“บุษบา” ตัดพ้อ กกท. งบฯ สวนทาง ผลงาน

สมาคมยกน้ำหนักสมัครเล่นแห่งประเทศไทย ลงทุนเปลี่ยนผู้ฝึกสอนคนใหม่เพื่อเป้าหมายโควต้าโอลิมปิกเกมส์ไม่น้อยกว่า 9 คน พร้อมขอความเห็นใจ การกีฬาแห่งประเทศไทยให้ความช่วยเหลือมากกว่าทุกๆ ครั้งที่ผ่านมา

จากการที่ การกีฬาแห่งประเทศไทย ได้ประเมินผลงานนักกีฬาไทยที่มีสิทธิ์เข้าร่วมแข่งขันกีฬาโอลิมปิกเกมส์ ที่ประเทศบราซิล ปลายปีหน้า หลังจากที่ได้โควตาไปแล้วจำนวน 4 คนประกอบด้วย สุทธิยา จิวเฉลิมมิตร (เป้าบิน), ธันยพร พฤกษากร, พิมพ์อร คล้ายสุบรรณ (ยิงปืน) และ วุฒิชัย มาสุข (มวยสากล) ที่เหลือยังรอดูผลงานและคะแนนสะสมอีกหลายชนิดกีฬา รวมทั้งนักกีฬายกน้ำหนัก ที่การกีฬาแห่งประเทศไทยมั่นใจว่าจะสามารถผ่านเข้าไปสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทยได้หลายคน


นางบุษบา ยอดบางเตย นายกสมาคมยกน้ำหนักสมัครเล่นแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า สมาคมฯ มีการวางแผนเตรียมนักกีฬาอย่างต่อเนื่องเพื่อเป้าหมายได้สิทธิ์เข้าร่วมแข่งขันกีฬาโอลิมปิกเกมส์ ที่นครเดอจาเนโร ประเทศบราซิล ในเดือนสิงหาคม ปีหน้า ซึ่งระหว่างวันที่ 21-28 พ.ย.ที่จะถึงนี้ สมาคมฯเตรียมส่งนักกีฬายกน้ำหนักทั้งหญิง และชาย เดินทางไปเข้าร่วมแข่งขันชิงแชมป์โลก ที่เมืองฮุสตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา พร้อมกับมีการเปลี่ยนผู้ฝึกสอนจาก หลิว หนิง เป็น หลิว เหยา ทำให้มีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น ขณะที่รายรับและเงินสนับสนุนยังคงเท่าเดิม


นายกสมาคมยกน้ำหนักสมัครเล่นแห่งประเทศไทย ยังได้กล่าวว่า ที่ผ่านมาในการแข่งขันระดับนานาชาติ นักกีฬายกน้ำหนักไม่เคยสร้างความผิดหวัง ด้วยการสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทยด้วยดีเสมอมา ในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกเกมส์ครั้งนี้คาดว่านักกีฬายกน้ำหนักของไทยน่าจะติดมากถึง 9 คน โดยเป็นนักกีฬาชาย 5 คน และ นักกีฬาหญิงอีก 4 คน แต่ที่ผ่านมาปัญหากับผลงานมักจะสวนทางกันเสมอ เนื่องจากงบประมาณที่เราได้รับจากการกีฬาแห่งประเทศไทยไม่เพียงพอ ทางสมาคมจะต้องใช้ทุนส่วนตัวทุกครั้ง แต่ในการเตรียมทีมสู้ศึกโอลิมปิกเกมส์ครั้งนี้ ขอความเห็นใจ การกีฬาแห่งประเทศไทยช่วยให้การสนับสนุนกีฬายกน้ำหนัก และนักกีฬาที่มีความหวังทุกชนิดมากกว่าเดิมเพื่อเป็นขวัญและกำลังใจของนักกีฬา และสมาคมที่ตั้งใจทำงานเพื่อชื่อเสียงของประเทศชาติเสมอมา