96 หากนับผลงานก่อนเผชิญหน้า แอตแลนตา ฮอว์กส เช้าวันพุธที่ 2 มีนาคมนี้ แชมป์เก่า ยังมีสิทธิ์แพ้ได้อีก 4 จาก โปรแกรมที่เหลือ 24 เกมเท่านั้น
หลายๆ ท่านน่าจะทราบข่าวคราวที่ผู้เล่นยุคเก่า สบประมาท วอร์ริเออร์ส กันไปแล้ว ไม่ว่าจะเป็น สตีเฟน แจ็คสัน ที่เคยเป็นศิษย์เก่า เชื่อว่า ทีมของตัวเองยุค 2006-07 จะล้ม สตีเฟน เคอร์รี และผองเพื่อน รวมถึง เซดริค เซบัลลอส อดีตขุนพล ฟีนิกซ์ ซันส์ ฤดูกาล 1992-93 ที่มีทั้ง แดนนี เอนจ์ , ชาร์ลส บาร์กลีย์ , ทอม แชมเบอร์ส , เควิน จอห์นสัน และ แดน มาจ์ลี ก็สามารถสยบ “นักรบ” อย่างราบคาบ
หรือบรรดารุ่นใหญ่ ทั้ง ออสการ์ โรเบิร์ตสัน ตำนาน มิลวอคกี บัคส์ หยามสถิติการยิง 3 คะแนน ของ สเตฟ เคอร์รี ว่า ตัวประกบสมัยนี้ ปล่อยให้ชู้ตง่ายเกินไป แหม่ แต่เอาเข้าจริงๆ แล้ว พี่แกเคาะบอลเกินครึ่งสนามมาไม่กี่ฟุต ก็ส่องซะแล้วอย่างเช่น ลูกชู้ตปลิดชีพ โอกลาโฮมา ซิตี ธันเดอร์ ช่วงต่อเวลาพิเศษ ใครจะไปคิดล่ะครับ ว่าจะกล้าทำได้ขนาดนั้น
การเล่นบาสเก็ตบอลยุคอดีต หากนึกถึงพวก ชาคิลล์ โอ'นีล , ชาร์ลส บาร์กลีย์ หรือ ชอว์น เคมพ์ เป็นต้น ก็คงนึกถึงการเล่นที่ดุดัน ปะทะกันหนักๆ หรือ สแลม ดังค์ ชนิดแป้นแทบแตก หรือ การเซ็ตเพลย์ที่เรามักจะติดหูกับระบบ “ไทรแองเกิล ออฟเฟนซ์” ที่สร้างความสำเร็จแก่ บูลล์ และ แอลเอ เลเกอร์ส หรือ “พิค แอนด์ โรลล์” ของ จอห์น สต็อคตัน กับ คาร์ล มาโลน คู่หู ยูทาห์ แจซซ์ ยุคเกรียงไกร
ผ่านไปสัก 10-20 ปี “สมอลล์ บอลล์” กลายเป็นระบบที่หลายๆ ทีม ไม่เว้นแม้แต่ ทีมชาติสหรัฐอเมริกา นำมาใช้ เนื่องจากความคล่องตัว และปราดเปรียวของผู้เล่นตัวเล็กที่จู่โจมชนิดคู่แข่งไม่ทันตั้งตัว ยุคปัจจุบัน วอร์ริเออร์ส กับ ธันเดอร์ น่าจะเป็นทีมที่นำมาใช้ได้มีประสิทธิภาพดีสุด หรือดูจากผลโหวต “ออล-สตาร์” ที่เพิ่งผ่านไปไม่นาน ตำแหน่งเซ็นเตอร์ ถือเป็นตำแหน่งที่แฟนๆ รุ่นนี้ ไม่เห็นคุณค่ากันแล้ว
การเล่นบาสเก็ตบอลยุคปัจจุบัน จึงกลายเป็นเกมที่ดูสนุกทั้งการทำคะแนนที่สูงขึ้น เนื่องจากการปรับกติกา เช่น ตีวง “โนชาร์จ โซน” บริเวณใต้แป้น เอื้อประโยชน์ต่อผู้เล่นทะลวงเข้าไปกินฟาวล์ ขณะที่ยุคก่อนๆ มักจะเน้นขายซูเปอร์สตาร์มากกว่า อย่างน้อยๆ คนไม่เคยดู ก็ต้องได้ยินชื่อ แมจิก จอห์นสัน , แลร์รี เบิร์ด หรือ ไมเคิล จอร์แดน ผ่านหูกันมาบ้าง
ดังนั้นความเร็วของระบบ “สมอลล์ บอลล์” ที่มักจัด 5 ขุนพลทักษะ และความคล่องตัวสูง จึงกลายเป็นเครื่องหมายคำถามตัวโตๆ แก่ ยอดทีมยุคเก่า ว่า จะสู้ความเร็วของเกมยุคปัจจุบันไหวหรือเปล่า ความดุดันที่มี หากถอยลงไปตั้งรับกันไม่ทัน แล้วจะมีประโยชน์อย่างไร
อย่าหาว่าตัวผมเป็นแฟน โกลเดน สเตท วอร์ริเออร์ส เลย เพราะความจริงแล้ว ก็ติดตาม ชิคาโก บูลล์ส มาตตั้งแต่ยุค “เอ็มเจ” ถึงแม้จะเคยปันใจให้ ซาคราเมนโต คิงส์ ยุคเจ้า “ไวท์ ช็อคโกแลต” เจสัน วิลเลียมส์ บ้างก็ตาม เพียงแต่อยากบอกแค่ว่า การเปรียบเทียบไม่ว่าจะเป็น ซูเปอร์สตาร์ยุคเก่า กับ ปัจจุบัน หรือ ยอดทีมยุคอดีต กับ ปัจจุบัน เป็นเพียงสิ่งที่มีอยู่แค่จินตนาการ ความคิด หรือความชอบของใครก็ของมัน เท่านั้นเอง