ตัวตนจริง “เจนเนอร์” เพศที่สามไม่ต้องอาย

ASTV ผู้จัดการรายวัน – ปัจจุบันสังคมโลกเริ่มเปิดรับการมีอยู่ของบุคคลที่เป็น “เพศที่สาม” มากขึ้น เห็นได้ชัดตั้งแต่เริ่มมีคนที่มีชื่อเสียงในวงการกล้าที่จะเปิดเผยรสนิยมทางเพศที่ซ่อนอยู่หลายราย ไม่เว้นวงการกีฬาซึ่งรายล่าสุดก็เป็นคิวของ บรูซ เจนเนอร์ เจ้าของเหรียญทองโอลิมปิก 1976 ที่มอนทรีออล สหรัฐอเมริกา ยอมเปิดใจผ่านนิตยสาร วานิตี แฟร์ ชนิดแบบหมดเปลือกพร้อมเซ็ตแฟชั่นที่แต่งกายเป็นหญิงเต็มตัวจนเป็นที่ฮือฮาของวงการกีฬาอเมริกัน

อดีตฮีโร่ของอเมริกันชน ผู้สร้างชื่อคว้าเหรียญทองกีฬาห้าห่วง ประเภททศกรีฑา เมื่อ 39 ปีที่แล้ว และประสบความสำเร็จในชีวิตมากมายทั้งด้านกีฬาและวงการบันเทิง ขณะที่ชีวิตครอบครัวก็อยู่กินแต่งงานกับ คริส คาร์ดาเชียน ไฮโซนักธุรกิจหญิงและมีลูกด้วยกันหลายคนไล่ตั้งแต่ แบรนดอน, โบรดี, เคนดัล และ ไคลีย์ เรียกได้ว่ามีชีวิตที่เพียบพร้อมไปเสียทุกอย่าง ทว่าก็ต้องเก็บความลับที่ตัวเองมีรสนิยมทางเพศที่เบี่ยงเบนเอาไว้ในใจอย่างอึดอัดเพียงคนเดียว

เจนเนอร์ ปัจจุบันวัย 65 ปี เริ่มเปิดใจเล่าผ่านสื่อว่ารู้สึกมีความผิดปกติเกี่ยวกับฮอร์โมนเพศมาตั้งแต่เด็ก ถึงขนาดบอกตัวเองว่าเป็นผู้หญิงไม่ใช่ผู้ชาย และเคยแต่งตัวใส่กระโปรงอยู่ในบ้านมานานหลายปี ทว่าเมื่อถึงวันที่มีชื่อเสียงกลายเป็นคนของประชาชนไปแล้วจึงต้องเลิกใส่และเริ่มเข้ารับการบำบัดก่อนจะเริ่มคบหากับ คริส เมื่อปี 1990 ทว่าไม่เป็นผลแถมยังมีความต้องการเป็นผู้หญิงแรงขึ้นเรื่อยๆถึงขั้นทานฮอร์โมนเพศหญิงทุกวันพร้อมวางแผนผ่าตัดแปลงเพศเมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม

ตำนานนักกีฬาแห่งเมืองลุงแซม กล่าวว่าช่วงก่อนเข้ารับการผ่าตัดแปลงเพศรู้สึกเครียดและไม่อยากตื่นขึ้นมายืนหน้ากระจกถ้าไม่จำเป็น เพราะทำให้นึกถึงชายที่ชื่อ บรูซ ซึ่งนั่นไม่ใช่ตัวตนที่แท้จริงเลยสักนิด “ช่วงนั้นผมแทบไม่อยากตื่นขึ้นมาเลย ผมเดินไปที่กระจกหลังจากแต่งตัวเสร็จเรียบร้อยแล้ว รู้สึกแปลกๆที่เห็นชายที่ชื่อ บรูซ อยู่ตรงหน้า ผมถึงกับสบถด่าตัวเองว่าผมไม่ใช่ บรูซ มันประหลาดเหลือเกินที่ต้องเห็นภาพแบบนี้ซ้ำๆ”

ขณะที่ความสัมพันธ์ในครอบครัว เจนเนอร์ เล่าว่าทุกคนต่างรู้ความจริงกันหมดตั้งแต่ภรรยาเก่ารวมถึง คริส และลูกๆทั้งหมด โดยเฉพาะ คิม คาร์ดาเชียน ลูกเลี้ยงคนดังที่เห็นกระทั่งตอนที่กำลังแต่งตัวเป็นผู้หญิงอยู่ในห้อง เช่นเดียวกับอดีตภรรยาทั้งสอง คริสตี กับ ลินดา เพียงแต่โชคดีที่ทุกคนรับได้โดยไม่มีใครแสดงท่าทีรังเกียจ กระทั่ง โคลอี ลูกเลี้ยงที่เกิดจาก คริส กับสามีคนเก่า ที่ตอนแรกยังทำใจไม่ได้เมื่อรู้ว่าพ่อบุญธรรมของเริ่มเปิดเผยตัวตนที่ถูกเก็บซ่อนไว้ตั้งแต่อดีตออกมา ก็เริ่มยอมรับได้บ้างแล้วเหมือนกัน

บรูซ มองว่าสิ่งที่ทำให้ตนเป็นเช่นนี้คือความผิดพลาดที่เกิดขึ้นโดยธรรมชาติ ไม่ได้เกิดขึ้นจากการเลี้ยงดูครอบครัว ขณะที่พี่สาวอย่าง แพม ก็เข้าใจความต้องการของตนดีจึงไม่ได้คัดค้านเรื่องการผ่าตัดแต่อย่างใด จนกระทั่งเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา อดีตนักกรีฑาผู้ยิ่งใหญ่ก็ได้เปลี่ยนตัวเองเป็นผู้หญิงเต็มตัว กำเนิดใหม่ในชื่อ แคทลีน ก่อนถ่ายแฟชั่นเซ็ตให้ วานิตี แฟร์ และปฏิเสธการออกสัมภาษณ์สื่ออีกโดยให้เหตุผลว่าต้องการความเป็นส่วนตัวและอยากอยู่กับครอบครัวเท่านั้น

ด้วยความกล้าหาญเช่นนี้ ทำให้ล่าสุด แคทลีน ได้รับรางวัลเกียรติยศ อาร์เธอร์ แอช จากสื่อกีฬาดังอย่าง ESPN โดยงานนี้สวมชุดเดรสสีขาวเป็นผู้หญิงเต็มตัวเดินขึ้นไปรับรางวัลบนเวที พร้อมเรียกร้องให้ชาวอเมริกันและคนทั่วโลกเปิดใจยอมรับให้เกียรติแก่ผู้ที่มีรสนิยมเพศแตกต่าง ก่อนเตรียมถ่ายทำสารคดีของตัวเองออกมาเพื่อเป็นกำลังใจให้กับชาวสีม่วง ได้ลุกขึ้นมาประกาศตัวตนที่แท้จริงโดยไม่ต้องกลัวสังคมต่อต้านเหมือนในอดีตอีกต่อไป

“ฉันเคยมาร่วมงานมอบรางวัล อีเอสพีวาย อวอร์ดส อยู่หลายครั้ง เคยคิดเหมือนกันว่าหากทำอะไรสักอย่างที่สามารถเปลี่ยนแปลงโลกได้ จะมีสิทธิ์ได้รับรางวัลบ้างหรือไม่? อยากบอกว่ามันไม่ง่ายเลยกับสิ่งที่ทำ แต่มาถึงวันนี้ฉันรู้สึกมีความสุขจริงๆที่ได้ยืนอยู่บนจุดนี้ ได้รับการยอมรับจากทุกคน รวมถึงครอบครัวและลูกๆด้วย” บรูซ หรือวันนี้ในชื่อ แคทลีน ทิ้งท้าย

เรื่องโดย : วัลลภ สวัสดี

* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *