คอลัมน์ “ตอดทุกเรื่อง” โดย “หญิงตอด”
ยกให้เป็นสัปดาห์วุ่นวายของวงการฟุตบอลไทยอย่างแท้จริง หลังจากบอร์ดทีพีแอลมีมติเห็นชอบให้มีการเพิ่ม 20 ทีมในไทยพรีเมียร์ลีกท่ามกลางความไม่เห็นด้วยของหลายๆ สโมสรและแฟนบอล ซึ่งหนึ่งในนั้นคือบรรดากองเชียร์ การท่าเรือ เอฟซี ซึ่งอยู่ในข่ายที่ถูกรับเลือกให้โลดแล่นอยู่ในไทยพรีเมียร์ 2016 ตามโควต้าทีมลำดับที่ 17 ของตารางคะแนนในฤดูกาล 2015
ทันทีที่มีการประกาศออกมา "มาดามแป้ง" นวลพรรล ล่ำซำ นายหญิงของสโมสรใหญ่ย่านคลองเตย ได้แถลงข่าวแสดงความดีอกดีใจที่ทีมยังได้สิทธิ์อยู่ในลีกสูงสุด แต่ผลตอบรับกลับออกมาในแง่ลบ เพราะบรรดาผู้เล่นคนที่ 12 ของ "อาชาท่าเรือ" อยากเห็นทีมรักของตนเอง หล่นไปอยู่ดิวิชั่น 1 แบบทนงในศักดิ์ศรีมากกว่า อีกทั้งยังออกแนวรับไม่ได้กับการตัดสินใจของประธานสโมสรคนสวยที่ประกาศออกมาแบบนี้
ทำให้ "นางฟ้าวงการลูกหนัง" ไม่ปล่อยให้การกระทำของตนค้านความรู้สึกของคนกลุ่มใหญ่ ชิงประกาศสนับสนุนให้ไทยลีกมี 18 ทีมในวันถัดมา พร้อมยอมหล่นไปเล่นลีกรองโดยพลัน แม้ในความเป็นจริงจะเป็นไปไม่ได้ก็ตาม แต่ก็สามารถกลับมาครองใจแฟนคลับของตนเอง และแฟนลูกหนังทั่วประเทศได้อีกครั้ง
ซึ่งการดำเนินงานต่างๆ ล้วนแต่อยู่ภายใต้การคิดไตร่ตรองอย่างถี่ถ้วนในทุกกระบวนการ โดย "หญิงตอด" ได้รับเกียรติจาก มาดาม มาเปิดใจถึงการแก้ปัญหาที่ไวยิ่งกว่าความเร็วแสง เกิดจากการลงไปคลุกคลีกับแฟนบอลและได้ทีมงานมืออาชีพคอยเช็คกระแสตอบรับอยู่ตลอดเวลา ทำให้รู้จุดที่ต้องแก้ไขอย่างทันท่วงที
แม้จะต้องทำงานอยู่ภายใต้ความกดดันท่ามกลางเพศที่แข็งแรงกว่า แต่ มาดามแป้ง ยอมรับว่าผู้หญิงหรือผู้ชายล้วนมีศักยภาพหรือความสามารถเท่าเทียมกัน แต่ การที่เป็นผู้หญิงนี่แหละคือ "ข้อได้เปรียบ" เพราะเป็นเพศที่มีความละเอียดอ่อนลึกซึ้งในด้านความคิดมากกว่าผู้ชาย ซึ่งนายหญิงอาชาท่าเรือก็ได้นำจุดเด่นตรงนี้มาใช้ในชีวิตประจำวัน ในบทบาทและหน้าที่ต่างๆ ของตนเอง ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องการทำงาน ครอบครัว เพื่อนฝูง หรือแม้แต่การตัดสินใจทำอะไรสักอย่าง เพราะผู้หญิงจะคิดอย่างละเอียดรอบคอบและใจเย็นมากกว่าผู้ชาย
ไม่เว้นแม้แต่การใส่ใจในรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ อาทิ การเรียกช่างตัดผมเข้ามาปรับลุกแข้งการท่าเรือ, จัดคอนเสิร์ตตอบแทนน้ำใจแฟนบอลที่ให้การสนับสนุนทีม และเปิดรับไอเดียการออกแบบโลโก้สโมสรที่จะใช้ในฤดูกาลหน้า พร้อมเตรียมกลับมาใช้ชื่อ "สิงห์ท่าเรือ" ที่คุ้นเคยแทน "อาชาท่าเรือ" ที่ถูกเปลี่ยนในการเข้ามาบริหารงานของตนเอง จึงไม่แปลกที่ประธานสโมสรรายนี้จะคว้าใจแฟนบอลไปครอง
ต้องยอมรับว่าทันทีที่เจ้าของฉายา “สวยประหาร” ก้าวขึ้นมากุมเก้าอี้นายใหญ่ของสโมสรที่ขึ้นชื่อในเรื่องความฮาร์ดคอร์ ก็ดูเบาลงไปถนัดตา แม้จะเกิดเหตุการณ์รุนแรงขึ้น ในนัดที่ ชัยนาท ฮอร์นบิล เปิดรัง เขาพลอง สเตเดียม เฉือนชนะ การท่าเรือ เอฟซี 1-0 เมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม 2558 และมีผู้ไม่ประสงค์ดีปาก้อนหินใส่กองเชียร์ผู้มาเยือน จนหวิดเกิดการปะทะกันของทั้งสองทีม แต่ก็ได้นางฟ้าของวงการลูกหนังคนนี้เข้ามาห้ามเหตุการณ์ไม่ให้บานปลายได้สำเร็จ
ฉะนั้น คำว่า "ผู้หญิง คือ ช้างเท้าหลัง" คงจะไม่ถูกต้องอีกแล้ว เพราะมาดามแป้งเข้ามาฉีกทุกข้อจำกัดของเพศหญิงขาดสะบั้น รวมทั้งแสดงให้เห็นว่า สตรีเพศ สามารถทำงานเคียงบ่าเคียงไหล่และเป็นผู้นำที่ยอดเยี่ยม เผลอๆ อาจจะเป็นที่ยอมรับมากกว่าผู้ชายด้วยซ้ำไป ต้องมาจับตาดูกันต่อว่าผู้หญิงแกร่งคนนี้จะสร้างปรากฎการณ์อย่างไรให้กับวงการฟุตบอลไทยในอนาคตต่อไป