เอเยนซี – เปิดฉากขึ้นแล้วกับศึกกอล์ฟแห่งศักดิ์ศรีฝั่ง พีจีเอ ทัวร์ รายการ เพรสซิเดนท์ คัพ ครั้งที่ 11 ที่งวดนี้บินไปจัดกันที่ดินแดนเอเชียครั้งแรก ณ เกาหลีใต้ โดยจบวันแรกเป็นฝ่าย สหรัฐอเมริกา ที่มี จอร์แดน สปีธ มือ 1 โลกนำทัพ ชนะทีมรวมนานาชาติของ เจสัน เดย์ มือดีจาก ออสเตรเลีย ไปก่อน 4-1 คู่ มีสิทธิ์เก็บแชมป์สมัยที่ 9 ทว่าก็ยังประมาทไม่ได้ เพราะยังมีเวลาที่แชมป์ปี 1998 จะวางแผนแก้มือหลายวัน
ศึกชิงแชมป์ระหว่างทีมนักกอล์ฟจากฝั่งสหรัฐอเมริกา ภายใต้การนำของกัปตันทีม เจย์ ฮาสส์ และทีมนานาชาติของกัปตัน นิค ไพรซ์ คราวนี้เป็นครั้งแรกที่ออกมาจัดนอกบ้านบ้างนั่นคือสนาม แจ็ค นิคคลอส กอล์ฟ คลับ ที่เมืองอินชอน ประเทศเกาหลีใต้ เพราะส่วนใหญ่ไม่แข่งกันที่เมืองมะกัน ก็ต้องเป็นสังเวียนที่ยุโรป ทว่าด้วยชัยภูมิที่ไม่คุ้นเคยกันทั้งคู่ก็ทำให้การแข่งขันหนนี้ไม่มีใครได้เปรียบเสียเปรียบนัก
โดยฝั่งของ สหรัฐอเมริกา ผู้นำแห่งวงการสวิงโลก เป็นครั้งแรกเลยที่ไม่มีชื่อของ ไทเกอร์ วูดส์ ยอดโปรแชมป์เมเจอร์ 14 สมัย มาร่วมแข่งขันด้วย เพราะอย่างน้อยทุกปีกัปตันมะกัน มักเลือกพญาเสือตนนี้มาติดทีมเสมอเพราะชื่อชั้นขู่ฝั่งตรงข้ามได้แม้ฟอร์มจะไม่ได้เปรี้ยงปร้างดังอดีต ส่วนปีนี้ที่ไม่มาก็คือต้องเข้ารับการผ่าตัดเปิดแผ่นหลังอีกรอบ และบอกจะโผล่มาโชว์ลีลาอีกทีก็คือฤดูกาล2016 ไปเลย
จากเรื่องดังกล่าวทำให้ภาระผู้นำทัพของแชมป์เก่า 8 สมัย ตกมาอยู่ที่ จอร์แดน สปีธ มือ 1 โลกคนปัจจุบัน ซึ่งสร้างผลงานยอดเยี่ยมตลอดทั้งปีกับแชมป์เมเจอร์ 2 รายการ และ เฟดเอ็กซ์ คัพ รายการสุดท้ายที่เพิ่งผ่านพ้นไป โดยมีรุ่นพี่-รุ่นน้องอย่าง บับบา วัตสัน, จิมมี วอล์คเกอร์, แซค จอห์นสัน, ริคกี ฟาวเลอร์, ดัสติน จอห์นสัน, แพทริค รีด, แมตต์ คูชาร์ และ คริส เคิร์ก มาร่วมผนึกกำลังล่าแชมป์
รายของ สปีธ ถือว่าไม่ใช่หน้าใหม่เสียทีเดียวเพราะปี 2013 ก็เคยถูก เฟร็ด คัพเพิลส์ กัปตันทีมเลือกมาร่วมทัพในฐานะรุกกี แต่คราวนี้สถานการณ์ต่างกันเพราะถูกวางให้เป็นมือความหวังของชาติ ทว่าแม้ต้องแบกความกดดันขึ้นบ่าแต่ก็ขอมองถึงการผนึกกำลังกับเพื่อนๆไปสู่ชัยชนะมากกว่าเดินหน้าเพียงคนเดียว “ผมรู้ว่าเราต้องสู้ไปด้วยกัน นี่คือโอกาสที่ดีแล้ว คู่แข่งที่ยิ่งใหญ่ที่สุดนั้นอยู่ข้างหน้า แต่เราก็มีทีมที่ยอดเยี่ยมเช่นเดียวกัน”
แน่นอนว่าหาก สปีธ พาสหรัฐอเมริกาป้องกันแชมป์ได้สำเร็จก็น่าจะขึ้นแท่นเป็นฮีโร่คนใหม่ของสหรัฐอเมริกาตัวจริงเสียงจริงแทนที่ ไทเกอร์ วูดส์ ซึ่งก็จะเสมือนเป็นการเพิ่มเรตติงให้ตัวเอง เพราะที่ผ่านมารุ่นพี่อย่าง “พญาเสือ” ก็ทำผลงานไม่ค่อยดีนักในการแข่งขันประเภททีม อีกทั้งการที่ชาติมองหาความหวังใหม่มานานนั้นก็น่าจะยุติลงเสียที
ถัดมาที่ฝั่งของทีมรวมนานาชาติ มี หลุยส์ อุสธุยเซน, อดัม สกอตต์, ฮิเดกิ มัตสึยามา, แบรนเดน เกรซ, มาร์ค ลีชแมน, อาเนียร์บาน ลาอิรี, ชาร์ล ชวาร์ตเซล, แดนนี ลี, แบ ซัง มุน, สตีเวน โบว์ดิช, ธงชัย ใจดี หนึ่งเดียวของไทย และที่ขาดไม่ได้คือ เจสัน เดย์ สวิงฟอร์มแรงชาวออสซี ที่พิสูจน์ตัวเองด้วยการขึ้นมือ 1 มาแล้วในปีนี้ รวมถึงได้แชมป์เมเจอร์ พีจีเอ แชมเปียนชิป กับสองรายการใหญ่ เดอะ บาร์เคลย์ส และ บีเอ็มดับเบิลยู แชมเปียนชิป เดือนที่แล้ว
ทั้งนี้ เดย์ ถือเป็นอีกหนึ่งไม้ตายสำคัญที่กัปตัน ไพรซ์ ส่งไปล่าสกอร์ และมีสิทธิ์จะได้เจอกับ สปีธ ในแมตช์ตัดสินด้วย ซึ่งเจ้าตัวก็บอกพร้อมแล้วที่จะได้เผชิญหน้ากับคู่แข่งคนสำคัญที่วัดกันมาตลอดทั้งปี “ผมไม่แน่ใจว่าเขา (ไพรซ์) จะส่งผมลงไปเจอกับ จอร์แดน หรือเปล่า? ทั้งหมดขึ้นอยู่กับว่าสกอร์ก่อนหน้าเป็นอย่างไร แต่ผมคิดว่า มันจะต้องสนุกแน่ เราต่างเล่นได้ดีปีนี้ และเชื่อว่าแฟนๆทั่วโลกคงอยากเห็นเหมือนกัน”
สำหรับผลการแข่งขันเมื่อจบวันแรก เป็นแชมป์เก่า ที่ออกนำไปก่อน 4-1 คู่ ในการดวลประเภทโฟร์ซัมส์ จาก 5 คู่ที่ลงสนาม ด้วยฝีมือของ บับบา วัตสัน-เจ.บี.โฮล์มส / ริคกี ฟาวเลอร์-จิมมี วอล์คเกอร์ / ฟิล มิคเคลสัน-แซค จอห์นสัน และ จอร์แดน สปีธ-ดัสติน จอห์นสัน ส่วนฝั่งนานาชาติ ชนะคู่เดียวคือ หลุยส์ อุสธุยเซน กับ แบรนเดน เกรซ ทว่าการต่อสู้ยังไม่จบเพียงเท่านี้เพราะยังเหลือให้ลุ้นกันต่ออีก 3 วัน ต้องดูว่าจะมีการพลิกล็อกเกิดขึ้นหรือไม่?
* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *