โลรองต์ บล็องก์ กุนซือ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ยันต้องไม่ประมาท แม้นัดแรกรูปเกมจะดีกว่า เชลซี แต่ชนะด้วยสกอร์สุดเบียด 2-1 ในศึก ยูฟา แชมเปียนส์ ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้ายที่สนาม ปาร์ก เดอส์ แปรงส์ เมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา
เกมดังกล่าว เปแอสเช นำก่อนจาก ซลาตัน อิบราฮิโมวิช นาที 39 แต่ช่วงทดเวลาบาดเจ็บครึ่งแรก เชลซี ตีเสมอจาก จอห์น โอบิ มิเกล สุดท้ายเจ้าถิ่นมาได้ประตูชัยนาที 78 จากตัวสำรอง เอดินสัน คาวานี หอกทีมชาติอุรุกวัย อย่างไรก็ตาม ต้องเจอกันนัดสองที่ สแตมฟอร์ด บริดจ์ วันที่ 9 มีนาคมนี้ ส่วนผลอีกคู่วันเดียวกัน เบนฟิกา (โปรตุเกส) ชนะ เซนิต เซนต์ ปีเตอร์สเบิร์ก (รัสเซีย) 1-0
ภายหลัง บล็องก์ นายใหญ่ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ออกมาเตือนนักเตะอย่าชะล่าใจ เนื่องจากถ้วยยุโรปเจอกันมา 2 ปีหลังสุดต้องตัดสินด้วยอะเวย์โกล์ทั้งสิ้น เริ่มจาก เชลซี ที่ชนะได้ก่อนในรอบ 8 ทีมสุดท้ายส่วนปีที่แล้วเป็น เปแอสเช ที่ผ่านรอบ 16 ทีมสุดท้าย
“น่าผิดหวังที่เราเสียประตูช่วงท้ายครึ่งแรก แต่คืนนี้บอกได้เลยว่าทุกคนเล่นได้ตามแผน แม้สกอร์ที่ออกมาจะไม่ได้เปรียบมากนักก็ตาม ส่วน เอดี ผมปลื้มมากกับประตูของเขารวมถึงตลอดระยะเวลาที่อยู่ในสนามก็แสดงให้เห็นถึงความกระตือรือร้นที่อยากจะส่งบอลตุงตาข่าย” บล็องก์ เผย
ด้าน กุส ฮิดดิงก์ กุนซือ เชลซี แม้จะแพ้แต่ก็พอใจ “ความพ่ายแพ้ไม่เคยทำให้รู้สึกดี แต่เมื่อพิจารณาจากประตูทีมเยือนถือว่าสำคัญมาก เกมแรกเรามาเน้นเกมให้รัดกุม ซึ่งการแพ้ 1-2 นั้นถือว่ายังอยู่บนเส้นทาง เหนืออื่นใดเมื่อมองจากรูปแบบการเล่นแล้วผมไม่พอใจ เพราะเหมือนว่าเรายากจะรับมือกับ เปแอสเช”