แมนนี ปาเกียว นักชกวีรบุรุษของ ฟิลิปปินส์ ขึ้นเวทีแถลงข่าวการขึ้นชกไฟต์สุดท้ายในการเป็นนักชกอาชีพกับ ทิโมธี แบรดลีย์ คู่แข่งชาวอเมริกัน วันที่ 9 เมษายนนี้ บอกเสียใจที่ถึงคราวต้องเลิก แต่ถึงเวลาแล้วที่ต้องกลับมาช่วยเหลือประเทศชาติในฐานะนักการเมือง
"แพ็คแมน" เตรียมตัวเจอกับ แบรดลีย์ เป็นหนที่ 3 บนสังเวียน เอ็มจีเอ็ม แกรนด์ การ์เดน อารีนา ที่ ลาส เวกัส โดยว่าที่อดีตนักชกวัย 37 ปี บอกนี่จะเป็นครั้งสุดท้ายแล้วที่จะสวมนวมขึ้นเวทีสู้กับคู่แข่ง หลังเริ่มรู้ตัวเองว่าร่างกายไม่พร้อมที่จะยืนชกตลอด 12 ยกอีกต่อไป
ปาเกียว เผยว่า "ผมคงมีความสุขมากที่ได้แขวนนวมหลังจบไฟต์นี้ แน่นอนว่ามันเป็นเรื่องเศร้าที่ต้องตัดสินใจแบบนั้น แต่ชีวิตมันก็เป็นแบบนี้ มันถึงเวลาที่ต้องจากกันแล้ว ผมคิดไว้แบบนั้น" ด้าน บ็อบ อารัม โปรโมเตอร์คู่กาย บอกจะไม่โปรโมทไฟต์นี้มากนักเพราะ ปาเกียว บอกเรื่องนี้หมดแล้ว
ทั้งนี้ อีกเหตุผลสำคัญคือการที่ ฟลอยด์ เมย์เวทเธอร์ จูเนียร์ อดีตคู่ปรับชิงประกาศแขวนนวมไปก่อนแล้วทำให้ไม่มีโอกาสได้ล้างตากันอีก "เมย์เวทเธอร์ เลิกชกไปแล้ว ผมเองก็จะทำแบบนั้นเหมือนกัน ผมไม่เสียใจเลยเพราะผมเชื่อมาตลอดว่าตัวเองชนะ ผู้คนและแฟนๆก็คิดแบบนี้"
"ผมอยากเลิกเพราะมีภาระอันยิ่งใหญ่ที่ต้องรับผิดชอบใน ฟิลิปปินส์ ครอบครัวของผมอยากให้เลิกชกมานานแล้วก่อนที่จะชกกับ เมย์เวทเธอร์ ที่ผ่านมาผมชกมวยก็เพื่อช่วยเหลือแม่และครอบครัว แต่ตอนนี้ผมจะเลิกชกเพื่อช่วยเหลือประเทศชาติบ้าง" ปาเกียว ทิ้งท้าย