เจ้าหนู “ฟิตซ์แพทริค” อนาคตสวิงอังกฤษ

ASTV ผู้จัดการสุดสัปดาห์ - “โปรอาร์ม” กิรเดช อภิบาลรัตน์ ขวัญใจชาวไทย วืดแชมป์ ยูโรเปียน ทัวร์ รายการ “บริติช มาสเตอร์ส” เมื่อวันที่ 11 ตุลาคมที่ผ่านมาอย่างน่าเสียดายโดยตามหลังแชมป์อย่าง แมทธิว ฟิตซ์แพทริค จากอังกฤษ 4 สโตรก

ถือเป็นแชมป์ระดับอาชีพรายการแรกในชีวิตของ ฟิตซ์แพทริค พ่วงเงินรางวัล 671,550 ยูโร (ประมาณ 27.5 ล้านบาท) พร้อมพุ่งจากมือ 111 มาอยู่ที่ 59 ส่วนปี 2014 ยังอยู่ที่ 413 ของโลกอยู่เลย สื่ออังกฤษจึงจับตาหนุ่มจากเมืองเชฟฟิลด์รายนี้
ดังนั้นโดยลองไปทำความรู้จักเจ้าหนู ฟิตซ์แพทริค ให้ลึกกว่านี้กันหน่อยดีกว่า เนื่องจากไม่แน่อาจจะขึ้นมาแทนรุ่นพี่ร่วมชาติอย่าง จัสติน โรส, พอล เคซีย์, เอียน โพลเตอร์ และ ลุค โดนัลด์ ที่ร่วงโรยไปตามกาลเวลา

- ฟิตซ์แพทริค เกิดเมื่อเดือนพฤษภาคมปี 1994 จึงถือเป็นผู้เล่นอายุน้อยที่สุดในศึก “บริติช มาสเตอร์ส” ที่สนาม โวเบิร์น กอล์ฟคลับ โดยละอ่อนกว่า พอล ดันน์ (ไอร์แลนด์) 10 เดือน ซึ่งก้านเหล็กรายหลังนี้เพิ่งสตาร์ทอีเวนต์ที่ 2 ระดับอาชีพเอง ส่วนคนที่แก่ที่สุดคือ มิเกล อังเคล ฆิมิเนซ (สเปน) อายุ 51 ปี ตอนที่ลุงจอมพ่นควันชนะแชมป์ ยูโรเปียน ทัวร์ 2 รายการแรกนั้น ฟิตซ์แพทริค เพิ่งจะเกิด

- นักกอล์ฟบริติชจำนวนมากต้องการไปเรียนมหาวิทยาลัยอเมริกันเพื่อปรับเกมการเล่นของตนเองให้ดีขึ้น สำหรับ ฟิตซ์แพทริค เลือกไปที่ นอร์ธเวสเทิร์น ยูนิเวอร์ซิตี ใน ชิคาโก ที่เดียวกับ ลุค โดนัลด์ รุ่นพี่ชาวอังกฤษ รวมถึง เดวิด ลิปสกีย์ (สหรัฐอเมริกา) แม้ว่าจะอยู่ได้แค่ภาคการศึกษาเดียวก่อนเทิร์นโปร์ แต่ก็เล่นอีเวนต์ระดับมหาวิทยาลัย 5 ครั้ง ชนะ 1 ครั้งและจบท็อป 5 ถึง 3 ครั้ง

- เมื่อปี 2013 ฟิตซ์แพทริค ฉายแววเด่นบนเวทีโลกด้วยการคว้าแชมป์ ยูเอส อเมเจอร์ แชมเปียนชิป ที่ บรูกไลน์ คันทรี คลับ หลังจากชนะ โอลิเวอร์ กอส (ออสเตรเลีย) 4 ต่อ 3 (นำ 4 อัพเหลือ 3 หลุม) ในรอบไฟนอลแบบ 36 หลุม จึงกลายเป็นผู้เล่นอังกฤษคนแรกที่คว้าแชมป์อีเวนต์นี้รอบ 102 ปีต่อจาก ฮารอลด์ ฮิลตัน ทำไว้เมื่อปี 1911

- หลังจากคว้าแชมป์ ยูเอส อเมเจอร์ แชมเปียนชิป ทำให้ ฟิตซ์แพทริค ขึ้นเป็นมือ 1 ของโลกในระดับมือสมัครเล่น แน่นอนว่าก้านเหล็กคนดังอย่าง รอรีย์ แม็คอิลรอย (ไอร์แลนด์เหนือ) ริคกี ฟาวเลอร์ (สหรัฐอเมริกา) และ จอร์แดน สปีธ (สหรัฐอเมริกา) ก็เคยผ่านจุดนี้มาแล้วทั้งสิ้น

- ฟิตซ์แพทริค เกิดที่เมือง เชฟฟิลด์ ทางตอนใต้ของ ยอร์กเชียร์ ดังนั้นจึงต้องเชียร์ทีมท้องถิ่นอย่าง "เดอะ เบลดส์" เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด โดยสโมสรตกชั้นจากเวที พรีเมียร์ ลีก ก่อนที่ก้านเหล็กอังกฤษรายนี้จะเกิดด้วยซ้ำ แต่สามารถต่อสู้จนกลับสู่ลีกสูงสุดได้ครั้งเดียวในชีวิตของเขาคือเมื่อปี 2006

- ปัจจุบัน ฟิตซ์แพทริค คือ 1 ใน 2 ผู้เล่นของทัวร์ที่ติดท็อป 10 ทั้ง 2 สถิติการตีคือไดร์ฟกับบนกรีน อีกรายหนึ่งก็คือ โธมัส ไอเคน (แอฟริกาใต้) โดยสามารถตีอยู่บนแฟร์เวย์เกินกว่า 70 เปอร์เซนต์และ 75 เปอร์เซนต์ของจำนวนการพัตต์ที่ต้องการ

- ถือว่าตอนนี้ ฟิตซ์แพทริค มีฤดูกาลที่น่าจับตามองมากในฐานะรุคกีที่อันดับสูงที่สุดในตาราง เรซ ทู ดูไบ กระนั้นก็ตามไม่ได้เล่นศึก “บริติช มาสเตอร์ส” แบบอัตโนมัติ โดยทัวร์นาเมนต์ได้ส่งคำเชิญให้ลงดวลวงสวิงและในที่สุดก็เป็นการตัดสินใจที่ถูกต้อง เพราะสามารถคว้าแชมป์มาครองได้อย่างน่าตื่นตาตื่นใจ

- ฟิตซ์แพทริค คว้าแชมป์ ยูเอส อเมเจอร์ จึงถูกเชิญให้ลุยศึกเมเจอร์ “เดอะ มาสเตอร์ส 2014” แต่ว่า ลอร์น ดันแคน แคคดีถูกแบนที่ ออกัสตา ตอนรอบซ้อม เพราะว่าดันไปสวมรองเท้าแตะ โดยรายการระดับนี้ทุกคนต้องเข้มงวดและปฎิบัติตามกฎอย่างเคร่งครัด แม้จะอ้างว่าเท้าบาดเจ็บ แต่ก็ฟังไม่ขึ้น สุดท้ายก็ยอมเปลี่ยนแต่โดยดี

- เกริ่นไปแล้วว่า ฟิตซ์แพทริค พุ่งขึ้นมาอยู่มือ 59 ทำให้ตอนนี้ท็อป 100 ของโลกเขาถือว่าอายุน้อยที่สุด โดยละอ่อนกว่า จอร์แดน สปีธ (สหรัฐอเมริกา) มือ 1 อยู่ที่ 401 วัน

- ตอนนี้ ฟิตซ์แพทริค กลายเป็นผู้เล่นที่จบท็อปทรีมากกว่าใครในศึก ยูโรเปียน ทัวร์ ปี 2015 โดยทำไปแล้วทั้งสิ้น 5 ครั้ง มากกว่า แดนนี วิลเล็ตต์ (อังกฤษ), แบรนด์ วีส์เบอร์เกอร์ (ออสเตรีย) และ เดวิด โฮล (อังกฤษ) ที่เท่ากันทั้งหมด 4 ครั้ง

เรื่อง สรเดช เพชรแสงใสกุล