บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด กระหน่ำยิง เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด จากประตูของ อันเดรส ตูเนซ(จุดโทษ), โก ซึล กิ และจักรพันธ์ แก้วพรม ถล่มเอาชนะไป 3-1 คว้าแชมป์ ช้าง เอฟเอ คัพ 2015 มาครองได้สำเร็จ เป็นโทรฟีใบที่ 5 ของปีนี้ และเป็นแชมป์รายการนี้ครั้งที่ 4
ช้าง เอฟเอ คัพ 2015
บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด - เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด
บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด แชมป์ 3 สมัย (ปี 2011, 2012, 2013) ลงล่าแชมป์ใบที่ 5 ของฤดูกาล ในศึก "ช้าง เอฟเอ คัพ 2015" รอบชิงชนะเลิศ ปะทะคู่ปรับตลอดกาล เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ที่ลุ้นคว้าโทรฟีรายการนี้เป็นครั้งแรก ที่สนามศุภชลาศัย เมื่อวันเสาร์ที่ 26 ธันวาคม ที่ผ่านมา เวลา 18.30 น. โดยสถิติที่พบกันมา 18 นัด ทัพ "เซราะกราว" ข่มมิด ชนะ 9 เสมอ 9 ยังไม่เคยแพ้
เกมนี้ อเล็กซานเดร กามา เฮดโค้ชปราสาทสายฟ้า จัดทัพใหญ่ นำโดย ดิโอโก หลุยส์ ซานโต ดาวซัลโวประจำทีม ยิงไปแล้ว 45 ประตูรวมทุกรายการในปีนี้ ขณะที่ ดราแกน ทาลายิช กุนซือกิเลนผยอง ส่ง "เจ้ามุ้ย" ธีรศิลป์ แดงดา รับบทกัปตันทีม ล่าตาข่ายคู่กับ เคลย์ตัน ซิลวา ที่ยิงในรายการนี้ไปแล้ว 6 ประตู ผสมด้วยดาวรุ่งอย่าง เสกสิทธิ์ ศรีใส และ กษิดิ์เดช เวทยาวงศ์
เปิดฉากมาไม่พ้นนาที ดิโอโก ทักทายด้วยลูกโขก แต่โดน กวิน ปัดทิ้งไปได้ จากนั้นรูปเกมยังคงเป็น บุรีรัมย์ ที่ครองบอลมากกว่า น.18 สุเชาว์ ยิงไกลถากเสา ต่อด้วย น.26 "อุ้ม" ธีราทร ได้ยิงเน้นๆในกรอบด้านซ้าย แต่ "เจ้าตอง" ยังป้องกันได้ยอดเยี่ยม ส่วน เอสซีจี เมืองทองฯ ได้ลุ้นจาก เคลย์ตัน แต่ไม่ดีพอ
พ้นครึ่งชั่วโมงแรก "ปราสาทสายฟ้า" ยังคงพับสนามบุกต่อเนื่อง น.32 อนาวิน กดเต็มเท้าทางฝั่งซ้าย แต่โดนนายด่านมือ 1 ทีมชาติไทย ปัดทิ้ง กระทั่ง น.43 ปิยพล ผานิชกุล ไปเตะขา ดิโอโก ในเขตโทษ ทำให้ โทมะ มาซากิ เชิ้ตดำชาวญี่ปุ่น เป่าฟาวล์ทันที และเป็น อันเดรส ตูเนซ ปราการหลังชาวเวเนซุเอลา ที่สังหารอย่างเยือกเย็นเสียบเสาซ้ายมือตัวเองเข้าไป 1-0 พร้อมจบครึ่งแรกด้วยสกอร์นี้
สู้กันต่อครึ่งหลัง แชมป์ไทย พรีเมียร์ ลีก ปีล่าสุด ยังเดินเกมรุกต่อเนื่อง น.51 ธีราทร เปิดมุมเข้าหัว ดิโอโก โขกลงพื้นแต่โดนเคลียร์ได้จากเส้น แต่อึดใจถัดมา ความพยายามของ บุรีรัมย์ ก็สำเร็จอีกครั้งเมื่อ ดิโอโก โยนบอลเข้าหัว โก ซึล กิ โหม่งเน้นๆตุงตาข่าย 2-0 หลังเสียประตู น.64 เอสซีจี เมืองทองฯ ส่ง ชนานันท์ ป้อมบุปผา ลงแทน เสกสิทธิ์
ความร้อนแรงของ "ปราสาทสายฟ้า" ยังไม่หยุด น.71 "เจ้าโน้ต" จักรพันธ์ แก้วพรม บรรจงปั่นนอกกรอบเกือบ 30 หลา บอลโค้งเสียบเสาเข้าไปอย่างสวยงาม 3-0 ก่อนจะส่ง นฤบดินทร์ วีรวัฒโนดม ลงแทน อนาวิน
เกมดำเนินมาถึง น.79 เอสซีจี เมืองทองฯ น่าได้ประตูตีไข่แตกจากจังหวะชุลมุนและรัวยิง 3-4 ครั้ง แต่ก็พลาดไป โดยเฉพาะหนสุดท้ายจาก ปิยพล ที่แปเน้นๆ บอลไปติด ธีราทร ที่ยืนคุมเส้นอยู่ กระทั่ง น.81 "กิเลนผยอง" มาได้ประตูตีไข่แตกสำเร็จจากลูกยิงฝั่งซ้ายของ มาริโอ ยูรอฟสกี 1-3 ช่วงเวลาที่เหลือทำอะไรกันเพิ่มไม่ได้ จบเกม บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ชนะ 3-1 คว้าแชมป์ได้สำเร็จ และนับเป็นโทรฟีใบที่ 5 ในปีนี้
สำหรับแชมป์รับเงินรางวัล 5 ล้านบาท ส่วนรองแชมป์ได้ 1 ล้านบาท ขณะที่ดาวซัลโว คือ เคลย์ตัน ซิลวา ได้ 1 แสนบาท และนักเตะยอดเยี่ยมได้ คือ โก ซึล กิ ได้รถจักรยานยนตร์ รุ่น CTX
รายชื่อ 11 คนแรก
บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด : ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน(ผู้รักษาประตู), ธีราทร บุญมาทัน, อันเดรส ตูเนซ, กรวิทย์ นามวิเศษ, สุรีย์ สุขะ, อนาวิน จูจีน, โก ซึล กิ, จักรพันธ์ แก้วพรม, สุเชาว์ นุชนุ่ม(กัปตันทีม), กิลแบร์โต มาเชนา, ดิโอโก หลุยส์ ซานโต
เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด : กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์, ปิยพล ผานิชกุล, นาโอกิ อาโอยามะ, คิม ดอง จิน, อาทิตย์ ดาวสว่าง, เสกสิทธิ์ ศรีใส, กษิดิ์เดช เวทยาวงศ์, ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์, มาริโอ ยูรอฟสกี, เคลย์ตัน ซิลวา, ธีรศิลป์ แดงดา(กัปตันทีม)