พงศภัศ ทิ้งนุ้ย ผู้จัดการทีมสตูล ยูไนเต็ด แฉ ครินทร์ สร้อยสังวาลย์ ไลน์แมนเกมปัญหา เป็นคนขอพูดเองว่า "มีคำสั่งจากผู้ใหญ่ให้ช่วยทีม ขอนแก่น ยูไนเต็ด" โดยไม่มีใครขู่บังคับตามที่เจ้าตัวพลิกลิ้น พร้อมคาใจมีอดีตผู้ตัดสินชื่อดังดีกรีฟีฟาและการ์ดอีก 7 คน เดินทางมาที่สนามพร้อมทีมเชิ้ตดำ
สืบเนื่องจากที่ กองเชียร์ สตูล ยูไนเต็ด รวมตัวไล่ทำร้ายคณะผู้ตัดสินหลังจบเกมที่พ่ายคาบ้านต่อ ขอนแก่น ยูไนเต็ด 0-1 ในศึกเอไอเอส ลีก ภูมิภาค(ดิวิชั่น 2) รอบแชมเปียนส์ ลีก กลุ่ม เอ เมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา ณ สนาม อบจ.สตูล ซึ่งภายหลัง ครินทร์ สร้อยสังวาลย์ ไลน์แมนเกมดังกล่าวที่สารภาพว่า มีคำสั่งจากผู้ใหญ่ให้ช่วยทีม "จงอางผยอง" คว้าชัยชนะ ได้พลิกลิ้นว่า จังหวะดังกล่าวตนโดนบังคับจึงกลัวตายทำให้พูดไปแบบนั้น
ล่าสุดเมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา พงศภัศ ทิ้งนุ้ย ผู้จัดการทีมสตูล ยูไนเต็ด ได้ยืนยันว่า ครินทร์ เป็นฝ่ายขอพูดประโยคดังกล่าวด้วยตนเอง "ผมเป็นคนที่เข้าไปห้ามแฟนบอลไม่ให้ทำร้ายเขา ยืนอยู่ติดกับเขาตลอด และเขาเป็นคนบอกเองว่าขอพูดอะไรบางอย่าง ซึ่งผมก็ให้พูดและบอกว่าให้เขาพูดความจริง เพื่อจรรยาบรรณของผู้ตัดสิน ไม่มีใครไปบังคับให้เขาพูดทั้งสิ้น"
พร้อมกันนี้ "บังฝาด" กล่าวต่อถึงการทำหน้าที่ของผู้ตัดสินเกมดังกล่าวว่า "ผมยืนยันว่าเราไม่ได้มีอะไรขัดแย้งกับขอนแก่นฯ แต่เราไม่พอใจการทำหน้าที่ของผู้ตัดสิน เพราะมองว่าทำหน้าที่ผิดพลาดเป็นอย่างมาก จังหวะที่ผู้เล่นเราโดนใบเหลืองที่ 2 ไล่ออกจากสนามเพราะเล่นฟรีคิกเร็วนั้นไม่สมควรที่จะโดน เพราะผู้เล่นของเราไม่มีใครขอกำแพง และที่สำคัญผู้ตัดสินก็เดินถอยออกมา ไม่ได้เดินไปคุมกำแพงเหมือนที่ผู้ตัดสินมาตรฐานทั่วไปทำ ส่วนอีกใบแดงที่ได้รับนั้นผมมองว่ามันหนักเกินไป นักบอลไม่ได้เตะสูงเหมือนที่โดนกล่าวหา ขณะที่จังหวะต้นเกมที่ผู้เล่นเราโดนดึงในเขตโทษแต่ไม่ได้ฟาวล์นั้นยืนยันว่าหากไม่มีการดึงเขาจะเข้าถึงบอลแน่นอน"
นอกจากนี้ ผู้จัดการทีมสตูล ทิ้งท้ายว่า "ในเกมนั้นมีอดีตผู้ตัดสินฟีฟาชื่อดังบินมาและบินกลับพร้อมทีมงานผู้ตัดสินชุดนี้ด้วย ผมจึงอยากรู้ว่าเขามาทำไม และยังมีชายฉกรรจ์อีก 7 คนที่มายืนรอบริเวณสนาม ซึ่งผมเข้าไปสอบถามได้ความว่าเป็นการ์ดมาดูแลผู้ตัดสิน ผมจึงสงสัยว่าทำไมต้องมีการ์ดมาคุ้มกันด้วย"
ขณะที่ สัมฤทธิ์ เลียงประสิทธิ ประธานสโมสรฯ น้อมรับบทลงโทษ "ผมขอชี้แจงที่โดนกล่าวหาว่าทีมมีการล็อกห้องผู้ตัดสินหลังจบเกมนั้นไม่เป็นความจริง เราช่วยนำของส่วนตัวจากห้องพักไปเก็บไว้ในรถผู้ควบคุมการแข่งขันด้วยซ้ำ เนื่องจากมีแฟนบอลรุมล้อมอยู่จนผู้ตัดสินเข้าห้องพักไม่ได้ ส่วนการรักษาความปลอดภัยนั้นเราเตรียมทหาร การ์ด และ อปพร. รวมแล้ว 65 คน แต่แฟนบอลที่ไม่พอใจการทำหน้าที่ของผู้ตัดสินก็ยังสามารถพังประตูเข้ามาในสนามได้"
"เรื่องที่แฟนบอลของเรารุมทำร้ายในครั้งนี้ผมต้องขอโทษและขอน้อมรับผิด ผมจะยอมรับโทษที่ออกมา ซึ่งส่วนตัวเชื่อว่าอาจจะมีการแบนห้ามเล่นในสนามเหย้าและปรับเงิน คงไม่ถึงกับถูกแบนห้ามแข่งขันในอีก 3 เกมที่เหลือ เนื่องจากจะส่งผลกระทบต่อทุกทีมในกลุ่ม" ประธานทีมสตูลฯกล่าว
* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!***