“แม่โจ้กอล์ฟรีสอร์ท” เปิดประสบการณ์เล่นกอล์ฟและพักผ่อน

โดย : วราพร ปานบุญห้อม

สนามแม่โจ้กอล์ฟรีสอร์ท แอนด์ สปา เป็นสนามกอล์ฟมาตรฐาน 18 หลุม พาร์ 72 ระยะ 6,553 หลา เปิดให้บริการ ตั้งแต่เดือน พฤศจิกายน 2547 ตั้งอยู่ 112 หมู่ 7 ต.ป่าไผ่ อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ โดยใช้เวลาเดินทางจากตัวเมืองเชียงใหม่เพียง 20 นาที มุ่งสู่ถนนสาย เชียงใหม่ - พร้าว (ทางไปมหาวิทยาลัยแม่โจ้) เลี้ยวขวาบริเวณสามแยกหน้ามหาวิทยาลัยแม่โจ้ ความท้าทายและความแปลกใหม่รอให้นักกอล์ฟทุกท่านพิสูจน์อยู่ที่นี่ ทางผู้บริหารของสนามแม่โจ้กอล์ฟคลับ แอนด์ รีสอร์ท มีความตั้งใจที่จะสร้างความแปลกใหม่ที่แตกต่างออกไป เพื่อให้ทุกครั้งที่มาเยือนของนักกอล์ฟทุกท่านไม่มีคำว่าผิดหวัง

ผู้เขียนมีโอกาสได้คุยกับ คุณตั้ม-เฉลิมพล ชูชาติ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายขาย และการตลาด สนามแม่โจ้กอล์ฟรีสอร์ท แอนด์ สปา ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า สนามนี้เป็นสไตล์ Tree Line Course หรือสนามที่ใช้ต้นไม้เป็นขอบเขตของสนาม ซึ่งประเมินจากสายตาที่ไปเห็นของจริง ในรอบ 9 หลุมแรกเล่นบนพื้นราบ ส่วน 9 หลุมหลังเล่นตามเนินเขา มีต้นไม้ให้ผล อาทิ ลำไย, ลิ้นจี่, มะม่วง, ส้มโอ, ชมพู่, เงาะ และกระท้อน เป็นต้น

สนามแม่โจ้กอล์ฟรีสอร์ท แอนด์ สปา เป็นสนามที่ได้รับการออกแบบให้มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว มีความปลอดภัยในการเล่น โดยใช้พื้นที่เดิมซึ่งเป็นสวนผลไม้กว่า 600 ไร่ มาปรับสภาพให้เป็นสนามกอล์ฟมาตรฐาน ที่มีความสนุกสนาน ท้าทาย และแวดล้อมด้วยทิวทัศน์ของดอยสุเทพอันเป็นที่เคารพสักการะของชาวเชียงใหม่ อีกทั้งยังมีทิวเขาโดยรอบสนาม ทุก ๆ หลุมของสนามแม่โจ้กอล์ฟรีสอร์ท แอนด์ สปา ได้รับการออกแบบให้มีความยากง่ายแตกต่างกันไป

ส่วนซิกเนเจอร์โฮล หรือหลุมสัญลักษณ์ของที่นี่มีมากกว่าหนึ่งหลุม ได้แก่ หลุม 7 พาร์ 3 ขึ้นไปยืนบนแท่นที จะเห็นวิวโรงแรม และบึงน้ำที่ขนาบทั้งสองด้าน ส่วนหลุม 14 พาร์ 3 ทีออฟอยู่บนเขา ต้องตีข้ามเวสต์ บังเกอร์ ซึ่งหลุมนี้ทางซิลค์แอร์ สิงคโปร์ นำไปโปรโมทในเว็บไซท์ของสายการบินด้วย

ตลอดทั้งปีนักกอล์ฟจะพบกับความท้าทายที่แตกต่างทุกครั้งที่มาเยือน ท่ามกลางบรรยากาศของสวนผลไม้ที่ออกผลตามฤดูกาลตลอดทั้งปี โดยเฉพาะหน้าหนาวนี้มีส้มโอที่มีรสชาติหวาน อร่อย เป็นเอกลักษณ์รอให้นักกอล์ฟเก็บชิมได้ตลอดทาง สำหรับนักกอล์ฟที่ชื่นชอบความแปลกใหม่และท้าทาย รับรองว่าไม่ผิดหวังอย่างแน่นอน จุดเด่นของสนามแม่โจ้กอล์ฟคลับ แอนด์ รีสอร์ท คือ การออกแบบให้กรีนมีขนาดใหญ่ มีหลายหลุมที่โดดเด่นน่าประทับใจ อาทิ

หลุม 2 พาร์ 3 ระยะ 176 หลา
จุดเด่นของหลุมนี้จะอยู่ที่ความยากของกรีน คือกรีนจะมีสโลปค่อนข้างเยอะ นักกอล์ฟต้องใช้ความสามารถอย่างมากในการพัตต์ ซึ่งทำให้การเก็บพาร์อาจจะไม่ใช่เรื่องง่าย

หลุม 5 พาร์ 4 ระยะ 374 หลา
จุดเด่นของหลุมอยู่ที่แฟร์เวย์ที่มีลักษณะคล้ายตัว S มีน้ำขวางดักก่อนถึงกรีน ด้านซ้ายมือจะเป็นป่าธรรมชาติลักษณะของกรีนจะขวางขนานกับน้ำและเทมาด้านหน้า หลุมนี้นักกอล์ฟต้องตีวางระยะให้แม่น เพราะถ้าออนด้านขนานจะพัตยากมาก หน้ากรีนจะมีบังเกอร์ทรายดักอยู่ หลุมนี้มีช็อตขึ้นกรีนจะเสี่ยงต่อการ ตกน้ำ และตกบังเกอร์ทราย

หลุม 7 พาร์ 3 ระยะ 147 หลา
หลุมนี้เป็นซิกเนเจอร์โฮล มีน้ำทั้งด้านขวาและซ้ายของกรีน ด้านหน้ามีบังเกอร์ทรายดักอยู่ เป็นหลุมพาร์ 3 ที่สวยเมื่อมองจากแท่นทีออฟ เพราะจะมองเห็นอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่อยู่ด้านหลังกรีน หลุมนี้นักกอล์ฟสามารถเก็บเบอร์ดี้ได้ แต่ถ้ามีลมแรงต้องเผื่อระยะและทิศทางสักเล็กน้อย

หลุม 9 พาร์ 4 ระยะ 373 หลา
หลุมนี้มีลักษณะ Dog leg ขวา มีน้ำขนาบด้านขวาตลอดแนว โดยปกติแล้วหลุมนี้นักกอล์ฟจะต้องตีตาม Lay Out แฟร์เวย์ แต่ถ้านักกอล์ฟอยากเสี่ยงตีตัดก็สามารถทำได้ ซึ่งหลุมนี้ไม่ง่ายนัก เพราะมีต้นไม้เป็นอุปสรรคอยู่กลางแฟร์เวย์ ข้างกรีนมีบังเกอร์ทรายดักทั้งซ้ายและขวา

หลุม 12 พาร์ 4 ระยะ 380 หลา
หลุมนี้จะยากและท้าทายที่แฟร์แวย์ค่อนข้างแคบ จะมีอุปสรรคทั้งหนองน้ำ, OB (ด้านซ้าย), สวนผลไม้(ด้านขวา) ซึ่งนักกอล์ฟจะต้องตีให้อยู่ในแฟร์แวย์เท่านั้น เพื่อง่ายต่อการตีซ็อตต่อไป

หลุม 13 พาร์ 5 ระยะ 539 หลา
หลุมนี้เป็นหลุมพาร์ 5 ที่ยาวและตรงตีขึ้นเขาเล็กน้อย ซึ่งหลุมนี้อุปสรรคไม่ค่อยมากนัก แต่มีบ่อขนาดใหญ่ด้านขวามือก่อนถึงกรีน โดยกรีนมีลักษณะลาดเทจากหลังมาหน้า ทำให้หลุมนี้เป็นหลุมที่ยากบนกรีนเสียส่วนใหญ่ ด้านขวามือของหลุมนี้จะมีสวนผลไม้ไปตลอดแนวจนถึงบ่อดิน

สำหรับหลุมซิกเนเจอร์โฮล ซึ่งเป็นที่กล่าวถึงจากนักกอล์ฟที่ได้มาสัมผัส ได้แก่

หลุม 14 พาร์ 3 ระยะ 164 หลา
เป็นหลุมที่สวยงามมาก และเป็นเสมือนซิกเนเจอร์โฮล อีกหลุม เมื่อยืนอยู่บนแท่นทีออฟ นักกอล์ฟสามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ของเมืองเชียงใหม่และดอยสุเทพได้อย่างชัดเจน หลุมนี้ออกแบบให้มีกรีนขนาดใหญ่อยู่ด้านล่าง รอบ ๆ กรีนล้อมรอบไปด้วยไม้ผล ซึ่งหลุมนี้นักอล์ฟ ต้องตีจากแท่นทีออฟที่สูงกว่ากรีน โดยทีออฟและกรีนจะต่างระดับประมาณ 10 เมตร และต้องตีให้ข้ามบังเกอร์ที่มีขนาดใหญ่ ดังนั้นนักกอล์ฟควรพิจารณาถึงทิศทางของลมประกอบไปด้วย ระยะจากแท่นทีออฟจนถึงกรีนค่อนข้างยาวพอสมควร และมีบังเกอร์ขนาดใหญ่ดักอยู่หน้ากรีน หากนักกอล์ฟคำนวณระยะให้ดี โอกาสที่จะได้โฮลอินวันไม่ยากเกินไป

หลุม 15 พาร์ 4 ระยะ 453 หลา
หลุมนี้มีลักษณะ Dog leg ด้านขวาเล็กน้อย เมื่อนักกอล์ฟยืนอยู่บนแท่นทีออฟ จะไม่สามารถมองเห็นกรีนได้หลุมนี้จัดได้ว่าเป็นหลุมที่ยากที่สุดในสนามเพราะมีระยะที่ยาวพอสมควร ลักษณะของกรีนขวาง และยังมีบังเกอร์ทรายดักอยู่ด้านขวามือ ถ้าตีระยะไม่แม่นพอจะทำให้ลูกหลุดออก O.B. ด้านหลังกรีนได้

หลุม 18 พาร์ 4 ระยะ 434 หลา
หลุมนี้แฟร์เวย์มีลักษณะ Dog leg ซ้าย ด้านซ้ายมือตลอดแนว ด้านขวาเป็นแนว O.B. ยาวตลอดแฟร์เวย์นักกอล์ฟจะต้องตีอยู่ในแฟร์เวย์เท่านั้น เพื่อที่จะเล่นช็อตต่อไปได้ง่ายขึ้น

นอกจากนี้สนามแม่โจ้กอล์ฟรีสอร์ท แอนด์ สปา มีบริการสนามไดร์ฟกรีนซ้อมพัตต์ และคลับเฮาส์ที่ออกแบบสไตล์ล้านนาประยุกต์ มีบริการห้องอาหาร ซึ่งมีทั้งแบบห้องแอร์ และแบบเปิดโล่ง สามารถมองเห็นกิจกรรมกอล์ฟและทัศนียภาพสวยงามโดยรอบ รวมถึงสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย อาทิ โรงแรมแม่โจ้กอล์ฟรีสอร์ท ซึ่งเปิดบริการมาแล้ว 4 ปี มีห้องพักให้บริการจำนวน 49 ห้อง พร้อมบริการอื่นๆ อีกมากมายอาทิเช่น ห้องจัดเลี้ยงหรือประชุมสัมมนาสามารถรองรับผู้เข้าร่วมงานได้สูงสุด 200 ท่าน โปรช็อป ล๊อคเกอร์ชายหญิง สระว่ายน้ำ จาคูซี่ ห้องนวด สปา ห้องพลู ห้องคาราโอเกะ และสำหรับนักกอล์ฟที่ชื่นชอบกิจกรรมที่ท้าทาย นอกเหนือจากการเล่นกอล์ฟแล้วทางสนามแม่โจ้กอล์ฟคลับ แอนด์ รีสอร์ท ยังมีกิจกรรมยามว่างให้ท่านได้เลือกผ่อนคลาย ไม่ว่าจะเป็น การปั่นจักรยาน การพายเรือ และสนามเทนนิส(Grass Court) ซึ่งมีไว้ให้บริการนักกอล์ฟให้ได้ผ่อนคลายอย่างครบถ้วน

สำหรับโปรโมชั่นของสนามจะอยู่ช่วงเชียงใหม่กอล์ฟ เฟสติวัล ระหว่างเดือน พฤษภาคมถึงมิถุนายนของทุกปี ส่วนช่วงไฮซีซั่นจะอยู่ระหว่างเดือนพฤศจิกายนถึงมีนาคม ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมโทร. (053) 354-431-2 หรือเว็บไซต์ www.maejogolfclub.com