คอลัมน์ Buzzer Beat โดย MVP
ก่อนหน้าเปิดฉากศึกบาสเก็ตบอล เอ็นบีเอ (NBA) ช่วงเช้าของวันที่กำลังปั่นต้นฉบับอยู่นี้ นับว่าเกิดข่าวอันน่าหดหู่ สำหรับ มินเนโซตา ทิมเบอร์วูล์ฟส ที่ต้องสูญเสีย ฟลิป ซอนเดอร์ส เฮดโค้ช และประธาน ด้วยโรคมะเร็งต่อมน้ำเหลือง ด้วยวัย 60 ปี เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม ตามวัน-เวลาท้องถิ่น หลังจากรักษาตัวมานานร่วม 2 เดือน
แฟนๆ NBA รุ่นหลังอาจไม่ค่อยคุ้นหูชื่อของ ฟิลิป แดเนียล ซอนเดอร์ส หรือ ฟลิป ซอนเดอร์ส สักเท่าไร เพราะระยะหลัง “ที-วูล์ฟส” มักจะถูกทิ้งไว้ก้นตาราง และกำลังก่อร่างสร้างตัว หลังหมดยุคซูเปอร์สตาร์อย่าง เควิน เลิฟ ซึ่งถูกเทรดไปล่าแชมป์กับ คลีฟแลนด์ คาวาเลียร์ส จึงต้องทนรอดาวรุ่ง อาทิ แอนดรูว์ วิกกินส์ , แซ็ค ลาวีน และ คาร์ล-แอนโธนี ทาวน์เติบโตอย่างเต็มที่เสียก่อน
กลับมาเข้าประเด็นของ ซอนเดอร์ส เสียก่อน จริงอยู่ว่าเขาอาจไม่ได้มีชื่อเสียงในฐานะผู้เล่นของ NBA มาตั้งแต่แรก ทว่าเคยลงเล่นให้ มหาวิทยาลัยมินเนโซตา เคียงบ่าเคียงไหล่ เควิน แม็คเฮล ตำนาน บอสตัน เซลติกส์ ซึ่งหลังจากรีไทร์ ก็ถูกโปรโมตเป็นรองประธาน ทิมเบอร์วูล์ฟส ปี 1995 และดึงเพื่อนเก่ามาทำหน้าที่เฮดโค้ชแทน บิลล์ แบลร์
จุดเริ่มสู่ยุครุ่งเรืองของ ทิมเบอร์วูล์ฟส เกิดขึ้นปีดังกล่าว หลังจากดราฟต์ เควิน การ์เน็ตต์ ฟอร์เวิร์ด มาจากระดับ ไฮ-สคูล ผนึกกำลัง ทอม กูกลิออตตา ลูกพี่ใหญ่ยุคนั้น จากนั้นอีก 1 ปีต่อมา เทรด เรย์ อัลเลน ไป มิลวอคกี บัคส์ แลกกับ สเตฟอน มาร์บิวรี พาทีมเข้าสู่รอบเพลย์ออฟครั้งแรกในประวัติศาสตร์แฟรนไชส์ ปี 1997 และกลายเป็นขาประจำโพสต์ซีซันถึงปี 2004
ซอนเดอร์ส ปลุกปั้น “หมาป่า” ถึงจุดพีกพาทีมจบอันดับ 1 ของสายตะวันตก ฤดูกาลปกติ 2003-2004 สถิติ ชนะ 58 แพ้ 24 ส่ง “เคจี” คว้ารางวัลผู้เล่นทรงคุณค่า (MVP) คนแรกของแฟรนไชส์ ค่าเฉลี่ย 24.2 แต้ม 13.9 รีบาวน์ด 5.0 แอสซิสต์ โดยมีขุมกำลังชั้นดีรายล้อม ทั้ง ลาเทรลล์ สปรีเวลล์ และ แซม คาสเซลล์ ทะลุถึงรอบชิงแชมป์สายตะวันตก พ่าย แอลเอ เลเกอร์ส
นับจากนั้นก็เป็นอย่างที่เราทราบกันดีว่า ทิมเบอร์วูล์ฟส ยังไม่เคยกลับสู่เพลย์ออฟอีกเลย ถึงแม้จะได้ตัวความหวังอย่าง เลิฟ หรือ ริคกี รูบิโอ โกลเดนบอยแดนกระทิงดุ ซึ่งตลอดระยะเวลาในถิ่น ทาร์เก็ต เซ็นเตอร์ ทั้งคู่มักจะสวมชุดคนไข้บ่อยกว่าชุดแข่งเสียอีก
การเสียชีวิตของ ซอนเดอร์ส นับเป็นการสูญเสียบุคลากรอันทรงคุณค่า ซึ่งอยู่กับทีมมานาน 12 ปี ปัจจุบันเหลือไว้เพียงสถิติชนะมากสุดของแฟรนไชส์ 411 จาก 737 เกม และเป็นเฮดโค้ชเพียงหนึ่งเดียวจากทั้งหมด 10 คน ไม่นับ แซม มิตเชลล์ ที่จะเริ่มงานอย่างเต็มตัว ฤดูกาล 2015-16 เยือน แอลเอ เลเกอร์ส วันที่ 29 ตุลาคมนี้
ก่อนหน้าเปิดฉากศึกบาสเก็ตบอล เอ็นบีเอ (NBA) ช่วงเช้าของวันที่กำลังปั่นต้นฉบับอยู่นี้ นับว่าเกิดข่าวอันน่าหดหู่ สำหรับ มินเนโซตา ทิมเบอร์วูล์ฟส ที่ต้องสูญเสีย ฟลิป ซอนเดอร์ส เฮดโค้ช และประธาน ด้วยโรคมะเร็งต่อมน้ำเหลือง ด้วยวัย 60 ปี เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม ตามวัน-เวลาท้องถิ่น หลังจากรักษาตัวมานานร่วม 2 เดือน
แฟนๆ NBA รุ่นหลังอาจไม่ค่อยคุ้นหูชื่อของ ฟิลิป แดเนียล ซอนเดอร์ส หรือ ฟลิป ซอนเดอร์ส สักเท่าไร เพราะระยะหลัง “ที-วูล์ฟส” มักจะถูกทิ้งไว้ก้นตาราง และกำลังก่อร่างสร้างตัว หลังหมดยุคซูเปอร์สตาร์อย่าง เควิน เลิฟ ซึ่งถูกเทรดไปล่าแชมป์กับ คลีฟแลนด์ คาวาเลียร์ส จึงต้องทนรอดาวรุ่ง อาทิ แอนดรูว์ วิกกินส์ , แซ็ค ลาวีน และ คาร์ล-แอนโธนี ทาวน์เติบโตอย่างเต็มที่เสียก่อน
กลับมาเข้าประเด็นของ ซอนเดอร์ส เสียก่อน จริงอยู่ว่าเขาอาจไม่ได้มีชื่อเสียงในฐานะผู้เล่นของ NBA มาตั้งแต่แรก ทว่าเคยลงเล่นให้ มหาวิทยาลัยมินเนโซตา เคียงบ่าเคียงไหล่ เควิน แม็คเฮล ตำนาน บอสตัน เซลติกส์ ซึ่งหลังจากรีไทร์ ก็ถูกโปรโมตเป็นรองประธาน ทิมเบอร์วูล์ฟส ปี 1995 และดึงเพื่อนเก่ามาทำหน้าที่เฮดโค้ชแทน บิลล์ แบลร์
จุดเริ่มสู่ยุครุ่งเรืองของ ทิมเบอร์วูล์ฟส เกิดขึ้นปีดังกล่าว หลังจากดราฟต์ เควิน การ์เน็ตต์ ฟอร์เวิร์ด มาจากระดับ ไฮ-สคูล ผนึกกำลัง ทอม กูกลิออตตา ลูกพี่ใหญ่ยุคนั้น จากนั้นอีก 1 ปีต่อมา เทรด เรย์ อัลเลน ไป มิลวอคกี บัคส์ แลกกับ สเตฟอน มาร์บิวรี พาทีมเข้าสู่รอบเพลย์ออฟครั้งแรกในประวัติศาสตร์แฟรนไชส์ ปี 1997 และกลายเป็นขาประจำโพสต์ซีซันถึงปี 2004
ซอนเดอร์ส ปลุกปั้น “หมาป่า” ถึงจุดพีกพาทีมจบอันดับ 1 ของสายตะวันตก ฤดูกาลปกติ 2003-2004 สถิติ ชนะ 58 แพ้ 24 ส่ง “เคจี” คว้ารางวัลผู้เล่นทรงคุณค่า (MVP) คนแรกของแฟรนไชส์ ค่าเฉลี่ย 24.2 แต้ม 13.9 รีบาวน์ด 5.0 แอสซิสต์ โดยมีขุมกำลังชั้นดีรายล้อม ทั้ง ลาเทรลล์ สปรีเวลล์ และ แซม คาสเซลล์ ทะลุถึงรอบชิงแชมป์สายตะวันตก พ่าย แอลเอ เลเกอร์ส
นับจากนั้นก็เป็นอย่างที่เราทราบกันดีว่า ทิมเบอร์วูล์ฟส ยังไม่เคยกลับสู่เพลย์ออฟอีกเลย ถึงแม้จะได้ตัวความหวังอย่าง เลิฟ หรือ ริคกี รูบิโอ โกลเดนบอยแดนกระทิงดุ ซึ่งตลอดระยะเวลาในถิ่น ทาร์เก็ต เซ็นเตอร์ ทั้งคู่มักจะสวมชุดคนไข้บ่อยกว่าชุดแข่งเสียอีก
การเสียชีวิตของ ซอนเดอร์ส นับเป็นการสูญเสียบุคลากรอันทรงคุณค่า ซึ่งอยู่กับทีมมานาน 12 ปี ปัจจุบันเหลือไว้เพียงสถิติชนะมากสุดของแฟรนไชส์ 411 จาก 737 เกม และเป็นเฮดโค้ชเพียงหนึ่งเดียวจากทั้งหมด 10 คน ไม่นับ แซม มิตเชลล์ ที่จะเริ่มงานอย่างเต็มตัว ฤดูกาล 2015-16 เยือน แอลเอ เลเกอร์ส วันที่ 29 ตุลาคมนี้