ผู้จัดการสุดสัปดาห์ 360 - ศึกอเมริกันฟุตบอลเอ็นเอฟแอล รอบชิงชนะเลิศ หรือ "ซูเปอร์โบว์ล" ครั้งที่ 50 จะอุบัติขึ้นแล้วที่ ลีวายส์ สเตเดียม เช้าตรู่วันจันทร์ที่ 8 กุมภาพันธ์ ตามเวลาบ้านเรา งานนี้นอกจากได้ชมเชียร์ลุ้นว่าใครจะได้ครอบครอง วินซ์ ลอมบาร์ดี โทรฟี ระหว่าง แครอไลนา แพนเธอร์ส หรือ เดนเวอร์ บรองโกส์ ยังได้สนุกสนานกับโชว์พักครึ่งจากวง Coldplay และ บียอนเซ รวมถึงบรรดาโฆษณาของบริษัทต่างๆที่เตรียมงัดสินค้าเด็ดมาเปิดตัวพร้อมกันทั่วโลก แม้ค่าโฆษณาจะแพงหูฉี่แลกกับการฉาย 30 วินาที-2 นาที แต่ก็คุ้มแสนคุ้มและนี่ก็คือ 7 โฆษณาที่แพงที่สุดในประวัติศาสตร์ ซูเปอร์โบว์ล
7.ทาโก เบลล์ (2013) ร้านอาหารฟาสต์ฟูดชื่อดังของอเมริกา ควักเงิน 7.6 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 281 ล้านบาท) จ้างนักแสดงอายุ 70 อัพ ทั้งชายหญิงสลัดความแก่ออกย่ำราตรีตลอดทั้งคืน พร้อมหม่ำอาหารกันแบบสุดสนุกสวิงริงโก้ แม้จะได้เสียงตอบรับค่อนข้างดี ยอดขายพุ่งขึ้นแต่หลายคนก็สงสัยว่าทำไมถึงต้องจ่ายแพงขนาดนั้นทั้งที่งบถ่ายทำโฆษณาก็ไม่ได้มากมายอะไร
6.โคคา-โคลา (2014) เครื่องดื่มน้ำดำที่หลายคนชื่นชอบ เลือกธีม America is Beautiful ถ่ายทอดให้เห็นความรักใคร่ปรองดองของคนชาวอเมริกันและชาวต่างชาติกว่าหลายล้านคนที่เข้ามาอยู่ในอเมริกา ใช้งบลงทุนไป 8 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 296 ล้านบาท) สำหรับค่าโฆษณา 1 นาทีฉายที่ เม็ตไลฟ์ สเตเดียม งานนี้คนดูเห็นกันทั่วโลกแต่หลายคนก็คิดว่ามันแพงไปหน่อยกับโฆษณาที่ไม่มีดาราดังร่วมแสดง
5.ไมโครซอฟท์ (2014) บริษัทผู้นำด้านเทคโนโลยีระดับโลก ใช้เวลา 1 นาทีแสดงให้เห็นว่าเทคโนโลยีสมัยใหม่ สามารถช่วยอำนวยความสะดวกให้กับมนุษย์ได้มากเพียงใด ทั้งอุปกรณ์จักรกลต่างๆ, แขน-ขาเทียมที่สามารถขยับได้, อุปกรณ์เสริมสำหรับเล่นเกมที่ยังเอามาเป็นแบบฝึกสอนการผ่าตัด ฯลฯ ด้วยเงินจำนวนถึง 8 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 296 ล้านบาท) ซึ่งผู้บริหารอย่าง บิล เกตส์ และคนอื่นๆคงไม่สะเทือน เพราะเอาจริงแล้วค่าลงเงินพัฒนาสิ่งอำนวยความสะดวกและซอฟท์แวร์ต่างๆ แพงกว่านี้อีก
4.เกีย (2014) ถึงหนังจะจบไปนานแล้วแต่ เกีย มอเตอร์ส แบรนด์รถยนต์ชื่อก้องจากเกาหลีใต้ ก็ปลุกชีพ มอร์เฟียส ตัวละครสุดเท่จากหนังเรื่อง เดอะ แมทริกซ์ มาชวนให้คนดูตัดสินใจว่าจะเลือกขับรถแบบเดิมๆ หรือเปลี่ยนมาขับ เกีย รุ่นใหม่ที่ขับแล้วเงียบสงบไร้เสียงรบกวน สนนค่าโฆษณาที่ 8 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 296 ล้านบาท) เห็นแล้วก็ทำให้นึกถึงวันแรกที่หนังเข้าฉายกันเลยทีเดียว
3.จากัวร์ (2014) จะมีโฆษณาตัวไหนบ้างที่สามารถรวบรวมเอา 3 นักแสดงดาวร้ายชื่อดังอย่าง ทอม ฮิดเดลสตัน, เบน คิงสลีย์ และ มาร์ค สตรอง มาอยู่ร่วมซีนเดียวกันได้ โดยเป็นโฆษณาโปรโมทรถยนต์ซีรีส์ใหม่ของ จากัวร์ งานนี้ถือว่าคุ้มค่ากับเงินที่จ่ายไป 8 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 296 ล้านบาท) หน่อยเพราะได้ดาราดังมาร่วมเล่นแถมยอดสั่งจองเพิ่มขึ้นเยอะ
2.บัด ไลท์ (2014) จำนวนเงินที่จ่ายไป 12 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 444 ล้านบาท) ถือเป็นตัวเลขที่สูงเอาเรื่องอยู่สำหรับเครื่องดื่มแอลกฮอลล์ที่เป็นที่รู้จักของนักดื่มอยู่แล้ว แต่ต่างกันตรงที่งานนี้มีเซอร์ไพรส์ดึงเอานักแสดงชื่อดังหลายคนมาร่วมแจมกับผู้โชคดีในโฆษณาดังกล่าว รวมถึง อาร์โนลด์ ชวาร์เซเนกเกอร์ แอ็คชั่นสตาร์ร่างยักษ์ที่ไม่ค่อยรับงานโฆษณาที่ไหนก็มาโผล่เป็นสีสันด้วย เรียกว่างบแพงเพราะค่าตัวดาราแท้ๆ
1.ไครสเลอร์ (2011) ปกติแล้ววงการรถยนต์มักเลือกใช้ดาราหรือพรีเซ็นเตอร์ที่มีภาพลักษณ์สุดหรูหรามาช่วยโปรโมท แต่ ไครสเลอร์ ทำสิ่งที่เหนือชั้นกว่าคือดึง เอมิเนม แร็ปเปอร์ชื่อก้องที่กลับมาโด่งดังอีกครั้งกับอัลบั้ม Recovery ปีก่อน ขับรถ ไครสเลอร์ 200 ผ่านย่านดีทรอยต์ เมืองบ้านเกิดของเขาที่มีชื่อเป็นเมืองผลิตรถยนต์อันเก่าแก่ของอเมริกา พร้อมบรรยายสรรพคุณ "ทุกอย่างเปลี่ยนแต่เราไม่เปลี่ยน" ถึงจะยาว 2 นาทีและต้องจ่ายถึง 12.4 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 459 ล้านบาท) สำหรับฉายใน ซูเปอร์โบว์ล แต่ก็คุ้มค่ายิ่งเพราะส่งให้ยอดขายพุ่งกระฉูดขึ้นกว่า 50 เปอร์เซนต์
เรื่องโดย : วัลลภ สวัสดี