xs
xsm
sm
md
lg

วิเคราะห์!! BeIn Sports จ่อฮุบพรีเมียร์ฯ พึ่ง ทรูวิชันส์ เจาะตลาดใหญ่

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

BeIn Sports รอแถลงฮุบสิทธิ์ พรีเมียร์ ลีก
เอเยนซี - ตอกย้ำความเป็นคอนเท็นต์ฟุตบอลมูลค่าสูงที่สุดในโลก สำหรับศึก พรีเมียร์ ลีก อังกฤษ โดยการประมูลครั้งล่าสุดที่คาดว่าจะมีการยืนยันอย่างเป็นทางการในเร็ววันนี้ระบุว่า BeIn Sports คว้าลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดในประเทศไทยไปครอบครองเป็นระยะเวลา 3 ปีเริ่มตั้งแต่ฤดูกาล 2016-17 เป็นต้นไป

บรรดาสื่อกีฬาของอังกฤษยังไม่มีสำนักไหนออกมาตีข่าว โดยเจ้าแรกที่ออกมาเผยข้อมูลนี้คือสายการตลาดได้แก่ www.mediabusinessasia.com ระบุว่า BeIn Sports ประมูลลิขสิทธิ์ พรีเมียร์ ลีก ได้มาด้วยเงิน 300 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 1 หมื่นล้านบาท) ถือเป็นตัวเลขที่น้อยกว่าเจ้าของเดิม บริษัท เคเบิล ไทย โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ CTH อยู่ที่ 50 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 1,750 ล้านบาท) ซึ่งสัญญาปัจจุบันจะสิ้นสุดเมื่อฤดูกาลนี้ 2015-16 รูดม่าน

BeIn Sports ไม่ใช่ได้ลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสด พรีเมียร์ ลีก ที่ไทยเท่านั้น แต่รวมถึง นิว ซีแลนด์ ขณะที่ละแวกเดียวกัน Optus คว้าที่ออสตรเลียไปครอง ด้านเจ้าที่มาใหม่อย่าง LeTV Sports ได้ที่ฮ่องกง คือเท่าที่สามารถเปิดเผยได้เบื้องต้นตอนนี้

ที่ออสเตรเลียนั้น Optus ใช้เงินเพียงแค่ 140 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 4,900 ล้านบาท) ก็ได้มาครอบครอง เนื่องจากคนในประเทศนิยมดูฟุตบอลหรือซอคเกอร์ของตนเองรวมถึงกีฬาอย่างรักบี้มากกว่า แต่ตัวเลขนั้นถือว่าสูงกว่าที่ Fox Sports จ่ายในรอบที่แล้วเกือบ 3 เท่า ส่วนที่ นิว ซีแลนด์ ตัวเลขที่จ่ายนั้นเหมือนเป็นของแถมอยู่ในแพ็คเกจที่ BeIn Sports ได้มามากกว่า

ราคานั้นมีแนวโน้มสูงขึ้นสนับสนุนการแข่งขันภายในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก เพราะมีสื่อที่เกิดใหม่อย่าง AFL และ NRL ในออสเตรเลีย ซึ่งก็ต้องเข้ามาต่อกรอย่างถึงพริกถึงขิงกับผู้ครอบครองตลาดเดิม ส่วนที่มาเลเซียนั้นต้องไปลุ้นว่าใครจะชนะประมูลในรอบ 3 สื่อใหญ่ที่สุดของแดนเสือเหลืองก็คือ Astro นอกจากนี้เราต้องรอดูการต่อรองราคากันทั้งใน ญี่ปุ่น, เกาหลีใต้, สิงคโปร์, เวียดนาม, อินเดีย และ อินโดนีเซีย ซึ่งน่าจะทราบในไม่ช้า

สำหรับตัวเลขการประมูลครั้งสุดเมื่อ 3 ปีที่แล้ว CTH คว้าไปด้วยราคาพุ่งกระฉูดสูงที่สุดคือ 204.8 ล้านปอนด์ (ประมาณ 11,264 ล้านบาท) ตลอด 3 ปี รวมค่าลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดต่างแดน พรีเมียร์ ลีก ฟันเข้ากระเป๋าไปถึง 2.23 พันล้านปอนด์ (ประมาณ 122,650 ล้านบาท) ไม่นับในประเทศอังกฤษที่ขายให้กับ Sky Sports กับ BT Sport ส่วนระหว่างปี 2016-19 ที่จะทราบในไม่ช้านี้ประเมินกันว่าทะลุ 3 พันล้านปอนด์ (ประมาณ 165,000 ล้านบาท) อย่างแน่นอน

ส่วน BeIn SportS สื่อใหญ่จากแถบตะวันออกกลาง การลงทุนครั้งนี้ก็เพื่อเจาะตลาดใหญ่ทางทีวีของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งวิเคราะห์จากแนวโน้มค่า Compound Annual Growth Rate (อัตราเติบโตเฉลี่ยสะสมต่อปี) เพิ่มขึ้นอยู่ที่ 7 เปอร์เซนต์จากปี 2015 ถึง 2020 แน่นอนหากหวังเช่นนั้นก็จะต้องจับมือโดยอาศัยศักยภาพของ ทรูวิชันส์ ที่ถือว่ามีความหลากหลายมากที่สุดรายหนึ่งของเอเชียก็ว่าได้

BeIn Sports เป็นเครือข่ายช่องรายการกีฬาทางโทรทัศน์ของประเทศสหรัฐ อาหรับ เอมิเรตส์ ซึ่งมีเครือข่ายทั่วโลก โดยอยู่ในเครือของอัลจาซีรา สำหรับบริการภายในประเทศไทย สามารถรับชมช่อง บีอินสปอตส์ 1 เอชดี ผ่านการบอกรับเป็นสมาชิกของ ทรูวิชันส์ ดังนั้นก็มีความเป็นไปได้ที่จะแบ่งขายให้พันธมิตรเก่าเป็นรายแรก ซึ่งก็หมายความว่าศึก พรีเมียร์ ลีก นั้นเตรียมที่จะกลับมาถ่ายทอดสดทางช่อง ทรูวิชันส์ อีกครั้งหนึ่ง

ฟาก CTH หลังจากทำลายสถิติทุ่มเงินมากที่สุดเมื่อ 3 ปีก่อนฮุบลิขสิทธิ์ไปครองครอง โดยผู้ที่สมัครแพ็คเกจนั้นเกินครึ่งเพื่อจะมาชมฟุตบอล ซึ่งจากนี้เหลือคอนเท็นต์ในมือเพียงแค่ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรปหรือ ยูโร 2016 ที่ประเทศฝรั่งเศส ช่วงกลางปีหน้าเท่านั้น อาจจะต้องมองถึงการร่วมมือกับเจ้าอื่นแทน

ภายใต้ซีอีโอคนใหม่ของ CTH กำลังผลักดันให้กล่องนั้นเน้นเนื้อหาสาระความบันเทิงให้มากขึ้น รวมถึงเรื่องราวเกี่ยวกับเด็ก และคอนเท็นต์ใหม่ๆ เพื่อรักษาฐานคนใช้บริการรวมถึงขยายสู่กลุ่มคนใหม่ๆ ซึ่งแน่นอนว่าจะต้องแข่งขันกับเบอร์ 1 อย่าง ทรูวิชันส์ แต่จะอยู่ในวงการนี้ได้นานแค่ไหนก็ต้องรอดูในเมื่อไม่มี พรีเมียร์ ลีก แล้ว


เวทีฟาดแข้ง พรีเมียร์ ลีก มูลค่าสูงสุด
สื่อการตลาดตีข่าวค่าลิขสิทธิ์
CTH เจ้าของเดิมแนวโน้มจะไม่รอด
ทรูวิชันส์ ลุ้นจับมือกับ BeIn Sports
กำลังโหลดความคิดเห็น