คอลัมน์ “สกอร์บอร์ด” โดย “แมวดำ”
ห้วงเวลาที่ผ่านมาในฟุตบอล ไทยพรีเมียร์ลีก มีประเด็นต้องสงสัยถึงการทำหน้าที่ของผู้ตัดสินมากมายในฤดูกาลนี้ หลายสโมสรอดรนทนไม่ได้ต้องออกมาร้อง การกีฬาแห่งประเทศไทย ให้ตรวจสอบการทำหน้าที่ของประธานคณะกรรมการผู้ตัดสิน ขณะที่ผู้ตัดสินหลายรายที่คิดว่าตนถูกลงโทษแบนอย่างไม่ยุติธรรมต่างก็ออกมารวมกลุ่มแสดงความคิดเห็นผ่านโลกออนไลน์ สุดท้ายก็ไปจบด้วยการร้องต่อหน่วยงานอย่าง กกท.อีกเช่นเดิม
จะว่าไปเรื่องการทำหน้าที่ของผู้ตัดสินในวงการลูกหนังไทย ไม่ใช่ว่าเพิ่งเกิดปัญหา แต่มีมานานเพียงแต่ว่าเมื่อก่อนมันยังไม่บ่อยครั้งจนแทบจะเกิดขึ้นรายสัปดาห์เหมือนปัจจุบัน เดี๋ยวนี้เกมไหนเกมนั้น หากได้เชิ้ตดำบางคนลงทำหน้าที่ ฟันธงได้เลยว่ามีเรื่องให้ต้องปวดเศียรกันทั้งเจ้าบ้านและทีมเยือน พอร้องแรกแหกกระเชอไปก็เหมือนคลื่นกระทบฝั่ง ตูมแล้วหาย ตูมแล้วหาย บางนัดกระแสสังคมรุนแรงมาก แต่ก็ยังเปลี่ยนอะไรไม่ได้ สอบถามผู้ตัดสินหลายท่าน พบว่าปัญหานี้ไม่ใช่ปัญหาโลกแตก แก้ได้ แต่ไม่ยอมแก้กันเอง มีการยกตัวอย่างการคัดเลือกผู้ตัดสินรุ่นล่าสุดที่ผ่านมา ไม่รู้ว่าผ่านกันมาได้อย่างไร ตอนทดสอบสมรรถภาพ หลายอย่างดูงุนงงน่าสงสัย
แถมยังมีการแอบกระซิบกันว่ามีพวกกรรมการคัดเลือกนอกแถวบางรายมีการเรียกเก็บค่าหัวคิวกินเปล่า จากผู้ที่อยากเป็นผู้ตัดสินกันด้วยซ้ำ จริงไม่จริงไม่รู้ แต่พอใครพูดขึ้นมาก็หาเป็นพวกบ่อนทำลายผู้ตัดสิน แทนที่จะลงไปตรวจสอบว่าการทดสอบดังกล่าวเป็นไปตามมาตรฐานหรือไม่ กลับไปโยนว่าเป็นพวกเชิ้ตดำที่โดนแบนริษยาผู้ตัดสินน้องใหม่เสียอย่างนั้น มันดูมืดมนไปเสียทุกทาง ไม่เชื่อลองไปดูแต่ละสนามยามแข่งขัน มีแต่คนดูตะโกนแจกของลับให้ผู้ตัดสินเพราะยอมรับการตัดสินไม่ได้จริงๆ
หนทางก็ใช่ว่าอับจนเสียทีเดียว พอมีแสงดาวตกจากฟากฟ้าอยู่บ้าง เมื่อเว็บฟีฟา ดันมีการใส่ชื่อของ "เปาอั๋น" ภิรมย์ อั๋นประเสริฐ มาเป็นประธานผู้ตัดสินของสมาคมฟุตบอลไทย ให้ได้เป็นข่าวครึกโครมทำเอาคนรักฟุตบอลเนื้อเต้นไปตามๆ กัน เนื่องจากดีกรี "จารย์อั๋น" ถือว่าอยู่ระดับ "เมพขิงๆ" ผ่านการทำหน้าที่ในฟุตบอลโลก 1998 รอบสุดท้ายที่ฝรั่งเศส เป่าดีในรอบแรกจนได้สิทธิ์เข้าไปทำหน้าที่ในรอบน็อกเอาท์ แถมยังมีเอกลักษณ์แจกใบเหลืองด้วยรอยยิ้มพิมพ์ใจโด่งดังไปทั่วโลก
พอเห็นแบบนั้นจึงไม่รอช้าต่อสายถึง "เปาอั๋น" ในทันใด สอบถามข้อเท็จจริง เชิ้ตดำระดับตำนานเผยว่า เรื่องนี้ไม่ทราบใครเสนอชื่อของตนไป แต่ระดับเว็บฟีฟา เขาไม่มั่วลงผิดหรอก ตอนนี้ผมพร้อมเสมอทั้งร่างกายและจิตใจ รวมถึงมีทีมงานครบครัน รอก็แต่ว่าเมื่อไร "เสธ.โต" พล.ร.อ.สุรวุฒิ มหารมย์ จะเรียกตัวเสียที
เห็นสบช่องเลยถามต่อไปอีกว่าหากรับงานแล้วสิ่งแรกที่ต้องทำเป็นเรื่องใด คุณครูใหญ่แห่งวงการผู้ตัดสิน ตอบทันทีว่าผมจะต้องเรียกประชุมผู้ตัดสินทั้งหมด เพื่อมอบนโยบาย ยุติธรรมต่อทุกทีม เนื่องจากอยู่ในช่วงปลายฤดูกาล การทำหน้าที่ทุกนัดมีผลอาจชี้ชะตาทีมเลื่อนชั้นตกชั้น หรือลุ้นแชมป์ได้เลย
แต่พอถามว่าแล้วผลงานผู้บริหารชุดนี้เป็นอย่างไร แกสวนมาทันทีเหมือนกันว่า "ก็เห็นกันอยู่ว่าเป็นอย่างไร อย่าถามเลย เสือเขาไม่กินเนื้อเสือด้วยกันเอง ขอทำงานเต็มที่ รับรองศักดิ์ศรีผู้ตัดสินจะไม่เป็นเหมือนเดิม"
ห้วงเวลาที่ผ่านมาในฟุตบอล ไทยพรีเมียร์ลีก มีประเด็นต้องสงสัยถึงการทำหน้าที่ของผู้ตัดสินมากมายในฤดูกาลนี้ หลายสโมสรอดรนทนไม่ได้ต้องออกมาร้อง การกีฬาแห่งประเทศไทย ให้ตรวจสอบการทำหน้าที่ของประธานคณะกรรมการผู้ตัดสิน ขณะที่ผู้ตัดสินหลายรายที่คิดว่าตนถูกลงโทษแบนอย่างไม่ยุติธรรมต่างก็ออกมารวมกลุ่มแสดงความคิดเห็นผ่านโลกออนไลน์ สุดท้ายก็ไปจบด้วยการร้องต่อหน่วยงานอย่าง กกท.อีกเช่นเดิม
จะว่าไปเรื่องการทำหน้าที่ของผู้ตัดสินในวงการลูกหนังไทย ไม่ใช่ว่าเพิ่งเกิดปัญหา แต่มีมานานเพียงแต่ว่าเมื่อก่อนมันยังไม่บ่อยครั้งจนแทบจะเกิดขึ้นรายสัปดาห์เหมือนปัจจุบัน เดี๋ยวนี้เกมไหนเกมนั้น หากได้เชิ้ตดำบางคนลงทำหน้าที่ ฟันธงได้เลยว่ามีเรื่องให้ต้องปวดเศียรกันทั้งเจ้าบ้านและทีมเยือน พอร้องแรกแหกกระเชอไปก็เหมือนคลื่นกระทบฝั่ง ตูมแล้วหาย ตูมแล้วหาย บางนัดกระแสสังคมรุนแรงมาก แต่ก็ยังเปลี่ยนอะไรไม่ได้ สอบถามผู้ตัดสินหลายท่าน พบว่าปัญหานี้ไม่ใช่ปัญหาโลกแตก แก้ได้ แต่ไม่ยอมแก้กันเอง มีการยกตัวอย่างการคัดเลือกผู้ตัดสินรุ่นล่าสุดที่ผ่านมา ไม่รู้ว่าผ่านกันมาได้อย่างไร ตอนทดสอบสมรรถภาพ หลายอย่างดูงุนงงน่าสงสัย
แถมยังมีการแอบกระซิบกันว่ามีพวกกรรมการคัดเลือกนอกแถวบางรายมีการเรียกเก็บค่าหัวคิวกินเปล่า จากผู้ที่อยากเป็นผู้ตัดสินกันด้วยซ้ำ จริงไม่จริงไม่รู้ แต่พอใครพูดขึ้นมาก็หาเป็นพวกบ่อนทำลายผู้ตัดสิน แทนที่จะลงไปตรวจสอบว่าการทดสอบดังกล่าวเป็นไปตามมาตรฐานหรือไม่ กลับไปโยนว่าเป็นพวกเชิ้ตดำที่โดนแบนริษยาผู้ตัดสินน้องใหม่เสียอย่างนั้น มันดูมืดมนไปเสียทุกทาง ไม่เชื่อลองไปดูแต่ละสนามยามแข่งขัน มีแต่คนดูตะโกนแจกของลับให้ผู้ตัดสินเพราะยอมรับการตัดสินไม่ได้จริงๆ
หนทางก็ใช่ว่าอับจนเสียทีเดียว พอมีแสงดาวตกจากฟากฟ้าอยู่บ้าง เมื่อเว็บฟีฟา ดันมีการใส่ชื่อของ "เปาอั๋น" ภิรมย์ อั๋นประเสริฐ มาเป็นประธานผู้ตัดสินของสมาคมฟุตบอลไทย ให้ได้เป็นข่าวครึกโครมทำเอาคนรักฟุตบอลเนื้อเต้นไปตามๆ กัน เนื่องจากดีกรี "จารย์อั๋น" ถือว่าอยู่ระดับ "เมพขิงๆ" ผ่านการทำหน้าที่ในฟุตบอลโลก 1998 รอบสุดท้ายที่ฝรั่งเศส เป่าดีในรอบแรกจนได้สิทธิ์เข้าไปทำหน้าที่ในรอบน็อกเอาท์ แถมยังมีเอกลักษณ์แจกใบเหลืองด้วยรอยยิ้มพิมพ์ใจโด่งดังไปทั่วโลก
พอเห็นแบบนั้นจึงไม่รอช้าต่อสายถึง "เปาอั๋น" ในทันใด สอบถามข้อเท็จจริง เชิ้ตดำระดับตำนานเผยว่า เรื่องนี้ไม่ทราบใครเสนอชื่อของตนไป แต่ระดับเว็บฟีฟา เขาไม่มั่วลงผิดหรอก ตอนนี้ผมพร้อมเสมอทั้งร่างกายและจิตใจ รวมถึงมีทีมงานครบครัน รอก็แต่ว่าเมื่อไร "เสธ.โต" พล.ร.อ.สุรวุฒิ มหารมย์ จะเรียกตัวเสียที
เห็นสบช่องเลยถามต่อไปอีกว่าหากรับงานแล้วสิ่งแรกที่ต้องทำเป็นเรื่องใด คุณครูใหญ่แห่งวงการผู้ตัดสิน ตอบทันทีว่าผมจะต้องเรียกประชุมผู้ตัดสินทั้งหมด เพื่อมอบนโยบาย ยุติธรรมต่อทุกทีม เนื่องจากอยู่ในช่วงปลายฤดูกาล การทำหน้าที่ทุกนัดมีผลอาจชี้ชะตาทีมเลื่อนชั้นตกชั้น หรือลุ้นแชมป์ได้เลย
แต่พอถามว่าแล้วผลงานผู้บริหารชุดนี้เป็นอย่างไร แกสวนมาทันทีเหมือนกันว่า "ก็เห็นกันอยู่ว่าเป็นอย่างไร อย่าถามเลย เสือเขาไม่กินเนื้อเสือด้วยกันเอง ขอทำงานเต็มที่ รับรองศักดิ์ศรีผู้ตัดสินจะไม่เป็นเหมือนเดิม"