คอลัมน์ “ริงไซด์ ไฟต์คลับ” โดย “ลักษมณ์ นันทิวัชรินทร์”
ผ่านพ้นไปเรียบร้อยสำหรับการป้องกันเข็มขัดแชมป์โลก ”ไฟต์บังคับ” รุ่นฟลายเวทของ สถาบันไอบีเอฟ ของ “เจ้าเพชร” อำนาจ เกษตรพัฒนา ขวัญใจคนใหม่ของชาวไทย เจอศึกหนักกับนักชกฟิลิปปินส์รองแชมป์โลกอันดับ 1 จอห์น รีล คาซิเมโร เจ้าของสถิติอันตรายชก 23 ชนะ 21 เป็นการชนะน็อกซะ 13 แพ้เพียงแค่ 2 ไฟต์ แถมเคยเป็นแชมป์โลกรุ่นไลท์ฟลายเวทของสถาบันเดียวกันมาแล้ว
คู่ชกอันตรายขนาดนี้ทีมงาน “เกียรติกรีรินทร์” เลยลงทุนดึงมาชกในบ้านเรา แถมเลือกสังเวียนที่เป็นที่ขีดเขียนประวัติศาสตร์มวยโลกของไทยมาแล้วหลายสมัยอย่าง “อินดอร์ สเตเดียม” หัวหมาก เป็นสถานที่ชก ลงทุนจัดชกช่วงเวลา “ไพรม์ไทม์” คือช่วงหกโมงเย็นถึงสองทุ่ม ไม่ให้เป็นที่ครหาว่าเป็น “มวยโลกเที่ยงวัน” หรือ “มวยโลกบ่ายสอง” อีกแล้ว แถมจัดระดับอินเตอร์แสงสีเสียงตระการตา แหวกม่านประเพณีบ้านเราด้วยการมี “ริงกิร์ล” ขึ้นไปเดินชูป้ายบอกยกรอบเวทีจริงๆ เรียกเสียงฮือฮาจากแฟนมวยได้ไม่เบา
การชกไฟต์นี้ยืดเยื้อไปจนครบยก เพราะแชมป์โลกชาวไทยไฟต์นี้ชกแบบระวังตัวจนออกจะเกร็งๆ แถมใช้กลยุทธ์ทุกรูปแบบเพื่อทำลายจังหวะและสร้างความอึดอัดให้กับผู้ท้าชิง ไม่ว่าจะเป็นหนีบหมัด กดคอ หัก เหวี่ยง ทุ่ม โดนกรรมการตัดคะแนนไป 1 คะแนนในช่วงยก 11 ให้แฟนๆ ลุ้นมากขึ้นไปอีก แต่เล่นเอาจอมลุยจากฟิลิปปินส์ไปไม่เป็น แม้จะพยายามงัดลูกตุกติกออกมาใช้ ไม่ว่าจะเป็นลูกตามน้ำหลังระฆังหมดยกแล้ว ต่อยต่ำ หรือแม้แต่ชักศอกกระทุ้งใส่ดื้อๆ ช่วงท้ายยก 12 สุดท้ายทำอะไรแชมป์โลกชาวไทยไม่ได้ แถมโดนหมัดที่ว่าไม่หนักๆ ของอำนาจ ร่วงลงไปให้กรรมการนับ 8 ถึง 2 หนในยกที่ 2 และยก 7 พ่ายคะแนนไปแบบเอกฉันท์ 3 เสียงรวด แต่คะแนนมีใกล้เคียงกันให้แฟนมวยชาวไทยหวาดเสียวเล็กน้อยเหมือนกัน 116-110, 113-112 และ 115-110
รูปเกมการชกในไฟต์นี้ต้องยอมรับว่าอึดอัดและไม่สนุกจริงๆ เพราะ “เจ้าเพชร” นั้นชกไม่ลื่นไหลอย่างที่เคยเห็น ออกหมัดน้อยมาก มีแต่เข้ากอดหนีบหมัดและจับทุ่มจับหัก จนคิดว่าซ้อมเตรียมไปเอาดีในศิลปะการต่อสู้แบบผสม MMA ซะอีก ส่วนผู้ท้าชิงก็เหวี่ยงหมัดวืดวาดไปมา
จบเกมการชก อำนาจ ก็ยอมรับว่าชกวันนี้เกร็งไปเยอะ เพราะผู้ท้าชิงก็มีพลังหมัดน่ากลัว และมีลูกตุกติกเยอะ แถมเกร็งกับสภาพแวดล้อมที่ขึ้นชกบนสังเวียนระดับตำนานแบบนี้อีก ก็ต้องถือเป็นบทเรียนสำหรับแชมป์โลกชาวไทยและทีมงาน ที่คงต้องเตรียมตัวให้ดีกว่านี้ ชกเอาชนะคู่ต่อสู้ได้นั้นดีแน่ แต่ถ้าเอาชนะโดยแทบไม่ชกมัวแต่ไปเล่นเกมกับเขาแบบนี้โอกาสที่จะก้าวขึ้นสู่การเป็นแชมป์โลกระดับ “ตำนาน” อย่างแชมป์โลกหลายๆ คนที่เคยผ่านสังเวียน “อินดอร์ สเตเดียม” แห่งนี้มาก็น่าเป็นห่วง
* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!***
ผ่านพ้นไปเรียบร้อยสำหรับการป้องกันเข็มขัดแชมป์โลก ”ไฟต์บังคับ” รุ่นฟลายเวทของ สถาบันไอบีเอฟ ของ “เจ้าเพชร” อำนาจ เกษตรพัฒนา ขวัญใจคนใหม่ของชาวไทย เจอศึกหนักกับนักชกฟิลิปปินส์รองแชมป์โลกอันดับ 1 จอห์น รีล คาซิเมโร เจ้าของสถิติอันตรายชก 23 ชนะ 21 เป็นการชนะน็อกซะ 13 แพ้เพียงแค่ 2 ไฟต์ แถมเคยเป็นแชมป์โลกรุ่นไลท์ฟลายเวทของสถาบันเดียวกันมาแล้ว
คู่ชกอันตรายขนาดนี้ทีมงาน “เกียรติกรีรินทร์” เลยลงทุนดึงมาชกในบ้านเรา แถมเลือกสังเวียนที่เป็นที่ขีดเขียนประวัติศาสตร์มวยโลกของไทยมาแล้วหลายสมัยอย่าง “อินดอร์ สเตเดียม” หัวหมาก เป็นสถานที่ชก ลงทุนจัดชกช่วงเวลา “ไพรม์ไทม์” คือช่วงหกโมงเย็นถึงสองทุ่ม ไม่ให้เป็นที่ครหาว่าเป็น “มวยโลกเที่ยงวัน” หรือ “มวยโลกบ่ายสอง” อีกแล้ว แถมจัดระดับอินเตอร์แสงสีเสียงตระการตา แหวกม่านประเพณีบ้านเราด้วยการมี “ริงกิร์ล” ขึ้นไปเดินชูป้ายบอกยกรอบเวทีจริงๆ เรียกเสียงฮือฮาจากแฟนมวยได้ไม่เบา
การชกไฟต์นี้ยืดเยื้อไปจนครบยก เพราะแชมป์โลกชาวไทยไฟต์นี้ชกแบบระวังตัวจนออกจะเกร็งๆ แถมใช้กลยุทธ์ทุกรูปแบบเพื่อทำลายจังหวะและสร้างความอึดอัดให้กับผู้ท้าชิง ไม่ว่าจะเป็นหนีบหมัด กดคอ หัก เหวี่ยง ทุ่ม โดนกรรมการตัดคะแนนไป 1 คะแนนในช่วงยก 11 ให้แฟนๆ ลุ้นมากขึ้นไปอีก แต่เล่นเอาจอมลุยจากฟิลิปปินส์ไปไม่เป็น แม้จะพยายามงัดลูกตุกติกออกมาใช้ ไม่ว่าจะเป็นลูกตามน้ำหลังระฆังหมดยกแล้ว ต่อยต่ำ หรือแม้แต่ชักศอกกระทุ้งใส่ดื้อๆ ช่วงท้ายยก 12 สุดท้ายทำอะไรแชมป์โลกชาวไทยไม่ได้ แถมโดนหมัดที่ว่าไม่หนักๆ ของอำนาจ ร่วงลงไปให้กรรมการนับ 8 ถึง 2 หนในยกที่ 2 และยก 7 พ่ายคะแนนไปแบบเอกฉันท์ 3 เสียงรวด แต่คะแนนมีใกล้เคียงกันให้แฟนมวยชาวไทยหวาดเสียวเล็กน้อยเหมือนกัน 116-110, 113-112 และ 115-110
รูปเกมการชกในไฟต์นี้ต้องยอมรับว่าอึดอัดและไม่สนุกจริงๆ เพราะ “เจ้าเพชร” นั้นชกไม่ลื่นไหลอย่างที่เคยเห็น ออกหมัดน้อยมาก มีแต่เข้ากอดหนีบหมัดและจับทุ่มจับหัก จนคิดว่าซ้อมเตรียมไปเอาดีในศิลปะการต่อสู้แบบผสม MMA ซะอีก ส่วนผู้ท้าชิงก็เหวี่ยงหมัดวืดวาดไปมา
จบเกมการชก อำนาจ ก็ยอมรับว่าชกวันนี้เกร็งไปเยอะ เพราะผู้ท้าชิงก็มีพลังหมัดน่ากลัว และมีลูกตุกติกเยอะ แถมเกร็งกับสภาพแวดล้อมที่ขึ้นชกบนสังเวียนระดับตำนานแบบนี้อีก ก็ต้องถือเป็นบทเรียนสำหรับแชมป์โลกชาวไทยและทีมงาน ที่คงต้องเตรียมตัวให้ดีกว่านี้ ชกเอาชนะคู่ต่อสู้ได้นั้นดีแน่ แต่ถ้าเอาชนะโดยแทบไม่ชกมัวแต่ไปเล่นเกมกับเขาแบบนี้โอกาสที่จะก้าวขึ้นสู่การเป็นแชมป์โลกระดับ “ตำนาน” อย่างแชมป์โลกหลายๆ คนที่เคยผ่านสังเวียน “อินดอร์ สเตเดียม” แห่งนี้มาก็น่าเป็นห่วง
* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!***