นิวยอร์ก เจ็ตส์ ดับความหวังเข้ารอบเพลย์เพลย์ออฟของ ดัลลัส คาวบอยส์ เอาชนะไป 19-16 ศึก อเมริกันฟุตบอล เอ็นเอฟแอล (NFL) ที่สนาม เอที แอนด์ ที สเตเดียม เมื่อวันอาทิตย์ที่ 20 ธันวาคม ตามวัน-เวลาประเทศไทย
ที่ดัลลัส : เจ็ตส์ สร้างความกดดันแก่ พิตต์สเบิร์ก สตีลเลอร์ส (8-5) กับ แคนซัส ซิตี ชีฟส์ (8-5) เพื่อชิงโควตา ไวล์ด การ์ด ขยับผลงานเป็น ชนะ 9 แพ้ 5 หลัง แรนดี บุลล็อค ตะบันฟิลด์โกลระยะ 40 หลา ก่อนหมดเวลา 36 วินาที เก็บชัย 4 เกมรวด ครั้งแรก นับตั้งแต่ปี 2010
คาวบอยส์ ใช้บริการควอเตอร์แบ็กคนที่ 4 ของฤดูกาล 2015 เปลี่ยน เคลเลน มัวร์ แทน แม็ตต์ แคสเซล ที่ไร้ประสิทธิภาพ จุดประกายความหวังขึ้น แต่ก็ไม่เพียงพอป้องกันแชมป์ดิวิชัน เอ็นเอฟซี (NFC) ตะวันออก เนื่องจากสถิติหล่นเหลือ 4-10 โดยเหลืออีก 2 สัปดาห์สุดท้าย
เอริค เด็คเกอร์ ปีกนอกรูปหล่อ นิวยอร์ก รับทัชดาวน์ระยะ 3 หลา สร้างสถิติแฟรนไชส์ร่วมกับ แบรนดอน มาร์แชลล์ คู่หู ปิดสกอร์รวมกัน 21 ครั้ง แซงหน้า อาร์ต โพเวลล์ กับ ดอน เมย์นาร์ด (1960) และ อัล ทูน กับ เวสลีย์ วอล์คเกอร์ (1986) ที่ทำไว้ 20 ครั้ง ขึ้นนำ 16-13 ก่อน แดน เบลีย์ เตะฟิลด์โกล 50 หลา ตีเสมอช่วง 1;55 นาทีสุดท้าย
ไรอัน ฟิตซ์แพทริค ควอเตอร์แบ็ก บอมบ์ยาวให้ เคนเบรลล์ ธอมป์กินส์ ปีกนอก ทำระยะ 43 หลา แล้วออกนอกสนาม ตรงเส้น 26 หลา แดน คาวบอยส์ พาทีมบุก เจ็ตส์ เข้าสู่ระยะเตะฟิลด์โกล จากนั้นโอกาสต่อลมหายใจของ "อเมริกา ทีม" สิ้นสุดลง เนื่องจาก มัวร์ เสียอินเทอร์เซ็ปต์ที่ 3 ของเกม แก่ มาร์คัส วิลเลียมส์ คอร์เนอร์แบ็ก
มัวร์ ลงเล่นเกมแรกระดับอาชีพ ขว้างคอมพลีต 15 จาก 25 ครั้ง ระยะ 158 หลา 1 ทัชดาวน์ ให้ เดซ ไบรอันท์ ปีกนอกหมายเลข 1 เป็นสกอร์ขึ้นนำ 10-3 ท้ายควอเตอร์ที่ 2 ขณะที่ ฟิตซ์แพทริค ปาบอลเข้าเป้า 26 จาก 39 ครั้ง ระยะ 299 หลา 1 ทัชดาวน์ เสีย 1 อินเทอร์เซ็ปต์
* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย
ที่ดัลลัส : เจ็ตส์ สร้างความกดดันแก่ พิตต์สเบิร์ก สตีลเลอร์ส (8-5) กับ แคนซัส ซิตี ชีฟส์ (8-5) เพื่อชิงโควตา ไวล์ด การ์ด ขยับผลงานเป็น ชนะ 9 แพ้ 5 หลัง แรนดี บุลล็อค ตะบันฟิลด์โกลระยะ 40 หลา ก่อนหมดเวลา 36 วินาที เก็บชัย 4 เกมรวด ครั้งแรก นับตั้งแต่ปี 2010
คาวบอยส์ ใช้บริการควอเตอร์แบ็กคนที่ 4 ของฤดูกาล 2015 เปลี่ยน เคลเลน มัวร์ แทน แม็ตต์ แคสเซล ที่ไร้ประสิทธิภาพ จุดประกายความหวังขึ้น แต่ก็ไม่เพียงพอป้องกันแชมป์ดิวิชัน เอ็นเอฟซี (NFC) ตะวันออก เนื่องจากสถิติหล่นเหลือ 4-10 โดยเหลืออีก 2 สัปดาห์สุดท้าย
เอริค เด็คเกอร์ ปีกนอกรูปหล่อ นิวยอร์ก รับทัชดาวน์ระยะ 3 หลา สร้างสถิติแฟรนไชส์ร่วมกับ แบรนดอน มาร์แชลล์ คู่หู ปิดสกอร์รวมกัน 21 ครั้ง แซงหน้า อาร์ต โพเวลล์ กับ ดอน เมย์นาร์ด (1960) และ อัล ทูน กับ เวสลีย์ วอล์คเกอร์ (1986) ที่ทำไว้ 20 ครั้ง ขึ้นนำ 16-13 ก่อน แดน เบลีย์ เตะฟิลด์โกล 50 หลา ตีเสมอช่วง 1;55 นาทีสุดท้าย
ไรอัน ฟิตซ์แพทริค ควอเตอร์แบ็ก บอมบ์ยาวให้ เคนเบรลล์ ธอมป์กินส์ ปีกนอก ทำระยะ 43 หลา แล้วออกนอกสนาม ตรงเส้น 26 หลา แดน คาวบอยส์ พาทีมบุก เจ็ตส์ เข้าสู่ระยะเตะฟิลด์โกล จากนั้นโอกาสต่อลมหายใจของ "อเมริกา ทีม" สิ้นสุดลง เนื่องจาก มัวร์ เสียอินเทอร์เซ็ปต์ที่ 3 ของเกม แก่ มาร์คัส วิลเลียมส์ คอร์เนอร์แบ็ก
มัวร์ ลงเล่นเกมแรกระดับอาชีพ ขว้างคอมพลีต 15 จาก 25 ครั้ง ระยะ 158 หลา 1 ทัชดาวน์ ให้ เดซ ไบรอันท์ ปีกนอกหมายเลข 1 เป็นสกอร์ขึ้นนำ 10-3 ท้ายควอเตอร์ที่ 2 ขณะที่ ฟิตซ์แพทริค ปาบอลเข้าเป้า 26 จาก 39 ครั้ง ระยะ 299 หลา 1 ทัชดาวน์ เสีย 1 อินเทอร์เซ็ปต์
* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย