เอเยนซี - จอร์แดน สปีธ โปรมือ 1 ของโลกชาวอเมริกัน ขึ้นแท่นทำเงินสูงสุดของปี 2015 จากการประกาศของ “กอล์ฟ ไดเจสต์” โดยโกยไปทั้งสิ้น 53,030,465 เหรียญสหรัฐ (ประมาณ 1,856 ล้านบาท) พร้อมเขี่ย ไทเกอร์ วูดส์ ตำนานรุ่นพี่ตกไปอยู่อันดับ 3 รอบ 13 ปี
สปีธ เจ้าของ 2 แชมป์ระดับเมเจอร์ปี 2015 คือ “เดอะ มาสเตอร์ส” กับ “ยูเอส โอเพน” รวมแล้วทำไปทั้งสิ้น 5 แชมป์ พุ่งจากที่ 16 จากการจัดอันดับครั้งก่อนมาอยู่เบอร์ 1 แบ่งเป็นในสนามทำไป 23,030,465 เหรียญสหรัฐ (ประมาณ 806 ล้านบาท) นอกสนามทำไป 30,000,000 เหรียญสหรัฐ (ประมาณ 1 พันล้านบาท)
ที่ 2 และ 3 เป็นอเมริกันเช่นกันคือ ฟิล มิคเคลสัน รักษาตำแหน่งที่ 52,301,730 เหรียญสหรัฐ (ประมาณ 1,830 ล้าบาท) นอกสนามทำไปถึง 50,000,000 เหรียญสหรัฐ (ประมาณ 1,750 ล้านบาท) ปิดท้ายที่ วูดส์ ตกจากบัลลังก์คือ 48,551,098 เหรียญสหรัฐ (ประมาณ 1,699 ล้านบาท) นอกสนามทำไปถึง 48,000,000 เหรียญสหรัฐ (ประมาณ 1,680 ล้านบาท) โดยทั้งคู่นั้นกินบุญเก่าที่ยังคงมีสัญญาผูกมัดกับบรรดาสปอนเซอร์ เพราะในสนามนั้นห่างแชมป์มานานแล้ว
อันดับ 4 คือ รอรีย์ แม็คอิลรอย อดีตมือ 1 ของโลกจากไอร์แลนด์เหนือ แม้ว่าปี 2015 จะไม่ได้แชมป์เมเจอร์ติดมือแม้แต่รายการเดียว แต่ก็ซิวไป 2 แชมป์รวม “ดับเบิลยูจีซี-คาดิลแลค แมตช์ เพลย์” และมือ 1 ยุโรปสมัยที่ 3 อีกทั้งยังชนะ “เรซ ทู ดูไบ” จึงทำเงินไปทั้งสิ้น 46,968,190 เหรียญสหรัฐ (ประมาณ 1,643 ล้านบาท) ที่ 7 เจสัน เดย์ จากออสเตรเลีย 19,438,330 เหรียญสหรัฐ (ประมาณ 680 ล้านบาท)
วูดส์ นั้นอายุ 40 ปีไปเมื่อปลายปี 2015 ที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นฤดูกาลที่ครบ 20 ปีพอดิบพอดีหรือ 2 ทศวรรษที่โลดแล่นอยู่ในวงการนับตั้งแต่เทิร์นโปรเมื่อปี 1996 ตัวเลขรายรับ 48 ล้านเหรียญสหรัฐ นั้นไม่ได้ขี้เหร่เลยสำหรับผู้เล่นที่มีปัญหาอาการบาดเจ็บกำลังอยู่ระหว่างฟื้นฟูการผ่าตัดหลัง
ที่ผ่านมาตั้งแต่ปี 1997 จนถึงปี 2008 วูดส์ คว้าแชมป์มาแล้ว 14 เมเจอร์ ปีที่โกยเงินมากที่สุดในชีวิตคือ 122,702,706 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 4,294 ล้านบาท) ถ้านับรวม 20 ปีทำเงินเข้ากระเป๋ามาแล้วถึง 1,419,932,473 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 49,697 ล้านบาท) เรียกได้ว่าไม่มีอะไรต้องเสียใจกับการตกมาอยู่ที่ 3 ครั้งนี้
สปีธ นั้นเพิ่งคว้าแชมป์ พีจีเอ ทัวร์ รายการ “ฮุนได ทัวร์นาเมนต์ ออฟ แชมเปียนส์” ซึ่งถือเป็นใบที่ 7 ในชีวิตเทียบเท่า วูดส์ ในรุ่นอายุเดียวกันคือไม่เกิน 23 ปี กระนั้นก็ตามหวดหนุ่มจากเท็กซัสวัย 22 ปีพยายามบ่ายเบี่ยงมาโดยตลอดว่าไม่คิดแทนที่ตำนานและสิ่งที่ “พญาเสือ” ฝากไว้ให้วงการนั้นยิ่งใหญ่เกินใครจะคิดตามรอยเท้า
กระนั้นก็ตามผลงานของ สปีธ เป็นการบ่งบอกว่าถึงเวลาของนักกอล์ฟหนุ่มแล้วและเขาก็ควรที่จะเป็นทายาทรับมรดกตกทอดจาก วูดส์ การเปลี่ยนแปลงตำแหน่งหัวตารางอันดับทำเงินของ “กอล์ฟ ไดเจสต์” สะท้อนให้เห็นถึงการตลาดใหม่ที่จะเข้ามาแทน นอกจากนี้คือจะขยายขอบเขตมากเกินกว่า “บิ๊กโฟร์” เพราะมีมือดีๆ ขึ้นมามากไม่เหมือนสมัยก่อนที่ผูกขาดเพียงแค่ไม่กี่คน
แต่งานนี้ “ไนกี้” หรือ “อาดิดาส” อาจจะผิดหวังไม่น้อยเพราะ สปีธ นั้นเซ็นสัญญากับ “อันเดอร์ อาร์มอร์” นาน 10 ปีก่อนที่จะคว้าแชมป์เมเจอร์ แต่เรื่องเงินๆ ทองๆ ไม่เข้าใครออกใคร ดูอย่าง แม็คอิลรอย ที่ยอมเปลี่ยนมาใช้ “ไนกี้” แม้ว่าอุปกรณ์ใหม่จะทำให้ฟอร์มเป๋อยู่พักใหญ่ๆ ก็ตาม
ขณะที่ฝ่ายหญิงทำเงินมากที่สุดเป็น สเตซีย์ ลูอิส ของสหรัฐอเมริกา โกยไปทั้งสิ้น 5,893,423 เหรียญสหรัฐ (ประมาณ 206 ล้านบาท) อยู่ที่ 42 แน่นอนว่ามาจากนอกสนามเสียเป็นส่วนใหญ่ ส่วนมือ 1 ของโลกคือ ลิเดีย โค สาวน้อยชาวนิว ซีแลนด์ เชื้อสายเกาหลีอยู่ที่ 47 ทำไป 5,300,802 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 185 ล้านบาท) น่าเสียดายที่มาจากผลงานในสนามเท่านั้น นอกสนามยังไม่เด่นมากนัก