พอล สโคลส์ อดีตกองกลางระดับมันสมองของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เผยไม่แปลกใจที่ต้นสังกัดเก่าตกรอบแบ่งกลุ่ม ยูฟา แชมเปียนส ลีก เมื่อคืนวันที่ 8 ธันวาคม ที่ผ่านมา
นัดสุดท้าย กลุ่ม บี แมนฯยู บุกไปยังถิ่น โฟล์กสวาเกน อารีนา พ่ายแก่ โวล์ฟสบวร์ก 2-3 ทำให้มีแค่ 8 แต้ม ขณะที่ พีเอสวี ไอนด์โฮเฟน เปิดบ้านชนะ ซีเอสเคเอ มอสโก 2-1 เข้ารอบเป็นอันดับ 2 มี 10 แต้มตามหลัง “หมาป่าเมืองเบียร์” ที่ 1 ของสายที่มี 12 แต้ม
หลังเกม พอล สโคลส์ ที่สวมบทคอมเมนเตเตอร์ให้ BT Sport เผยเป็นไปตามคาดที่ แมนฯยู ตกรอบ เพราะเล่นได้แย่ไม่คุ้มกับที่เสริมทัพ 250 ล้านปอนด์ (ประมาณ 13,750 ล้านบาท)
“สำหรับผมไม่รู้สึกว่าเป็นหายนะ เพราะตนไม่แปลกใจเลย แมนฯยู เล่นแย่เกือบทุกเกมใน แชมเปียนส์ ลีก ส่วน โวล์ฟสบวร์ก กับ พีเอสวี ไอนด์โฮเฟน มีศักยภาพที่จะถึงรอบ 8 ทีมหรือไม่ ตนไม่คิดเช่นนั้น” อดีตจอมทัพทีมชาติอังกฤษ เผย
แมตช์นี้ หลุยส์ ฟาน กัล กุนซือ แมนฯยู ส่ง 2 ดาวรุ่งอย่าง นิค พาวล์ (กองกลาง) กับ คาเมรอน โบร์ธวิค-แจ๊คสัน (กองหลัง) ลงมาสำรอง ซึ่ง สโคลส์ มองว่าพลาดที่ไว้ใจดาวรุ่ง
สโคลส์ ทิ้งท้ายว่า “การเสริมทัพใช่ว่าจะประสบความสำเร็จ ปัญหาคือฝากความหวังกับ อองโตนีย์ มาร์กซิอาล กองหน้าวัย 20 ปี นั้น ไม่ถูกเลย แม้เป็นแข้งที่มีทักษะแต่ยังขาดสัญชาตญาณโอกาสน่าจะเป็นปีถัดไปมากกว่า”