เบรนแดน ร็อดเจอร์ส กุนซือ ลิเวอร์พูล ยังออกอาการหน้าระรื่น ยันเสมอ อาร์เซนอล 0-0 ที่สนาม เอมิเรตส์ สเตเดียม ศึก พรีเมียร์ ลีก อังกฤษ เมื่อคืนวันจันทร์ที่ 24 สิงหาคม ที่ผ่านมา ขณะที่ อาร์แซน เวนเกอร์ นายใหญ่ชาวฝรั่งเศส ไม่พอใจที่ลูกทีมถูกปล้นประตูชัย
เวนเกอร์ วัย 65 ปี กล้ำกลืนยอมรับสภาพ หลัง อารอน แรมซีย์ มิดฟิลด์ชาวเวลส์ ส่งบอลสู่ก้นตาข่าย ตั้งแต่นาทีที่ 9 ของการแข่งขัน ถูกผู้ตัดสินปฏิเสธอย่างน่าเสียดาย เนื่องจากภาพรีเพลย์บ่งชี้ว่า อดีตนักเตะ คาร์ดิฟฟ์ ซิตี อยู่ไลน์เดียวกับ มาร์ติน สเคอร์เทล ที่ยืนเป็นตัวสุดท้าย
นับเป็นครั้งที่ 2 รอบ 7 วัน ซึ่ง ทีมจากย่านเมอร์ซีย์ไซด์ ได้รับประโยชน์จากการทำหน้าที่ของ ไลน์แมน นับตั้งแต่ คริสเตียน เบนเตเก หัวหอกชาวเบลเยียม ซัดประตูชัย ทั้งที่อยู่ในตำแหน่งล้ำหน้า เชือด บอร์นมัธ 1-0 ที่สนาม แอนฟิลด์ สัปดาห์ที่แล้ว (17 ส.ค.)
อดีตเทรนเนอร์ สวอนซี ซิตี กล่าวด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม “เสื้อของเขาดูเหมือนจะเหลื่อมอยู่นิดหน่อย นับเป็นการตัดสินใจอันยอดเยี่ยมของผู้กำกับเส้น”
ต่างจาก บิ๊กบอสเลือดน้ำหอม ที่เผยอย่างหัวเสีย “มันเป็นประตู ผมไม่เห็นเหตุผลใดที่ควรถูกยกเลิก มันขาวสะอาด ลิเวอร์พูล ไม่สามารถโต้แย้งใด ๆ หลังเกิดเรื่องสัปดาห์ที่แล้ว ผมเห็นกับตา เขา (แรมซีย์) ไม่ได้อยู่ตำแหน่งล้ำหน้า เพราะเขาทะลุขึ้นมาจากด้านหลัง ผมคิดว่ามุมกล้องโทรทัศน์น่าจะแตกต่างจากผู้กำกับเส้น แต่มันไม่ล้ำแน่นอน”
ถึงแม้จะเป็นเกมที่จบลงแบบไร้สกอร์ ผู้รักษาประตูทั้ง 2 ฝ่าย ต่างสวมบทฮีโร่ด้วยการโชว์ ซูเปอร์ เซฟ เริ่มจาก ซิมง มิโญเลต์ (ลิเวอร์พูล) ปัดลูกยิงระยะเผาขนของ โอลิวิเยร์ ชีรูด์ นาทีที่ 70 ส่วน ปีเตอร์ เช็ก (อาร์เซนอล) ปฏิเสธประตูของ ฟิลิปเป คูตินโญ และการชาร์จแบบจ่อ ๆ ของ เบนเตเก
Aron Ramsey offside Goal Arsenal vs Liverpool by gentaa
* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *