“ต้น-สมพร ยศ” นายด่านมหาอุด

ผู้จัดการรายวัน 360 - แจ้งเกิดอย่างเป็นทางการ สำหรับ “ต้น” สมพร ยศ ในศึกชิงแชมป์เอเชีย รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี แม้ผู้รักษาประตูจากเมืองกล้วยไข่ กำแพงเพชร จะไม่สามาถช่วยช้างศึกผ่านเข้าสู่รอบ 8 ทีมสุดท้ายได้ แต่ตลอดทัวร์นาเมนต์ที่เผชิญหน้า ซาอุดิอาระเบีย, ญี่ปุ่น และ เกาหลีเหนือ เขาโชว์เซฟไปถึง 20 ครั้ง ก่อนจะเสียเพียง 7 ประตูเท่านั้น

โดย สมพร ยศ เริ่มเล่นฟุตบอลด้วยวัยเพียง 10 ขวบ โดยมีคุณพ่อเป็นสนับสนุน จนมีชื่อติดทีมโรงเรียนวัดสุทธิวราราม ลงแข่งขันฟุตบอลนักเรียนให้กับโรงเรียนมาตลอด ก่อนจะได้ยืนเฝ้าเสาใหทีมนักเรียนไทยชุดชิงชนะเลิศแห่งเอเชีย ในปี 2553 ที่เกาหลีใต้ ชุดเดียวกับ ชนินทร์ แซ่เอี๊ยะ และ นูรูล ศรียานเก็ม ก่อนถูกเรียกตัวติดทีมชาติไทย ชุดอายุไม่เกิน 19 ปี ชิงแชมป์เอเชีย เมื่อปี 2554-55 ภายใต้การคุมทีมของ “น้าฉ่วย” สมชาย ชวยบุญชุม ซึ่งเป็นรุ่นเดียวกับ “เมสซี่เจ” ชนาธิป สรงกระสินธ์, “ตั้ม” ธนบูรณ์ เกษารัตน์, “บาส” พีระพัฒน์ โน้ตชัยยา, “เก่ง” อดิศร พรหมรัตน์ และ “บอย” จาตุรงค์ พิมพ์คูณ จากนั้นทีมชุดนี้จึงได้ก้าวขึ้นมาเป็นขุมกำลังสำคัญของทีม “มังกรไฟ” บีอีซี เทโรศาสน

“เจ้าต้น” ยอมรับว่าสาเหตุหลักที่ทำให้มาถึงจุดนี้ได้เป็นเพราะครอบครัว ซึ่งให้ตนเองได้ทำในสิ่งที่ชอบและออกมาใช้ชีวิตอยู่เมืองหลวงเพียงคนเดียวตั้งแต่อายุ 16 ปี

แม้ สมพร มีโอกาสได้ขึ้นมาโลดแล่นในทีมชุดใหญ่ของสโมสร บีอีซี แต่ยังไม่สามารถยึดตำแหน่งตัวจริงจาก “เอ้” ทศพร ศรีเรือง นายทวารมือ 1 ของทีมได้ เจ้าตัวยอมรับว่าทำให้ขาดกำลังใจไปพอสมควร แต่ก็ยังมีคุณพ่อ-แม่-น้องสาว คอยผลักดัน

"ตอนที่ได้รับโอกาสให้ติดทีมชาติผมค่อนข้างประหม่า แต่ก็ได้โค้ชผู้รักษาประตู วิรัช วังจันทร์ คอยติวด้านเทคนิค การสังเกตุลูกจากทิศทางต่างๆ รวมทั้งยังได้รุ่นพี่อย่าง ทศพร ให้คำแนะนำตั้งแต่เล่นสโมสรจนติดทีมชาติ ทำให้มีความมั่นใจและโชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยม ถือเป็นการพิสูจน์ตัวเองได้เป็นอย่างดี" นายด่านคนดังเผย

นอกจากนี้ มือกาววัย 23 ปี ยังเปิดเผยว่าตนเองมี อีเกร์ กาซียาส ผู้รักษาประตูทีมชาติสเปน ตำนาน รีล มาดริด ปัจจุบันเล่นให้ เอฟซี ปอร์โต เป็นไอดอล ซึ่งเจ้าตัวจะเปิดดูเทปบันทึกการแข่งขันย้อนหลังทุกนัด เพื่อศึกษาวิธีการป้องกัน เทคนิคการทิ้งตัว ท่ายืน และแอบดีใจที่บางครั้งจังหวะการป้องกันของตนเองคล้ายกับคนที่ชื่นชอบ

ส่วนเรื่อง "ของขลัง" ที่เจ้าต้นนำมาแขวนไว้หลังตาข่ายในนัดดวลกับซาอุดิอาระเบีย คือ "เสืออุ้มทรัพย์" ของหลวงพ่ออุทัย วัดเกาะตาพุด อ.โพธาราม จ.ราชบุรี ซึ่งได้มาจาก "น้าตรี" ชาตรี แสงสว่าง เจ้าหน้าที่ทีมที่เป็นหนึ่งในสต๊าฟฟ์โค้ชทีมราชบุรี ได้เอาไปแขวนไว้ เพราะต้องการสร้างขวัญกำลังใจด้วยสิ่งศักสิทธิ์ทุกอย่างที่เชื่อและศรัทธา และนอกจากนี้ยังบูชา พระพิฆเนศ และพ่อปู่ฤษีตาไฟ อยู่ที่บ้านตามความเชื่อของตนเอง ว่าจะช่วยให้เป็นแรงเสริมสร้างให้ประสบความสำเร็จในสิ่งที่ปรารถนา เหนืออื่นใดคือการหมั่นฝึกซ้อมมากกว่าที่ทำให้โชว์ฟอร์มเยี่ยม

สุดท้ายผู้รักษาประตูจอมหนึบจาก บีอีซี เทโรศาสน เผยว่าเป้าหมายสูงสุดของตนเองคือการก้าวไปติดทัพช้างศึกชุดใหญ่ในอนาคต และเป็นมือหนึ่งในการค้าแข้งอาชีพ

"สำหรับทัวร์นาเมนท์ชิงแชมป์เอเชียที่ผ่านมา ผมถือว่ามันเป็นประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมมากเลยครับ ต้องขอขอบคุณทุกๆ คนที่ให้โอกาสผม ต่อจากนี้ไปผมจะพยายามพัฒนาฝีมือของตัวเองให้ดีขึ้นมากกว่านี้ เพราะว่าเป้าหมายของผมมันยิ่งใหญ่มากนั่นก็คือการก้าวขึ้นไปติดทีมชาติชุดใหญ่ให้ได้ ส่วนอนาคตกับสโมสรตอนนี้ยังตอบไม่ได้เพราะมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ แต่ตนเองและเลือกสิ่งที่ดีที่สุดเพื่อให้ได้รับโอกาสในการทำหน้าที่ในสนาอย่างเต็มที่" เจ้าต้นทิ้งท้าย