อังเคล ดิ มาเรีย เพลย์เมกเกอร์อาร์เจนไตน์ เข้าใกล้การเป็นสมาชิกใหม่ของ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง ค่าตัว 44.4 ล้านปอนด์ (ประมาณ 2.22 พันล้านบาท) ส่งผลให้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ขาดทุน หลังจากคว้าตัวมาจาก รีล มาดริด ทุบสถิติแพงสุดของเกาะอังกฤษ 59.7 ล้านปอนด์ (2.985 ล้านบาท) ทั้งนี้ “เดลี เมล” แท็บลอยด์หัวดังเมืองผู้ดี รวบรวม 10 การเซ็นสัญญามูลค่ามหาศาล ที่ทำเอาหลาย ๆ สโมสรต้องยอมกำขี้ดีกว่ากำตด
1. กาก้า (รีล มาดริด ปี 2009)
ซื้อ : 56 ล้านปอนด์ (2.8 พันล้านบาท) จาก เอซี มิลาน
ขาย : ฟรี ไป เอซี มิลาน
รีล มาดริด ตั้งความหวังอันสูงส่ง หลังเทพบุตรลูกหนังบราซิเลียน คว้า “บัลลง ดอร์” และนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีของ สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ แต่กลับถูก คริสเตียโน โรนัลโด ที่ย้ายจาก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ปีเดียวกัน กลบรัศมี ลงสนาม 120 เกม กระทุ้ง 29 ประตู ตลลอด 4 ปี ในถิ่น ซานติอาโก เบร์นาบิว
2. เฟร์นานโด ตอร์เรส (เชลซี ปี 2011)
ซื้อ : 50 ล้านปอนด์ (2.5 พันล้านบาท) จาก ลิเวอร์พูล
ขาย : ฟรี ไป เอซี มิลาน
สร้างสถิติค่าตัวแพงสุดของเกาะอังกฤษ ณ เวลานั้น หลังกลายเป็นขวัญใจของสาวก “เดอะ ค็อป” มานาน 4 ปี ไฮไลต์สำคัญ คือ การพังประตูช่วงทดเจ็บ รอบรองชนะเลิศ กับ บาร์เซโลนา ก่อนก้าวไปสู่ แชมป์ยูฟา แชมเปียนส์ ลีก สมัยแรก ปี 2012 ก่อนเซ็นสัญญาถาวรซบ เอซี มิลาน ซึ่งมีผล วันที่ 5 มกราคม 2015 จากนั้นก็ถูกปล่อยให้ แอตเลติโก มาดริด ยืมตัว 18 เดือน ยิง 3 ประตู (นับเฉพาะ ลา ลีกา) จาก 19 เกม
3. อังเดร เชฟเชนโก (เชลซี ปี 2006)
ซื้อ : 30.8 ล้านปอนด์ (1.54 พันล้านบาท)
ขาย : ฟรี ไป ดินาโม เคียฟ
เป็นหนึ่งในสุดยอดดาวยิงแห่งวงการลูกหนัง เมื่อย้ายสู่ถิ่น สแตมฟอร์ด บริดจ์ ด้วยสถิติค่าตัวแพงสุดของสโมสร เดือนพฤษภาคม ปี 2006 แต่ไม่สามารถฉายแววเฉกเช่นสมัยค้าแข้ง กัลโช เซเรีย อา คลำเป้าเจอ 9 ประตู าก 48 เกม ค่าเฉลี่ยการลงทุนต่อ 1 ประตู สูงถึง 3.4 ล้านปอนด์ (170 ล้านบาท)
4. แอนดี คาร์โรลล์ (ลิเวอร์พูล ปี 2011)
ซื้อ : 35 ล้านปอนด์ (1.75 พันล้านบาท) จาก นิวคาสเซิล
ขาย : 15.5 ล้านปอนด์ (775 ล้านบาท) ไป เวสต์ แฮม
ครองสถิติค่าตัวแพงสุดของสโมสรมาจนถึงปัจจุบัน ย้ายสูาถิ่น แอนฟิลด์ ช่วงเส้นตาย ตลาดนักเตะเดือนมกราคม ชนิดทุกคนต้องตาค้าง จอมถล่มประตูวัย 26 ปี ไม่อาจแบกรับความกดดันในการลงทุนมูลค่ามหาศาล มีปัญหาความฟิต ก่อนถูกปล่อยให้ เวสต์ แฮม ยูไนเต็ด ยืมตัว ปี 2012 และเซ็นสัญญาถาวรอีก 1 ปีต่อมา
5. อังเคล ดิ มาเรีย (แมนฯ ยูไนเต็ด ปี 2014)
ซื้อ : 59.7 ล้านปอนด์ (2.985 พันล้านบาท) จาก รีล มาดริด
ขาย : 44.4 ล้านปอนด์ (2.22 พันล้านบาท) ไป ปารีส แซงต์ แชร์กแมง (รอยืนยัน)
เพลย์เมกเกอร์วัย 27 ปี ไม่อาจรับมือความคาดหวังจากแฟน ๆ “เรด เดวิลส์” ในฐานะผู้สืบทอดตำนานเบอร์ 7 ทะลวงตาข่าย 4 ประตู (นับเฉพาะ พรีเมียร์ ลีก) ฤดูกาลที่แล้ว แม้แอสซิสต์ 12 ครั้ง รวมทุกรายการ แต่ไม่สามารถสร้างผลกำไรแก่ ยูไนเต็ด จากการย้ายสู่ถิ่น ปาร์ก เดส์ แปรงก์ส
6. โรบินโญ (แมนฯ ซิตี ปี 2008)
ซื้อ : 32.5 ล้านปอนด์ (1.625 พันล้านบาท) จาก รีล มาดริด
ขาย : 15 ล้านปอนด์ (750 ล้านบาท) ไป เอซี มิลาน
“เรือใบสีฟ้า” สู้อุตส่าห์ชิงตัดหน้า เชลซี คู่ปรับศึก พรีเมียร์ ลีก ทำสถิติค่าตัวแพงสุดของเกาะอังกฤษ ปี 2008 แต่ไม่อาจเค้นฟอร์มดังที่ถูกยกย่องว่า “นิว เปเล” มีปํญหาด้านการปรับตัวกับ ไลฟ์สไตล์ เมืองแมนเชสเตอร์ ก่อนย้ายซบ เอซี มิลาน อีก 2 ปีต่อมา
7. เอ็มมานูเอล อเดบายอร์ (แมนฯ ซิตี ปี 2009)
ซื้อ : 25 ล้านปอนด์ (1.25 พันล้านบาท) จาก อาร์เซนอล
ขาย : 5 ล้านปอนด์ (250 ล้านบาท) ไป สเปอร์ส
ย้ายเข้ารัง เอติฮัด สเตเดียม สัญญา 5 ปี หลังโชว์ฟอร์มเด่น สมัยรับใช้ “เดอะ กันเนอร์ส” ทว่าผลงานไม่เป็นที่ประทับใจ ถูกปล่อยให้ รีล มาดริด และ ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ ยืมตัว ตามลำดับ ก่อนร่วมทัพ “ไก่เดือยทอง” ปี 2012 ทำเอา “เรือใบสีฟ้า” ต้องยอมรับผลขาดทุน 20 ล้านปอนด์ (1 พันล้านบาท)
8. ฮวน เซบาสเตียน เวรอน (แมนฯ ยูไนเต็ด ปี 2001)
ซื้อ : 28.1 ล้านปอนด์ (1.405 พันล้านบาท) จาก ลาซิโอ
ขาย : 15 ล้านปอนด์ (750 ล้านบาท) ไป เชลซี
การลงทุน 28.1 ล้านปอนด์ กับ แข้งเปี่ยมพรสวรรค์สูง ทุบสถิติเดิมของเกาะอังกฤษ ของ อลัน เชียร์เรอร์ ที่ทำไว้ 15 ล้านปอนด์ เมื่อปี 1996 แม้จะช่วย “ปิศาจแดง” ครองแชมป์ พรีเมียร์ ลีก ปี 2003 ก่อนย้ายไป เชลซี แต่ก็ไม่ใช่นักเตะที่จะตราตรึงอยู่ในความทรงจำของเหล่าสาวก “เรด เดวิลส์”
9. คาร์ลอส เตเบซ (แมนฯ ซิตี ปี 2009)
ซื้อ : 25.5 ล้านปอนด์ (1.275 พันล้านบาท) จาก แมนฯ ยูไนเต็ด
ขาย : 12 ล้านปอนด์ (600 ล้านบาท) ไป ยูเวนตุส
กลายเป็นที่จงเกลียดจงชัง หลังถูก ยูไนเต็ด เมินเซ็นสัญญาถาวร เมื่อปี 2009 ซบ แมนฯ ซิตี ทุบสถิติยิงประตูครบ 50 ตุง เร็วสุด เพียง 73 เกม จนขึ้นแท่นขวัญใจกองเชียร์ “เดอะ ซิติเซนส์” ก่อนมีปัญหาขัดแย้งกับผู้จัดการทีม และสโมสรหลายครั้ง แม้จะเป็นกำลังสำคัญของ ซิตี แต่ราคาขายต่อยังขาดทุนมากกว่า 13 ล้านปอนด์ (650 ล้านบาท)
10. ดิมิตาร์ เบอร์บาตอฟ (แมนฯ ยูไนเต็ด ปี 2008)
ซื้อ : 30.75 ล้านปอนด์ (1.538 พันล้านบาท) จาก สเปอร์ส
ขาย : 5 ล้านปอนด์ (250 ล้านบาท) ไป ฟูแลม
ผ่านทั้งจุดสูงสุดคว้า ดาวซัลโว พรีเมียร์ ลีก ปี 2011 กระทุ้ง 20 ประตู จาก 32 เกม พาทีมครองแชมป์ ปี 2009 และ ลีก คัพ ปี 2010 สถานการณ์พลิกผัน เมื่อกลายเป็นเพียงตัวเลือกอันดับรอง ๆ และสูญเสียความไว้เนื้อเชื่อใจจาก เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน แต่ก็ถือว่า เป็นการลงทุนก้อนโตที่ประสบความสำเร็จมากกว่าคนอื่น ๆ
* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *
1. กาก้า (รีล มาดริด ปี 2009)
ซื้อ : 56 ล้านปอนด์ (2.8 พันล้านบาท) จาก เอซี มิลาน
ขาย : ฟรี ไป เอซี มิลาน
รีล มาดริด ตั้งความหวังอันสูงส่ง หลังเทพบุตรลูกหนังบราซิเลียน คว้า “บัลลง ดอร์” และนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีของ สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ แต่กลับถูก คริสเตียโน โรนัลโด ที่ย้ายจาก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ปีเดียวกัน กลบรัศมี ลงสนาม 120 เกม กระทุ้ง 29 ประตู ตลลอด 4 ปี ในถิ่น ซานติอาโก เบร์นาบิว
2. เฟร์นานโด ตอร์เรส (เชลซี ปี 2011)
ซื้อ : 50 ล้านปอนด์ (2.5 พันล้านบาท) จาก ลิเวอร์พูล
ขาย : ฟรี ไป เอซี มิลาน
สร้างสถิติค่าตัวแพงสุดของเกาะอังกฤษ ณ เวลานั้น หลังกลายเป็นขวัญใจของสาวก “เดอะ ค็อป” มานาน 4 ปี ไฮไลต์สำคัญ คือ การพังประตูช่วงทดเจ็บ รอบรองชนะเลิศ กับ บาร์เซโลนา ก่อนก้าวไปสู่ แชมป์ยูฟา แชมเปียนส์ ลีก สมัยแรก ปี 2012 ก่อนเซ็นสัญญาถาวรซบ เอซี มิลาน ซึ่งมีผล วันที่ 5 มกราคม 2015 จากนั้นก็ถูกปล่อยให้ แอตเลติโก มาดริด ยืมตัว 18 เดือน ยิง 3 ประตู (นับเฉพาะ ลา ลีกา) จาก 19 เกม
3. อังเดร เชฟเชนโก (เชลซี ปี 2006)
ซื้อ : 30.8 ล้านปอนด์ (1.54 พันล้านบาท)
ขาย : ฟรี ไป ดินาโม เคียฟ
เป็นหนึ่งในสุดยอดดาวยิงแห่งวงการลูกหนัง เมื่อย้ายสู่ถิ่น สแตมฟอร์ด บริดจ์ ด้วยสถิติค่าตัวแพงสุดของสโมสร เดือนพฤษภาคม ปี 2006 แต่ไม่สามารถฉายแววเฉกเช่นสมัยค้าแข้ง กัลโช เซเรีย อา คลำเป้าเจอ 9 ประตู าก 48 เกม ค่าเฉลี่ยการลงทุนต่อ 1 ประตู สูงถึง 3.4 ล้านปอนด์ (170 ล้านบาท)
4. แอนดี คาร์โรลล์ (ลิเวอร์พูล ปี 2011)
ซื้อ : 35 ล้านปอนด์ (1.75 พันล้านบาท) จาก นิวคาสเซิล
ขาย : 15.5 ล้านปอนด์ (775 ล้านบาท) ไป เวสต์ แฮม
ครองสถิติค่าตัวแพงสุดของสโมสรมาจนถึงปัจจุบัน ย้ายสูาถิ่น แอนฟิลด์ ช่วงเส้นตาย ตลาดนักเตะเดือนมกราคม ชนิดทุกคนต้องตาค้าง จอมถล่มประตูวัย 26 ปี ไม่อาจแบกรับความกดดันในการลงทุนมูลค่ามหาศาล มีปัญหาความฟิต ก่อนถูกปล่อยให้ เวสต์ แฮม ยูไนเต็ด ยืมตัว ปี 2012 และเซ็นสัญญาถาวรอีก 1 ปีต่อมา
5. อังเคล ดิ มาเรีย (แมนฯ ยูไนเต็ด ปี 2014)
ซื้อ : 59.7 ล้านปอนด์ (2.985 พันล้านบาท) จาก รีล มาดริด
ขาย : 44.4 ล้านปอนด์ (2.22 พันล้านบาท) ไป ปารีส แซงต์ แชร์กแมง (รอยืนยัน)
เพลย์เมกเกอร์วัย 27 ปี ไม่อาจรับมือความคาดหวังจากแฟน ๆ “เรด เดวิลส์” ในฐานะผู้สืบทอดตำนานเบอร์ 7 ทะลวงตาข่าย 4 ประตู (นับเฉพาะ พรีเมียร์ ลีก) ฤดูกาลที่แล้ว แม้แอสซิสต์ 12 ครั้ง รวมทุกรายการ แต่ไม่สามารถสร้างผลกำไรแก่ ยูไนเต็ด จากการย้ายสู่ถิ่น ปาร์ก เดส์ แปรงก์ส
6. โรบินโญ (แมนฯ ซิตี ปี 2008)
ซื้อ : 32.5 ล้านปอนด์ (1.625 พันล้านบาท) จาก รีล มาดริด
ขาย : 15 ล้านปอนด์ (750 ล้านบาท) ไป เอซี มิลาน
“เรือใบสีฟ้า” สู้อุตส่าห์ชิงตัดหน้า เชลซี คู่ปรับศึก พรีเมียร์ ลีก ทำสถิติค่าตัวแพงสุดของเกาะอังกฤษ ปี 2008 แต่ไม่อาจเค้นฟอร์มดังที่ถูกยกย่องว่า “นิว เปเล” มีปํญหาด้านการปรับตัวกับ ไลฟ์สไตล์ เมืองแมนเชสเตอร์ ก่อนย้ายซบ เอซี มิลาน อีก 2 ปีต่อมา
7. เอ็มมานูเอล อเดบายอร์ (แมนฯ ซิตี ปี 2009)
ซื้อ : 25 ล้านปอนด์ (1.25 พันล้านบาท) จาก อาร์เซนอล
ขาย : 5 ล้านปอนด์ (250 ล้านบาท) ไป สเปอร์ส
ย้ายเข้ารัง เอติฮัด สเตเดียม สัญญา 5 ปี หลังโชว์ฟอร์มเด่น สมัยรับใช้ “เดอะ กันเนอร์ส” ทว่าผลงานไม่เป็นที่ประทับใจ ถูกปล่อยให้ รีล มาดริด และ ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ ยืมตัว ตามลำดับ ก่อนร่วมทัพ “ไก่เดือยทอง” ปี 2012 ทำเอา “เรือใบสีฟ้า” ต้องยอมรับผลขาดทุน 20 ล้านปอนด์ (1 พันล้านบาท)
8. ฮวน เซบาสเตียน เวรอน (แมนฯ ยูไนเต็ด ปี 2001)
ซื้อ : 28.1 ล้านปอนด์ (1.405 พันล้านบาท) จาก ลาซิโอ
ขาย : 15 ล้านปอนด์ (750 ล้านบาท) ไป เชลซี
การลงทุน 28.1 ล้านปอนด์ กับ แข้งเปี่ยมพรสวรรค์สูง ทุบสถิติเดิมของเกาะอังกฤษ ของ อลัน เชียร์เรอร์ ที่ทำไว้ 15 ล้านปอนด์ เมื่อปี 1996 แม้จะช่วย “ปิศาจแดง” ครองแชมป์ พรีเมียร์ ลีก ปี 2003 ก่อนย้ายไป เชลซี แต่ก็ไม่ใช่นักเตะที่จะตราตรึงอยู่ในความทรงจำของเหล่าสาวก “เรด เดวิลส์”
9. คาร์ลอส เตเบซ (แมนฯ ซิตี ปี 2009)
ซื้อ : 25.5 ล้านปอนด์ (1.275 พันล้านบาท) จาก แมนฯ ยูไนเต็ด
ขาย : 12 ล้านปอนด์ (600 ล้านบาท) ไป ยูเวนตุส
กลายเป็นที่จงเกลียดจงชัง หลังถูก ยูไนเต็ด เมินเซ็นสัญญาถาวร เมื่อปี 2009 ซบ แมนฯ ซิตี ทุบสถิติยิงประตูครบ 50 ตุง เร็วสุด เพียง 73 เกม จนขึ้นแท่นขวัญใจกองเชียร์ “เดอะ ซิติเซนส์” ก่อนมีปัญหาขัดแย้งกับผู้จัดการทีม และสโมสรหลายครั้ง แม้จะเป็นกำลังสำคัญของ ซิตี แต่ราคาขายต่อยังขาดทุนมากกว่า 13 ล้านปอนด์ (650 ล้านบาท)
10. ดิมิตาร์ เบอร์บาตอฟ (แมนฯ ยูไนเต็ด ปี 2008)
ซื้อ : 30.75 ล้านปอนด์ (1.538 พันล้านบาท) จาก สเปอร์ส
ขาย : 5 ล้านปอนด์ (250 ล้านบาท) ไป ฟูแลม
ผ่านทั้งจุดสูงสุดคว้า ดาวซัลโว พรีเมียร์ ลีก ปี 2011 กระทุ้ง 20 ประตู จาก 32 เกม พาทีมครองแชมป์ ปี 2009 และ ลีก คัพ ปี 2010 สถานการณ์พลิกผัน เมื่อกลายเป็นเพียงตัวเลือกอันดับรอง ๆ และสูญเสียความไว้เนื้อเชื่อใจจาก เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน แต่ก็ถือว่า เป็นการลงทุนก้อนโตที่ประสบความสำเร็จมากกว่าคนอื่น ๆ
* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *