พศิน ลาทูรัส ยอดนักขับไทยวัย 21 ปีเตรียมลงทำการแข่งขันเพื่อปิดฤดูกาล 2015 ให้กับตนเองภายใต้ศึกมอเตอร์สปอร์ต สุดยิ่งใหญ่อย่างเอฟไอเอจีทีเวิลด์คัพในรายการมาเก๊ากรังด์ปรีซ์ศึกดวลความเร็วระดับตำนานของโลกซึ่งจะมีขึ้นในสุดสัปดาห์นี้
การแข่งขันเอฟไอเอจีทีเวิลด์คัพ 2015 ถือเป็นไฮไลต์สำคัญของมาเก๊ากรังด์ปรีซ์ซึ่งจะมีขึ้นในสุดสัปดาห์นี้โดยนับเป็นรายการใหม่เอี่ยมเพื่อปิดฤดูกาลการแข่งขันในปีนี้ด้วยการดึงนักขับจีที3 ระดับชั้นนำของโลกรวมถึงบรรดาทีมโรงงานมาแข่งขันชิงแชมป์โลกในสไตล์ของ “เวิลด์คัพ”
แน่นอนจีทีเวิลด์คัพจะสร้างความแข็งแกร่งและได้รับความนิยมไม่แพ้รายการก่อนหน้านี้อย่าง “มาเก๊าจีทีเวิลด์คัพ” และนับเป็นครั้งแรกมีบรรจุรายชื่อนักขับและทีมแข่งระดับเวิลด์คลาสเข้ามาสู่การแข่งขันด้วยทีมโรงงานถึง 6 ค่ายขณะที่พศินนักขับไทยจะเข้าร่วมชิงชัยภายใต้ทีมไพรเวทจากการจัดอันดับนักขับที่ผลงานโดดเด่นของเอเอฟคอร์เซภายใต้รถแข่งเฟอร์รารี่ 458 จีที3 ซึ่งแข่งขันกันในยุโรปและอเมริกาเหนือ
“เกียเซอร์กิต” นับเป็นสตรีทเซอร์กิตที่ขึ้นชื่อเรื่องความโหดที่สุดแห่งหนึ่งของโลกผสมผสานระหว่างทางตรงที่มีความเร็วสูงโค้งอันตรายและคดเคี้ยวซึ่งทำให้ยากต่อการขับของนักแข่งและการเซ็ตอัพของทีมงานโดยมีระยะทางต่อรอบ 6.2 กิโลเมตรจุดที่แคบที่สุดคือเมลโกแฮร์พิน (โค้งหักศอก) ที่มีความกว้างเพียง7 เมตรเท่านั้นแทร็กแห่งนี้มี 19 โค้งและรูปแบบของสนามแทบไม่ได้เปลี่ยนไปจากครั้งแรกของมาเก๊ากรังด์ปรีซ์เมื่อปี 1954
พศินที่ได้รับการสนับสนุนจากนารายา, นารา, ลาลามา, การกีฬาแห่งประเทศไทยและการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยลงแข่งขันในสรีทเซอร์กิตแห่งนี้เมื่อครั้งเป็นนักขับเยาวชนในรถแข่งล้อเปิดขณะเดียวกันก็เคยดวลความเร็วที่มาเก๊าด้วยรถสปอร์ตมาแล้วในปีที่ผ่านมาด้วยรถแข่งเฟอร์รารี่ 458 จีที3 ในสังกัดเอเอฟคอร์เซ
นักขับไทยวัย 21 ปีโยกไปแข่งขันในทวีปยุโรปนับตั้งแต่ 2 ปีที่ผ่านมาเพื่อยกระดับอาชีพนักขับของตนเองในฝั่งจีทีให้สูงขึ้นเรื่อยๆโดยมาเก๊ากรังด์ปรีซนับเป็นเพียงการแข่งขันรายการเดียวเท่านั้นที่อยู่ในเอเชียซึ่งตอนนี้มีการเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องขณะที่พศินพยายามมองไปถึงการแข่งขันที่มากขึ้นในภูมิภาคนี้เพราะเปรียบเสมือน “โฮมเรซ” ก็ว่าได้
การแข่งขันครั้งนี้ถือเป็นหนึ่งในเกมมอเตอร์สปอร์ตที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกและนับเป็นครั้งที่ 62 ของมาเก๊ากรังด์ปรีซ์โดยนับเป็นหนึ่งในแทร็กที่พศินชื่นชอบนับตั้งแต่ลงขับครั้งแรกซึ่งเป้าหมายของนักขับไทยคือการขับให้จบการแข่งขันโดยปราศจากการชนและทำผลงานให้ดีที่สุดเท่าที่ทำได้
* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *