xs
xsm
sm
md
lg

เด็ก 15 ยิง “เมืองทอง”! / ชมณัฐ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

คอลัมน์ “TIMEOUT” โดย “ชมณัฐ”

เพียงแค่ฤดูกาลเดียว ก็มีปรากฎการณ์ทำลายสถิติผู้เล่นที่อายุน้อยที่สุด ที่ยิงประตูในศึก ไทย พรีเมียร์ ลีก ได้ 2 รายซ้อน คือ “เจ้ายิม” วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ และล่าสุด “เจ้าบุ๊ค” เอกนิษฐ์ ปัญญา เด็กหนุ่มวัยเพียง 15 ปี ที่สามารถพังประตูบิ๊กทีมอย่าง เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ได้

ก่อนหน้านี้ ชาคริต บัวทอง คือนักเตะอายุน้อยที่สุดที่ยิงประตูได้บนเวทีลีกสูงสุดเมืองไทย สมัยสวมเสื้อพนักงานยาสูบ ในวัย 17 ปี 4 เดือน เมื่อปี 2003 แต่หากนับตั้งแต่ที่ลูกหนังไทยก้าวสู่ระบบอาชีพเต็มตัว โดยการจัดตั้ง บริษัท ไทย พรีเมียร์ ลีก จำกัด เข้ามาบริหารงานตามนโยบายของ สหพันธ์ฟุตบอลเอเชีย (เอเอฟซี) เมื่อปี 2009 “เจ้ายิม” วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ วันเดอร์คิดจากชลบุรี เอฟซี ได้สร้างสถิติด้วยวัย 17 ปี 11 เดือน เมื่อเดือนสิงหาคม ฤดูกาล 2015

ทว่าถัดมาเพียง 2 เดือน พงศาวดารฉบับดังกล่าวก็ต้องถูกจารึกใหม่ด้วยฝีเท้าของ “เจ้าบุ๊ค” เอกนิษฐ์ ปัญญา แนวรุกจาก เชียงราย ยูไนเต็ด

วินาทีประวัติศาสตร์ดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 18 ตุลาคม ที่ผ่านมา ขณะที่เจ้าบ้าน เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด เตรียมจะคว้าชัยสดใสด้วยการนำ เชียงราย ยูไนเต็ด 4-0 แต่แล้วในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ เอกนิษฐ์ ที่ถูกส่งลงมาเป็นตัวสำรองในนาที 76 ได้วิ่งเข้าซ้ำจังหวะสองส่งบอลซุกตาข่ายช่วยตีไข่แตกให้ “กว่างโซ้ง” เป็น 1-4 พร้อมส่งให้เจ้าตัวพังสถิติ วรชิต รวมถึง ชาคริต กลายเป็นแข้งอายุน้อยสุดที่ยิงประตูได้ด้วยวัย 15 ปี 11 เดือน 28 วัน หรืออีก 3 วันจะอายุครบ 16 ปี

ที่สำคัญก่อนหน้านั้นหนึ่งเกม “เจ้าบุ๊ค” เพิ่งสร้างสถิติด้วยการเป็นผู้เล่นอายุน้อยที่สุดที่ลงเล่นในไทยลีกมาแล้ว จากการลงเป็นตัวสำรองช่วง 3 นาทีสุดท้าย เกมที่ เชียงรายฯ เปิดบ้านชนะ ศรีสะเกษ เอฟซี 3-0

เรียกได้ว่าลงเล่น 2 นัด รวม 16 นาที ก็สามารถสร้างสถิติใหม่ได้ 2 อย่างเลยทีเดียว และสิ่งที่ต้องชื่นชมมากที่สุดคงหนีไม่พ้น “โค้ชโจ” ธีระศักดิ์ โพธิ์อ้น กุนซือของทีม ที่ไว้ใจและมอบโอกาสให้กับเด็กน้อยรายนี้ หลังจากรับเข้ามาร่วมในอะคาเดมีเมื่อปีที่แล้ว ก่อนจะดันขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่ในเลกสองฤดูกาลนี้ ซึ่งกุนซือวัย 37 ปี ภาคภูมิใจในตัวเด็กปั้นคนนี้เป็นอย่างมาก เพราะเป็นเลือดเนื้อเชื้อไขชาวจังหวัดเชียงรายโดยแท้จริง ลืมตาดูโลกที่อำเภอเม็งราย เมื่อวันที่ 21 ตุลาคม 1999

จากนี้ยังเหลือโปรแกรมอีก 9 นัด เชื่อได้ว่า “กว่างโซ้ง” ที่ปัจจุบันรั้งอันดับ 9 หมดลุ้นแชมป์และไม่ต้องดิ้นรนหนีตกชั้นแล้ว จะเปิดโอกาสให้ เอกนิษฐ์ ได้ลงเล่นสั่งสมประสบการณ์อย่างต่อเนื่อง เหมือนกับที่เคยให้ของขวัญแก่เลือดใหม่ รุ่งรัตน์ ภูมิจันทึก และ สหรัฐ กันยะโรจน์ จนก้าวติดทีมชาติไทยไปแล้ว

เหนือสิ่งอื่นใด ทั้ง เอกนิษฐ์ และ วรชิต รวมถึงดาวรุ่งรายอื่นที่ทยอยก้าวขึ้นมาสร้างชื่อในฤดูกาลนี้ ถือเป็นก้าวต่อไปของวงการฟุตบอลไทยอย่างแท้จริง เมื่อสโมสรพัฒนาทีมอย่างมีแบบแผนเป็นขั้นตอน ก็มีผลผลิตให้เก็บเกี่ยว ยิ่งหากมีการจัดตั้งลีกเยาวชนให้เด็กเหล่านี้ได้บ่มเพาะกระดูกแล้วล่ะก็ ไทย พรีเมียร์ ลีก จะก้าวสู้ฟุตบอลอาชีพอย่างเต็มตัวแน่นอน


กำลังโหลดความคิดเห็น