ผู้จัดการรายวัน 360 – หลังพลาดคว้าตั๋วไปเล่น โอลิมปิก เกมส์ รอบสุดท้าย ที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ เมื่อ 4 ปีที่แล้ว คราวนี้ ทีมวอลเลย์บอลสาวของไทย จะกลับมาขอสู้สุดใจกันอีกครั้งเพื่อไล่ล่าโควตาร่วมศึกกีฬาห้าห่วงครั้งล่าสุดที่เมือง ริโอ เดอ จาเนโร ประเทศบราซิล ซึ่งพวกเธอทั้งหมดต้องร่วมฝ่าฟันอุปสรรคในการแข่งขันรอบคัดเลือกให้สำเร็จ เพราะถือเป็นโอกาสสุดท้ายแล้วที่บรรดาซูเปอร์สตาร์ขวัญใจแฟนๆ จะได้มีส่วนร่วมกับมหกรรมกีฬาครั้งใหญ่ที่รออยู่ข้างหน้า
ทีมลูกยางสาวไทย ภายใต้การดูแลของ “โค้ชอ๊อต” เกียรติพงษ์ รัชตเกรียงไกร จากนี้จะกลับมารายงานตัวเพื่อเตรียมฝึกซ้อมสำหรับการล่าตั๋ว “ริโอ เกมส์” ที่จะเปิดฉาก 5 สิงหาคมนี้ โดยเวทีสำคัญที่พวกเธอต้องผ่านให้ได้คือศึกรอบคัดเลือกที่ ญี่ปุ่น วันที่ 14 พฤษภาคม ถึง 5 มิถุนายน ท่ามกลางคู่ต่อกรสำคัญอย่างเจ้าภาพ และชาติอื่นๆเช่น เกาหลีใต้, คาซัคสถาน, เนเธอร์แลนด์, อิตาลี, โดมินิกัน และ เปรู โดยมีเพียง 4 ทีมเท่านั้นที่จะได้ไปล่าเหรียญทองบนดินแดนแซมบ้า
แม้ยังไม่มีการประกาศรายชื่อผู้เล่นอย่างเป็นทางการ แต่เชื่อขนมกินได้ว่า “โค้ชอ๊อต” ย่อมไม่พลาดเรียกลูกศิษย์ดีกรีซูเปอร์สตาร์ลูกยางที่แฟนๆคุ้นเคยกันดี อย่าง “กัปตันกิ๊ฟ” วิลาวัณย์ อภิญญาพงศ์, “หน่อง” ปลื้มจิตร์ ถินขาว, “น้องอร” อรอุมา สิทธิรักษ์ รวมถึง “ซาร่า” นุศรา ต้อมคำ ที่เป็นกำลังหลักรับใช้ทีมชาติมาอย่างยาวนาน บวกกับดาวรุ่งดวงใหม่ที่จะมาช่วยเสริมแรงให้นักกีฬารุ่นพี่ ได้สัมผัส โอลิมปิก ดังฝัน
สำหรับการเตรียมทีม "โค้ชยะ" ณัฐพนธ์ ศรีสมุทรนาค ผู้ช่วยของ “โค้ชอ๊อต” เผยถึงความพร้อมก่อนลุยศึกใหญ่ที่ญี่ปุ่นว่า “แผนที่วางไว้คือเมื่อเดือนที่แล้วได้เรียกนักกีฬาเข้ามาเก็บตัว แม้บางคนยังติดภารกิจไทยแลนด์ลีกอยู่ แต่ก็ได้รับความร่วมมือจากทุกสโมสรปล่อยนักกีฬามาฝึกซ้อมทุกวัน พุธ-ศุกร์ ก่อนที่เดือนเมษายน ทุกคนที่ไปเล่นลีกต่างประเทศ ก็จะกลับมาฝึกซ้อมร่วมกันแบบฟูลทีมก่อนเล่นรอบคัดเลือก มีเวลาเตรียมตัว 1 เดือนเศษ ซึ่งก็คิดว่าเพียงพอในการปรับทีม"
"ทุกคนในทีมคาดหวังที่จะเป็น 1 ในทีมที่ได้ไป โอลิมปิก เพราะครั้งนี้เข้าใกล้มากที่สุดแล้ว สภาพทีมมีการผสมผสานลงตัวระหว่างผู้เล่นชุดเก่าและใหม่ อย่าง วิลาวัณย์, ปลื้มจิตร์, นุศรา หรือ มลิกา กันทอง ตอนนี้พวกเขาอายุเพิ่มขึ้นนี่คงเป็นโอกาสสุดท้ายแล้ว ขณะเดียวกันสมาคมก็เตรียมแผนปั้นดาวรุ่งขึ้นมาอีกทางเพื่อเป็นความหวังใน โอลิมปิก 2020 โดยเราจะดูฟอร์มจากรอบคัดเลือกหากใครโชว์ฟอร์มดีไม่แพ้รุ่นพี่ก็จะให้ยืนเป็นตัวหลักทันที" สตาฟฟ์โค้ชลูกยางสาวไทย กล่าว
สำหรับทีมนักกีฬาดาวรุ่ง ปัจจุบันมีดาวหลายดวงเริ่มจรัสแสงออกมาให้เห็น เช่น “เตย” หัตถยา บำรุงสุข บอลเร็ววัย 22 ปี ที่สามารถเบียด ทัดดาว นึกแจ้ง หลังเผชิญอาการบาดเจ็บในช่วงปีที่ผ่านมา จนขึ้นมายึดตำแหน่งมือรองต่อจาก ปลื้มจิตร์ ถินขาว ได้ในช่วงหลัง ส่งให้เจ้าของส่วนสูง 180 ซม. รายนี้ถูกจับตาเป็นอย่างมาก เพราะมีทีเด็ดที่ลูกตบทั้งเร็วและแรง บวกกับพลังการบล็อก คาดการณ์ว่าในอนาคตน่าจะเป็นเสาหลักของทีมแทนที่ตำแหน่งของ “นิ้งหน่อง” ได้
ถัดมาที่ “บุ๋มบิ๋ม” ชัชชุอร โมกศรี มือหัวเสาวัย 16 ปี ฝีไม้ลายมือแซงหน้าเพื่อนร่วมรุ่นด้วยเทคนิคการตบที่หลากหลายทั้ง ตบตรง ตบฉีก และลูกหยอด บวกกับส่วนสูง 175 ซม. ที่สามารถใช้ความได้เปรียบเหล่านี้เล่นงานคู่ต่อสู้ได้สบายๆ เหลือเพียงเพิ่มความแข็งแรงของร่างกายให้มากขึ้น หากหมายมั่นปั้นมือขึ้นมาเล่นแทนตำแหน่ง อรอุมา สิทธิรักษ์ ที่จองตำแหน่งนี้ไว้
ด้าน “บีม” พิมพิชยา ก๊กรัมย์ มือตบแดนหลัง ถือเป็นอีกรายที่ฉายแววโดดเด่นจนได้รับเสียงเชียร์มากมาย จากไหวพริบที่แสดงออกมาให้เห็นในสนามพร้อมทักษะการเทคตัวขึ้นสูง สามารถขึ้นมาเบียดแย่งตำแหน่งกับ อัจฉราพร คงยศ และหากยกระดับตัวเองขึ้นมาได้เร็วก็จะทดแทนพื้นที่ของ มลิกา ได้เป็นอย่างดี
สุดท้าย "ทิพย์" แก้วกัลยา กมุลทะลา ตำแหน่งบอลเร็วที่หายากมากในเมืองไทย เพราะด้วยสรีระของนักกีฬาที่มีรูปร่างค่อนข้างเล็ก โอกาสที่จะฝึกให้เล่นบอลสั้นจึงเกิดขึ้นได้น้อย แต่เจ้าตัวกลับทำได้ดี ด้วยการเคลื่อนที่รวดเร็ว รวมทั้งไล่บล็อคแบบไม่มีเหนื่อย หากนำไปเสริมสร้างกล้ามเนื้อให้แข็งแกร่ง ถือเป็นอีกหนึ่งคนที่น่าจับตา เรียกว่าตอนนี้เด็กๆทุกคนต่างอยู่ในสภาพพร้อมเต็มที่สำหรับการเป็นกำลังเสริมสู่ โอลิมปิก แต่สุดท้ายแล้วทุกคนจะพารุ่นพี่ไปสู่ฝันที่รออยู่ข้างหน้าได้หรือไม่ต้องติดตาม
ทีมลูกยางสาวไทย ภายใต้การดูแลของ “โค้ชอ๊อต” เกียรติพงษ์ รัชตเกรียงไกร จากนี้จะกลับมารายงานตัวเพื่อเตรียมฝึกซ้อมสำหรับการล่าตั๋ว “ริโอ เกมส์” ที่จะเปิดฉาก 5 สิงหาคมนี้ โดยเวทีสำคัญที่พวกเธอต้องผ่านให้ได้คือศึกรอบคัดเลือกที่ ญี่ปุ่น วันที่ 14 พฤษภาคม ถึง 5 มิถุนายน ท่ามกลางคู่ต่อกรสำคัญอย่างเจ้าภาพ และชาติอื่นๆเช่น เกาหลีใต้, คาซัคสถาน, เนเธอร์แลนด์, อิตาลี, โดมินิกัน และ เปรู โดยมีเพียง 4 ทีมเท่านั้นที่จะได้ไปล่าเหรียญทองบนดินแดนแซมบ้า
แม้ยังไม่มีการประกาศรายชื่อผู้เล่นอย่างเป็นทางการ แต่เชื่อขนมกินได้ว่า “โค้ชอ๊อต” ย่อมไม่พลาดเรียกลูกศิษย์ดีกรีซูเปอร์สตาร์ลูกยางที่แฟนๆคุ้นเคยกันดี อย่าง “กัปตันกิ๊ฟ” วิลาวัณย์ อภิญญาพงศ์, “หน่อง” ปลื้มจิตร์ ถินขาว, “น้องอร” อรอุมา สิทธิรักษ์ รวมถึง “ซาร่า” นุศรา ต้อมคำ ที่เป็นกำลังหลักรับใช้ทีมชาติมาอย่างยาวนาน บวกกับดาวรุ่งดวงใหม่ที่จะมาช่วยเสริมแรงให้นักกีฬารุ่นพี่ ได้สัมผัส โอลิมปิก ดังฝัน
สำหรับการเตรียมทีม "โค้ชยะ" ณัฐพนธ์ ศรีสมุทรนาค ผู้ช่วยของ “โค้ชอ๊อต” เผยถึงความพร้อมก่อนลุยศึกใหญ่ที่ญี่ปุ่นว่า “แผนที่วางไว้คือเมื่อเดือนที่แล้วได้เรียกนักกีฬาเข้ามาเก็บตัว แม้บางคนยังติดภารกิจไทยแลนด์ลีกอยู่ แต่ก็ได้รับความร่วมมือจากทุกสโมสรปล่อยนักกีฬามาฝึกซ้อมทุกวัน พุธ-ศุกร์ ก่อนที่เดือนเมษายน ทุกคนที่ไปเล่นลีกต่างประเทศ ก็จะกลับมาฝึกซ้อมร่วมกันแบบฟูลทีมก่อนเล่นรอบคัดเลือก มีเวลาเตรียมตัว 1 เดือนเศษ ซึ่งก็คิดว่าเพียงพอในการปรับทีม"
"ทุกคนในทีมคาดหวังที่จะเป็น 1 ในทีมที่ได้ไป โอลิมปิก เพราะครั้งนี้เข้าใกล้มากที่สุดแล้ว สภาพทีมมีการผสมผสานลงตัวระหว่างผู้เล่นชุดเก่าและใหม่ อย่าง วิลาวัณย์, ปลื้มจิตร์, นุศรา หรือ มลิกา กันทอง ตอนนี้พวกเขาอายุเพิ่มขึ้นนี่คงเป็นโอกาสสุดท้ายแล้ว ขณะเดียวกันสมาคมก็เตรียมแผนปั้นดาวรุ่งขึ้นมาอีกทางเพื่อเป็นความหวังใน โอลิมปิก 2020 โดยเราจะดูฟอร์มจากรอบคัดเลือกหากใครโชว์ฟอร์มดีไม่แพ้รุ่นพี่ก็จะให้ยืนเป็นตัวหลักทันที" สตาฟฟ์โค้ชลูกยางสาวไทย กล่าว
สำหรับทีมนักกีฬาดาวรุ่ง ปัจจุบันมีดาวหลายดวงเริ่มจรัสแสงออกมาให้เห็น เช่น “เตย” หัตถยา บำรุงสุข บอลเร็ววัย 22 ปี ที่สามารถเบียด ทัดดาว นึกแจ้ง หลังเผชิญอาการบาดเจ็บในช่วงปีที่ผ่านมา จนขึ้นมายึดตำแหน่งมือรองต่อจาก ปลื้มจิตร์ ถินขาว ได้ในช่วงหลัง ส่งให้เจ้าของส่วนสูง 180 ซม. รายนี้ถูกจับตาเป็นอย่างมาก เพราะมีทีเด็ดที่ลูกตบทั้งเร็วและแรง บวกกับพลังการบล็อก คาดการณ์ว่าในอนาคตน่าจะเป็นเสาหลักของทีมแทนที่ตำแหน่งของ “นิ้งหน่อง” ได้
ถัดมาที่ “บุ๋มบิ๋ม” ชัชชุอร โมกศรี มือหัวเสาวัย 16 ปี ฝีไม้ลายมือแซงหน้าเพื่อนร่วมรุ่นด้วยเทคนิคการตบที่หลากหลายทั้ง ตบตรง ตบฉีก และลูกหยอด บวกกับส่วนสูง 175 ซม. ที่สามารถใช้ความได้เปรียบเหล่านี้เล่นงานคู่ต่อสู้ได้สบายๆ เหลือเพียงเพิ่มความแข็งแรงของร่างกายให้มากขึ้น หากหมายมั่นปั้นมือขึ้นมาเล่นแทนตำแหน่ง อรอุมา สิทธิรักษ์ ที่จองตำแหน่งนี้ไว้
ด้าน “บีม” พิมพิชยา ก๊กรัมย์ มือตบแดนหลัง ถือเป็นอีกรายที่ฉายแววโดดเด่นจนได้รับเสียงเชียร์มากมาย จากไหวพริบที่แสดงออกมาให้เห็นในสนามพร้อมทักษะการเทคตัวขึ้นสูง สามารถขึ้นมาเบียดแย่งตำแหน่งกับ อัจฉราพร คงยศ และหากยกระดับตัวเองขึ้นมาได้เร็วก็จะทดแทนพื้นที่ของ มลิกา ได้เป็นอย่างดี
สุดท้าย "ทิพย์" แก้วกัลยา กมุลทะลา ตำแหน่งบอลเร็วที่หายากมากในเมืองไทย เพราะด้วยสรีระของนักกีฬาที่มีรูปร่างค่อนข้างเล็ก โอกาสที่จะฝึกให้เล่นบอลสั้นจึงเกิดขึ้นได้น้อย แต่เจ้าตัวกลับทำได้ดี ด้วยการเคลื่อนที่รวดเร็ว รวมทั้งไล่บล็อคแบบไม่มีเหนื่อย หากนำไปเสริมสร้างกล้ามเนื้อให้แข็งแกร่ง ถือเป็นอีกหนึ่งคนที่น่าจับตา เรียกว่าตอนนี้เด็กๆทุกคนต่างอยู่ในสภาพพร้อมเต็มที่สำหรับการเป็นกำลังเสริมสู่ โอลิมปิก แต่สุดท้ายแล้วทุกคนจะพารุ่นพี่ไปสู่ฝันที่รออยู่ข้างหน้าได้หรือไม่ต้องติดตาม
