xs
xsm
sm
md
lg

“ดอย-ธฤติ” รักหมดใจ แข้งไทยวิถี “ไบค์เกอร์”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

วิถีไบค์เกอร์ของ “เจ้าดอย”
ASTV ผู้จัดการรายวัน – นักกีฬาส่วนใหญ่มักจะต้องงดงานอดิเรกที่ค่อนข้างเสี่ยงกับอาการบาดเจ็บ เนื่องจากอาจส่งผลกระทบกับอาชีพ ดีไม่ดีอาจถึงขั้นต้องเลิกเล่นหากรุนแรง ดังนั้นการบิดบมอเตอร์ไซค์แทบจะต้องบอกลาไปเลยก็ว่าได้ อย่างไรก็ตาม “เจ้าดอย” ธฤติ โนนศรีชัย ปราการหลังตัวเก๋าของ แบงค็อก ยูไนเต็ด ไม่อาจยับยั้งความชอบพร้อมก้าวสู่วิถีไบค์เกอร์ ถึงขนาดทุ่มทุนหลักล้านทำธุรกิจเปิดร้านขายบิ๊กไบค์เป็นของตัวเอง ซึ่งที่มาที่ไปจะเป็นอย่างไรนั้นติดตามได้ในบบรรทัดต่อจากนี้

ธฤติ ได้รับการยอมรับว่าเป็นกองหลังฝีเท้าดีคนหนึ่งของเมืองไทย ผ่านประสบการณ์กับสโมสรใหญ่มาโชกโชน ไม่ว่าจะเป็น บีอีซี เทโรศาสน, เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด, บางกอกกล๊าส เอฟซี และปัจจุบันในสีเสื้อ “แข้งเทพ” แบงค็อก ยูไนเต็ด ทว่าอีกภาคหนึ่งของชีวิตยามอยู่นอกสนาม เจ้าตัวเลือกที่จะปันใจให้กับโลกแห่งความเร็วสองล้อ โดยมี ดูคาติ จีที1000 (Ducati GT1000) เครื่องยนต์ 865 ซีซี เป็นม้าพยศคู่ใจ

เซ็นเตอร์ฮาล์ฟวัย 32 ปี ย้อนความให้ฟังว่าชื่นชอบในการขี่มอเตอร์ไซค์มาตั้งแต่เด็ก “เด็กผู้ชายเกือบทุกคนมักชื่นชอบรถแข่งหรือชอบความเร็วอยู่แล้ว ผมเองก็เช่นกัน ผมชอบขี่มอเตอร์ไซค์มาตั้งแต่เด็ก พอโตมาได้มีโอกาสไปสหรัฐอเมริกา ได้เห็นผู้คนขี่รถบิ๊กไบค์มากมายบนถนนแล้วชอบมาก ด้วยเสน่ห์และความเท่ของตัวรถ รวมถึงเสียงเครื่องยนต์ที่เป็นเอกลักษณ์ จึงตัดสินใจที่จะซื้อทันที คือ ดูคาติ มอนสเตอร์ เอส4 (Ducati Monster S4) ราคาประมาณ 4-5 แสนบาท โดยใช้เงินที่เราหามาได้จากการเล่นฟุตบอลด้วยตัวเอง เพราะผมไม่ได้ขอเงินที่บ้านมาตั้งแต่เรียนมหาวิทยาลัยแล้ว เมื่อได้มาก็เริ่มมีเพื่อนๆที่สนใจในเรื่องเดียวกัน รวมกลุ่มกันขี่ไปตามที่ต่างๆ”

อย่างไรก็ตาม ด้วยอาชีพหลักคือการเป็นนักกีฬา การต้องฝากชีวิตไว้บนอานสองล้อที่เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุได้ทุกเมื่อ จึงถูกมองว่าเป็นเรื่องที่ไม่ควรปฏิบัติ ซึ่ง "เจ้าดอย" ไม่ลืมในจุดนี้ “ผู้ใหญ่หลายคนเตือนผมถึงเรื่องนี้ แต่เรารู้ตัวว่าต้องทำอย่างไร งานหลักเราคือการเล่นฟุตบอล ต้องแบ่งเวลาไม่ให้กระทบกัน การขี่มอเตอร์ไซค์จึงเป็นเพียงงานอดิเรกยามว่างจากการซ้อม ที่ผ่านมาผมก็ไม่มีปัญหา ที่สำคัญผมจะใส่ชุดและอุปกรณ์ป้องกันครบถ้วนทุกครั้ง และไม่ได้ชอบขี่รถด้วยความเร็ว ชอบที่จะได้ออกทริปกับเพื่อนไปตามที่ต่างๆเท่านั้น โดยที่ไปบ่อยคือ สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี ส่วนที่ตั้งเป้าไว้หากมีเวลาว่างอยากจะลองขี่ไปเมืองจีนสักครั้ง”

นอกจากความหลงใหลส่วนตัวแล้ว กองหลังดีกรีทีมชาติไทยรายนี้ ยังต่อยอดจากงานอดิเรกไปสู่ธุรกิจ ด้วยการลงขันกับเพื่อนคอเดียวกัน ด้วยงบประมาณเกือบ 3 ล้านบาท เปิดร้านจำหน่ายมอเตอร์ไซค์และอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องทุกชนิด ชื่อร้าน “ไบค์ วาไรตี” (Bike Variety) ตั้งอยู่ในซอยรามคำแหง 112 โดย ธฤติ กล่าวว่า “หลังจากขี่มาสักพัก ก็เริ่มขายคันเดิมแล้วนำเงินมาเปลี่ยนรถใหม่ ผมกับเพื่อนอีกคนจึงตัดสินใจร่วมทุนเปิดร้านเป็นของตัวเองไปเลย เพื่อความน่าเชื่อถือเวลาขายของ โดยใช้บ้านเพื่อนเป็นหน้าร้าน เริ่มลงทุนจาก 1 ล้านบาท ก่อนขยับเพิ่มเป็นเกือบ 3 ล้านบาท โดยนอกจากตัวรถที่เรามีมาโชว์แล้ว ยังรับหารถตามออร์เดอร์ที่ลูกค้าอยากได้ ทั้งบิ๊กไบค์ทุกประเภท ตลอดจน ฮาร์เลย์-เดวิดสัน รวมถึงรับประกอบรถ ซ่อม หาอุปกรณ์และอะไหล่ต่างๆจากต่างประเทศด้วยช่นกัน ซึ่งเพื่อนจะเป็นคนดูแลทั้งหมด ส่วนตัวผมเน้นเรื่องการแนะนำลูกค้า และเปลี่ยนอะไหล่เล็กๆน้อยๆ”

“จุดประสงค์หลักคือเราทำเพราะใจรัก ไม่ใช่ทำเพราะเน้นด้านธุรกิจ เหมือนเป็นการที่เราจะได้ลองรถรุ่นต่างๆไปในตัวด้วย จึงไม่เน้นผลกำไรมากนัก ดังนั้นการันตีได้ว่าร้านเราจะถูกกว่าที่อื่นแน่นอน ที่สำคัญรถเราทุกคันสภาพดีเยี่ยม เพราะทางร้านจะตรวจเช็คและเปลี่ยนอุปกรณ์ทุกอย่างให้สมบูรณ์ เหมือนเราเป็นคนขี่เอง เพื่อที่ลูกค้าได้ไปแล้วจะไม่มีปัญหา” ธฤติ เน้น

ถึงกระนั้น “ดอย” ยอมรับว่าปัจจุบันธุรกิจนี้ไม่คล่องตัวนัก เนื่องจากมีการออกกฎหมาย มาตรา 44 ว่าด้วยเรื่องการควบคุมการปรับแต่งรถ รวมถึงผู้ประกอบการหลักหลายเจ้าเริ่มที่จะนำเข้าสินค้าประเภทเดียวกันมาจำหน่าย “เมื่อก่อนเรามีเงินทุนสามารถซื้อรถมาจอดโชว์รอบไม่ต่ำกว่าเกิน 10 คัน ขายได้ 3-4 คันต่อเดือน แต่ทุกวันนี้เหลือเพียง 5-6 คันเท่านั้น โดยบางเดือนขายไม่ได้เลยก็มี เพราะต้องยอมรับว่า แม้จะมีผู้สนใจขี่บิ๊กไบค์มากขึ้น แต่ก็มีผู้ขายมากขึ้นเช่นกัน โดยเฉพาะแบรนด์ดังๆที่เริ่มนำสินค้าเข้ามาจำหน่ายด้วยตัวเองแล้ว นอกจากนี้ยังมีกฎหมายควบคุมการปรับแต่งรถอีก จึงทำให้ธุรกิจติดขัดไปบ้าง แต่เรายังพออยู่ได้ เพราะนอกจากเงินที่ลงทุนไปก็ไม่มีค่าใช้จ่ายอะไรเพิ่มมาก เราทำเพราะความชอบและใจรักเป็นหลัก ส่วนอนาคตจะเป็นอย่างไรค่อยว่ากันอีกที”

เป็นที่ชัดเจนว่านอกจากชื่นชอบความเท่ตามกระแสแล้ว หากนักกีฬารายใดอยากที่จะก้าวมาคลุกคลีในวงการนี้ หรือหวังเลือกเป็นช่องทางในการทำมาหากินหลังรีไทร์ คงต้องศึกษาให้รอบคอบและมีใจรักอย่างมากด้วยเช่นกัน

* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *


เปิดร้าน “ไบค์ วาไรตี”
หลงเสน่ห์เครื่องยนต์
รับธุรกิจไม่คล่องตัว
กำลังโหลดความคิดเห็น