ไบรอัน ร็อบสัน กับ นิคกี บัตต์ อดีตกองกลางระดับตำนานของสโมสร "ผีแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ร่วมให้คำแนะนำและฝากข้อคิดแก่เยาวชนที่ผ่านการคัดเลือกจากโครงการ “สพฐ.-เอ.พี.ฮอนด้า เรด แชมเปียน แข่งขันทักษะฟุตบอลชิงแชมป์ไปอังกฤษ ปีที่ 5” เมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา พร้อมมอบประกาศนียบัตรและเหรียญที่ระลึกสร้างควาประทับใจเป็นอย่างยิ่ง
หลังจากที่โครงการ “สพฐ.-เอ.พี.ฮอนด้า เรด แชมเปียน แข่งขันทักษะฟุตบอลชิงแชมป์ไปอังกฤษ ปีที่ 5” นำเยาวชนไทยอายุระหว่าง 13-18 ปี ที่ผ่านการคัดเลือกจากสถานศึกษาทั่วประเทศ ลัดฟ้าไปฝึกซ้อมร่วมกับโค้ชอะคาเดมีจากยอดทีมแห่งศึก พรีเมียร์ ลีก อังกฤษ อย่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ณ เอออน เทรนนิง คอมเพล็กซ์ (Aon Training Complex) ระหว่างวันที่ 22-26 กุมภาพันธ์ พร้อมพาทัวร์สโมสร ประกอบด้วย นักเตะทั้งหมด 25 คนได้แก่ประเภททีม โรงเรียนกีฬาจังหวัดตรัง (แชมป์ภาคใต้), โรงเรียนวชิราลัย จาก จ.เชียงใหม่ (แชมป์ภาคเหนือ), โรงเรียนบ้านหมากแข้ง จ.อุดรธานี (แชมป์ภาคอีสาน), โรงเรียน ลานสักวิทยา จ.อุทัยธานี (แชมป์ภาคกลาง) และประเภทเดี่ยว
โดยเมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ หลังจากที่ แมนฯยูไนเต็ด จัด "มีท แอนด์ กรี๊ด" ให้เยาวชนได้พบกับ 2 นักเตะ บาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์ กองกลางทีมชาติเยอรมนีชุดแชมป์โลกปี 2014 กับ ลุค ชอว์ แบ็กซ้ายทีมชาติอังกฤษ ช่วงบ่ายของวันเดียวกันได้มีพิธีจบหลักสูตรอย่างเป็นทางจัดขึ้นที่สนาม โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด โดยงานนี้ "ผีแดง" ส่ง ไบรอัน ร็อบสัน อดีตกองกลางที่เคยสวมยูนิฟอร์มสีแดงระหว่างปี 1981-1994 และอดีตกุนซือทีมชาติไทย พร้อมด้วย นิคกี บัตต์ อดีตมิดฟิลด์ชุด "คลาส ออฟ 92" ดีกรีทริปเปิลแชมป์ปี 1999 ที่ปัจจุบันเพิ่งขึ้นแท่นเป็นหัวหน้าชุดเยาวชนด้วยวัย 41 ปี มามอบประกาศนียบัตรและเหรียญที่ระลึกพร้อมพูดคุยฝากเป็นการบ้านเมื่อกลับเมืองไทย
หลังจากเสร็จขั้นตอนของพิธีการ ร็อบสันได้กล่าวชม บริษัท เอ.พี.ฮอนด้า ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายรถจักรยานยนต์รายใหญ่ของไทย ในฐานะออฟฟิเชียล พาร์ทเนอร์ (Official Partner) ของ แมนฯยู ที่ได้สร้างโอกาสเช่นนี้ขึ้นมา "ถือว่าเป็นโปรเจ็คต์ที่ดีมากสำหรับน้องๆ ที่ได้มาฝึกซ้อมและแข่งขัน การเป็นพันธมิตรกันเป็นเรื่องที่ดี เพราะให้โอกาสเด็กๆ มาฝึกซ้อมที่ แมนฯยู มีการเปิดให้น้องๆ รับวัฒนธรรมอังกฤษ ซึ่งหวังว่าเราจะจับมือกันต่อไปกับ เอ.พี. ฮอนด้า"
อดีตกัปตัน แมนฯยู ชุดแชมป์ พรีเมียร์ ลีก 2 สมัย ได้แนะนำเด็กไทยและโค้ชที่เดินทางมาด้วยว่า "อย่างแรกสิ่งสำคัญที่สุด หากตัดเรื่องทักษะต่างๆ ออกไปคือทุกคนต้องเล่นฟุตบอลให้สนุก ส่วนเรื่องพื้นฐานนั้นก็สำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าทั้งรับบอล ส่งบอล ยิงประตู และฟิตเนส เหนืออื่นใดถ้าอยากเป็นนักฟุตบอลอาชีพคุณต้องฝึกทุกอย่างที่ได้บอกไป โค้ชและนักเตะต้องใช้เวลาคลุกคลีรวมถึงพูดคุยกันมากๆ ส่วนเยาวชนไทยคือคุณต้องซ้อมและอยู่กับลูกฟุตบอลทุกวัน ยิ่งซ้อมก็ยิ่งเก่งผลงานก็พัฒนาเติบโตควบคู่กันไป ถือว่าโชคดีมาก เพราะปัญหาของผู้เล่นสมัยก่อนก็คือสนามซ้อมที่ไม่ค่อยทันสมัยและหายาก ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญ สมัยผมก็ต้องฝึกกับเพื่อนตามท้องถิ่น ดังนั้นตอนนี้ทุกอย่างพร้อมขอให้ทุกคนอย่าปล่อยให้หลุดลอยไป"
ปิดท้ายที่ บัตต์ ที่เคยเล่นให้ นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด กับ เซาธ์ ไชนา เผยว่า "บรรยากาศของการแข่งขันสำคัญมาก ดังนั้นโค้ชต้องทำให้ทุกคนสนุกเพราะไม่เช่นนั้นแล้วก็จะไม่เข้าใจสิ่งที่สอน ส่วนวิธีการซ้อมต้องเรียบง่ายไม่ยุ่งยาก ดังนั้นระหว่างซ้อมให้คำแนะนำสัก 2-3 จุดก็พอแล้ว บางทีการที่ให้ข้อมูลมากเกินไปจะเก็บไปคิดเยอะแบบไม่จำเป็น ส่วนโอกาสต้องให้กับนักเตะดาวรุ่งอย่างเพียงพอ ทุกคนพอลงไปไม่กดดัน จากนั้นพออายุปลายๆ ก็จะเริ่มฝึกให้ใช้หัวคิดในการเล่นฟุตบอล เหนืออื่นใดตอนนี้ก็เล่นไปตามเกมก่อน จากนั้นก็เสริมแท็กติกความเข้าใจเกมมากขึ้นไปเรื่อยๆ ตามอายุ"