คอลัมน์ “สกอร์บอร์ด” โดย “แมวดำ”
นึกว่าจะต้องรอเนิ่นนานสำหรับการรับรองการเลือกตั้งนายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยที่ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง เป็นผู้คว้าชัยชนะเหนือผู้สมัครทุกราย ไม่เว้นแม้แต่ "อาจารย์หรั่ง" ชาญวิทย์ ผลชีวิน ตัวเต็งอีกรายที่โดนทิ้งห่างกระจุย ทว่า "พี่เสือ" สกล วรรณพงษ์ ผู้ว่า กกท.ก็ประกาศรับรองกันเพียง 6 วันหลังการเลือกตั้ง ด้วยเหตุผลก็ไม่มีพิรุธอะไรให้ต้องสงสัยในการลงคะแนน เป็นอันว่า "บิ๊กอ็อด" ก็นั่งตำแหน่งสูงสุดแห่งวงการฟุตบอลไทยอย่างเป็นทางการ
เมื่อในประเทศรับรอง ต่างประเทศจะว่าอย่างไร ลองดูที่ ประธานสมาพันธ์ฟุตบอลเอเชีย หรือ เอเอฟซี ขนาดยังไม่ได้มีการรับรองจาก กกท. แต่ก็แสดงความยินดีมาเป็นหนังสือ พร้อมเชิญชวนร่วมประชุม"ฟีฟาคองเกรส" ที่ซูริค สวิตเซอร์แลนด์ วันที่ 26 กุมภาพันธ์นี้ แถมยังได้บินไปร่วมประชุมสมาชิก "เอเอฟซี" ที่มาเลเซีย แถมมีรับการต้อนรับอย่างดีจาก ชีค อาหมัด อัลฟาฮัด อัลซาบาร์ เจ้าชายคูเวต ประธานโอลิมปิกแห่งเอเชีย, ดาโต๊ะ วินเซอร์ จอห์น เลขาธิการ เอเอฟซี และยังได้รับมอบสูทประจำตำแหน่งของสมาพันธ์ฟุตบอลอาเซียน จากเลขาธิการเอเอฟเอฟ ดาโต๊ะ อัซซุดิน อาหมัด แค่นี้ก็รู้แล้วว่านานาชาติให้การยอมรับหรือไม่
แต่สิ่งที่อยากย้ำให้ "บิ๊กอ็อด" ระลึกถึงไว้เสมอคือ คำพูดที่กลายเป็นนายของตัวเอง และเจ้าตัวมักย้ำอยู่เสมอว่า "ผมมาจับโจร" วันนี้จึงอยากเล่าเรื่องโจรปล้นเงินสโมสรฟุตบอลในประเทศให้ฟัง ว่ามีสโมสรสมาชิกทีมหนึ่งในฟุตบอลลีกรากหญ้าบ้านเรา มาร้องกับสื่อมวลชนว่ามีขบวนการรีดเลือดจากปู ด้วยการตั้งทีมเชิตดำออกทำมาหากินกันเป็นล่ำเป็นสันโดยการมอบหมายให้ "มิสเตอร์บอมเบอร์แมน" จอมฉาวโฉ่ที่ไปผลุบๆ โผล่ๆ ที่สตูลจนโดนแฟนบอลไล่กระทืบนั่นแหละ ออกไปเที่ยวต่อสายถึงสโมสรไหนอยากได้ชัยชนะ ขอให้วางเงินเต็มจำนวนหลายหมื่น
ซึ่งเจ้าของทีมเขาก็อยากรู้ว่าถ้าไม่จ่ายจะเป็นอย่างไรคำตอบคือแพ้แน่ 2-0 และด้วยความที่อยากจะลองของก็เลยไม่ยอมจ่าย สุดท้ายเป็นไปตามคำของ "มิสเตอร์บอมเบอร์แมน" 2-0 พูลสวัสดิ์ หากเป็นเกมธรรมดาก็ไม่กระไร แต่ครั้งนั้นเป็นนัดที่มีผลต่อการเลื่อนชั้นในลีกระดับล่าง อุตส่าห์ลงทุนลงแรงกันแทบตาย กลายเป็นมาพังเพราะลมปากเป่านกหวีดแท้ๆ
พอรู้ว่าวงการลูกหนังมันเสื่อมเพราะมีพวกคอยหากินกับนกหวีด เลยตัดใจว่าจะไม่ทำทีมต่อแล้ว และอยากขายสิทธิ์ให้คนอื่นมาทำต่อ ส่งเรื่องไปถึง นายใหญ่ลีกรากหญ้า ว่าตกลงขายสิทธิ์ทีมงานใหม่ จ่ายตังค์กันเสร็จสรรพนับแบงค์ครบถ้วน ปรากฎว่ามีการลีลายื้อลายเซ็นกัน อ้างเหตุผลร้อยแปด พี่ไม่ว่าง ไม่มีเวลา ก่อนจะให้เลขาโทรมาถามว่ามีค่าเซ็นหนังสือไหม
แหม...หากินกันตั้งแต่ตัวเล็กยันตัวใหญ่แบบนี้ เหม็นโฉ่ไปทั่ววงการจริงๆ ทราบแบบนี้แล้ว "บิ๊กอ็อด" ผู้ลั่นวาจาว่าจะมาจับโจร ช่วยหน่อยเถอะ อย่าให้เสียชื่อตำรวจเก่า...
นึกว่าจะต้องรอเนิ่นนานสำหรับการรับรองการเลือกตั้งนายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยที่ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง เป็นผู้คว้าชัยชนะเหนือผู้สมัครทุกราย ไม่เว้นแม้แต่ "อาจารย์หรั่ง" ชาญวิทย์ ผลชีวิน ตัวเต็งอีกรายที่โดนทิ้งห่างกระจุย ทว่า "พี่เสือ" สกล วรรณพงษ์ ผู้ว่า กกท.ก็ประกาศรับรองกันเพียง 6 วันหลังการเลือกตั้ง ด้วยเหตุผลก็ไม่มีพิรุธอะไรให้ต้องสงสัยในการลงคะแนน เป็นอันว่า "บิ๊กอ็อด" ก็นั่งตำแหน่งสูงสุดแห่งวงการฟุตบอลไทยอย่างเป็นทางการ
เมื่อในประเทศรับรอง ต่างประเทศจะว่าอย่างไร ลองดูที่ ประธานสมาพันธ์ฟุตบอลเอเชีย หรือ เอเอฟซี ขนาดยังไม่ได้มีการรับรองจาก กกท. แต่ก็แสดงความยินดีมาเป็นหนังสือ พร้อมเชิญชวนร่วมประชุม"ฟีฟาคองเกรส" ที่ซูริค สวิตเซอร์แลนด์ วันที่ 26 กุมภาพันธ์นี้ แถมยังได้บินไปร่วมประชุมสมาชิก "เอเอฟซี" ที่มาเลเซีย แถมมีรับการต้อนรับอย่างดีจาก ชีค อาหมัด อัลฟาฮัด อัลซาบาร์ เจ้าชายคูเวต ประธานโอลิมปิกแห่งเอเชีย, ดาโต๊ะ วินเซอร์ จอห์น เลขาธิการ เอเอฟซี และยังได้รับมอบสูทประจำตำแหน่งของสมาพันธ์ฟุตบอลอาเซียน จากเลขาธิการเอเอฟเอฟ ดาโต๊ะ อัซซุดิน อาหมัด แค่นี้ก็รู้แล้วว่านานาชาติให้การยอมรับหรือไม่
แต่สิ่งที่อยากย้ำให้ "บิ๊กอ็อด" ระลึกถึงไว้เสมอคือ คำพูดที่กลายเป็นนายของตัวเอง และเจ้าตัวมักย้ำอยู่เสมอว่า "ผมมาจับโจร" วันนี้จึงอยากเล่าเรื่องโจรปล้นเงินสโมสรฟุตบอลในประเทศให้ฟัง ว่ามีสโมสรสมาชิกทีมหนึ่งในฟุตบอลลีกรากหญ้าบ้านเรา มาร้องกับสื่อมวลชนว่ามีขบวนการรีดเลือดจากปู ด้วยการตั้งทีมเชิตดำออกทำมาหากินกันเป็นล่ำเป็นสันโดยการมอบหมายให้ "มิสเตอร์บอมเบอร์แมน" จอมฉาวโฉ่ที่ไปผลุบๆ โผล่ๆ ที่สตูลจนโดนแฟนบอลไล่กระทืบนั่นแหละ ออกไปเที่ยวต่อสายถึงสโมสรไหนอยากได้ชัยชนะ ขอให้วางเงินเต็มจำนวนหลายหมื่น
ซึ่งเจ้าของทีมเขาก็อยากรู้ว่าถ้าไม่จ่ายจะเป็นอย่างไรคำตอบคือแพ้แน่ 2-0 และด้วยความที่อยากจะลองของก็เลยไม่ยอมจ่าย สุดท้ายเป็นไปตามคำของ "มิสเตอร์บอมเบอร์แมน" 2-0 พูลสวัสดิ์ หากเป็นเกมธรรมดาก็ไม่กระไร แต่ครั้งนั้นเป็นนัดที่มีผลต่อการเลื่อนชั้นในลีกระดับล่าง อุตส่าห์ลงทุนลงแรงกันแทบตาย กลายเป็นมาพังเพราะลมปากเป่านกหวีดแท้ๆ
พอรู้ว่าวงการลูกหนังมันเสื่อมเพราะมีพวกคอยหากินกับนกหวีด เลยตัดใจว่าจะไม่ทำทีมต่อแล้ว และอยากขายสิทธิ์ให้คนอื่นมาทำต่อ ส่งเรื่องไปถึง นายใหญ่ลีกรากหญ้า ว่าตกลงขายสิทธิ์ทีมงานใหม่ จ่ายตังค์กันเสร็จสรรพนับแบงค์ครบถ้วน ปรากฎว่ามีการลีลายื้อลายเซ็นกัน อ้างเหตุผลร้อยแปด พี่ไม่ว่าง ไม่มีเวลา ก่อนจะให้เลขาโทรมาถามว่ามีค่าเซ็นหนังสือไหม
แหม...หากินกันตั้งแต่ตัวเล็กยันตัวใหญ่แบบนี้ เหม็นโฉ่ไปทั่ววงการจริงๆ ทราบแบบนี้แล้ว "บิ๊กอ็อด" ผู้ลั่นวาจาว่าจะมาจับโจร ช่วยหน่อยเถอะ อย่าให้เสียชื่อตำรวจเก่า...
