คอลัมน์ “ริงไซด์ ไฟต์คลับ” โดย “ลักษมณ์ นันทิวัชรินทร์”
แฟนๆ ศิลปะการต่อสู้แบบผสมรุ่นใหญ่หลายๆ ท่าน น่าจะจำสุดยอดฝีมือระดับ “ฮอล ออฟ เฟม” ของการต่อสู้ในแบบนี้เมื่อร่วมๆ 20 ปีก่อนอย่าง “เคน แชมร็อก” ที่เคยสร้างตำนานเป็นคู่รักคู่แค้นกับ “รอยซ์ เกรซี” สุดยอดฝีมือจากตระกูล “เกรซี” ตั้งแต่ประเดิมรายการ UFC 1 มาเลยทีเดียว ซึ่งเป็นจุดกำเนิดให้รายการ UFC กลายเป็นสถาบันศิลปะการต่อสู้แบบผสมที่ใหญ่ที่สุดและได้รับความนิยมสูงสุดทุกวันนี้
เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (19 มิ.ย.) เคน แชมร็อก ในวัย 51 ปี ได้ฤกษ์หวนคืนเวทีศิลปะการต่อสู้แบบผสมอีกครั้ง แต่คราวนี้เป็นรายการ Bellator 138 หลังจากห่างหายจากเวทีกรงเหล็กไป 5 ปีด้วยกัน โดยครั้งนี้ “ป๋าเคน” พกสถิติ สู้ 45 ไฟต์ ชนะ 28 แพ้ 15 และเสมออีก 2 ไฟต์ ขึ้นเวทีพบกับนักสู้มากสีสันอย่าง คิมโบ สไลซ์ ที่อ่อนวัยกว่าถึง 10 ปี คืออายุ 41 ปี สถิติในการต่อสู้แบบศิลปะการต่อสู้แบบผสมแค่ 6 ไฟต์ ชนะ 4 แพ้ 2 เรียกว่าสวยงามไม่เลว แต่น้อยไปหน่อยสำหรับนักสู้วัยขนาดนี้
แต่ คิมโบ สไลซ์ นั้นโด่งดังจากการต่อสู้แบบ “สตรีทไฟต์” คือนักสู้ข้างถนน หรือแบบใต้ดิน มีคลิปใน Youtube แฟนๆ ลองหาดูกันได้ แถมเคยขึ้นชกมวยสากลอาชีพ หวังเอาดีในรุ่นเฮฟวีเวทมาแล้ว แถมทำได้ดีซะด้วยชก 7 ไฟต์ ชนะรวด 7 ไฟต์ น็อกซะ 6 ไฟต์ ขนาด รอย โจนส์ จูเนียร์ นักชกระดับตำนานยังเคยสนใจจะขึ้นชกด้วยมาแล้ว แต่บอกให้ไปเสริมกระดูกให้มากกว่านี้ซะก่อน ไปๆ มาๆ เลยไม่ได้เจอกัน จากนั้น คิมโบ สไลซ์ ก็ร้างเวทีไปร่วมๆ 5 ปีเรียกว่าสนิมเขรอะพอๆ กัน
คู่นี้เคยกำหนดขึ้นฟัดกันมาแล้วเมื่อ 7 ปีที่แล้ว ตอนนั้น เคน แชมร็อก ก็ยังไม่หง่อมขนาดนี้ ส่วน คิมโบ สไลซ์ ก็กำลังห้าวเลยทีเดียว แต่ก่อนกำหนดการต่อสู้ไม่นาน “ป๋าเคน” เกิดบาดเจ็บ เลยต้องยกเลิกไฟต์นั้นไป แล้วก็รอกันมาอีก 7 ปีถึงได้กำหนดมาบู๊กันเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาอย่างที่ว่า ปรากฏว่าพอเริ่มการต่อสู้ เคน แชมร็อก อาศัยชั้นเชิงแพรวพราว จับ “เทคดาวน์” ลากนักสู้รุ่นน้องลงมาสู้ในเกมบนพื้นที่ตัวเองถนัดได้ แถมพอ คิมโบ สไลซ์ ดิ้นหลุดได้ ยังลาก “เทคดาวน์” ลงมาได้อีกครั้ง เรียกว่าทำคะแนนเต็มๆ แล้วยังมีโอกาสจับล็อกในท่า Rear Naked Choke คือล็อกคอจากด้านหลังได้อีกต่างหาก
ปกติในการต่อสู้ถ้าใครลงโดนจับล็อกคอแบบนี้ก็ต้องยอมแพ้สถานเดียว ก่อนจะขาดอากาศหายใจ แต่ คิมโบ สไลซ์ ไม่ยอมแพ้ แล้วสบโอกาสที่ “ป๋าเคน” คลายวงแขนนิดเดียวดิ้นหลุดออกมาได้ หันไปจ้วงหมัดเข้าเต็มกรามนักสู้ระดับตำนานวัยดึก เล่นเอาเคน แชมร็อก เอียงไปติดกรง นักสู้จากข้างถนนไม่ปล่อยโอกาสทองให้ผ่านไปตามไปจ้วงกำปั้นเข้าเต็มๆ อีกหมัดเข้าขมับซ้าย ส่ง “ป๋าเคน” ลงไปนอนกับพื้น กรรมการจับแพ้ TKO ทันทีเพราะ เคน แชมร็อก ไม่อยู่ในสภาพที่จะสู้ได้แล้ว
แฟนๆ เคน แชมร็อก ที่คุ้นภาพ “ชายผู้อันตรายที่สุดในโลก” เมื่อตอนแกอาละวาดในรายการ UFC 1, UFC 3 หรือรายการอื่นๆ ในช่วงนั้น ก็คงต้องทำใจว่า สังขารไม่เที่ยงจริงๆ ให้ใจสู้แค่ไหน เตรียมพร้อมดีแค่ไหน แต่สุดท้ายก็ต้องพ่ายสังขาร เพราะขนาดมีโอกาสจับล็อกก่อนแล้ว ยังล็อกไม่อยู่ ต้องคลายวงแขนให้คู่ต่อสู้ดิ้นหลุดออกมาได้ แล้วโดนจ้วงเข้าทีเดียวเอียงวูบแล้วไม่ฟื้นเลย เคน แชมร็อก แพ้ คิมโบ สไลซ์ แต่ว่าไปแล้วเขาแพ้สังขารเหมือนนักสู้ทุกคนที่ไม่มีใครอยู่ค้ำฟ้า
* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!***
แฟนๆ ศิลปะการต่อสู้แบบผสมรุ่นใหญ่หลายๆ ท่าน น่าจะจำสุดยอดฝีมือระดับ “ฮอล ออฟ เฟม” ของการต่อสู้ในแบบนี้เมื่อร่วมๆ 20 ปีก่อนอย่าง “เคน แชมร็อก” ที่เคยสร้างตำนานเป็นคู่รักคู่แค้นกับ “รอยซ์ เกรซี” สุดยอดฝีมือจากตระกูล “เกรซี” ตั้งแต่ประเดิมรายการ UFC 1 มาเลยทีเดียว ซึ่งเป็นจุดกำเนิดให้รายการ UFC กลายเป็นสถาบันศิลปะการต่อสู้แบบผสมที่ใหญ่ที่สุดและได้รับความนิยมสูงสุดทุกวันนี้
เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (19 มิ.ย.) เคน แชมร็อก ในวัย 51 ปี ได้ฤกษ์หวนคืนเวทีศิลปะการต่อสู้แบบผสมอีกครั้ง แต่คราวนี้เป็นรายการ Bellator 138 หลังจากห่างหายจากเวทีกรงเหล็กไป 5 ปีด้วยกัน โดยครั้งนี้ “ป๋าเคน” พกสถิติ สู้ 45 ไฟต์ ชนะ 28 แพ้ 15 และเสมออีก 2 ไฟต์ ขึ้นเวทีพบกับนักสู้มากสีสันอย่าง คิมโบ สไลซ์ ที่อ่อนวัยกว่าถึง 10 ปี คืออายุ 41 ปี สถิติในการต่อสู้แบบศิลปะการต่อสู้แบบผสมแค่ 6 ไฟต์ ชนะ 4 แพ้ 2 เรียกว่าสวยงามไม่เลว แต่น้อยไปหน่อยสำหรับนักสู้วัยขนาดนี้
แต่ คิมโบ สไลซ์ นั้นโด่งดังจากการต่อสู้แบบ “สตรีทไฟต์” คือนักสู้ข้างถนน หรือแบบใต้ดิน มีคลิปใน Youtube แฟนๆ ลองหาดูกันได้ แถมเคยขึ้นชกมวยสากลอาชีพ หวังเอาดีในรุ่นเฮฟวีเวทมาแล้ว แถมทำได้ดีซะด้วยชก 7 ไฟต์ ชนะรวด 7 ไฟต์ น็อกซะ 6 ไฟต์ ขนาด รอย โจนส์ จูเนียร์ นักชกระดับตำนานยังเคยสนใจจะขึ้นชกด้วยมาแล้ว แต่บอกให้ไปเสริมกระดูกให้มากกว่านี้ซะก่อน ไปๆ มาๆ เลยไม่ได้เจอกัน จากนั้น คิมโบ สไลซ์ ก็ร้างเวทีไปร่วมๆ 5 ปีเรียกว่าสนิมเขรอะพอๆ กัน
คู่นี้เคยกำหนดขึ้นฟัดกันมาแล้วเมื่อ 7 ปีที่แล้ว ตอนนั้น เคน แชมร็อก ก็ยังไม่หง่อมขนาดนี้ ส่วน คิมโบ สไลซ์ ก็กำลังห้าวเลยทีเดียว แต่ก่อนกำหนดการต่อสู้ไม่นาน “ป๋าเคน” เกิดบาดเจ็บ เลยต้องยกเลิกไฟต์นั้นไป แล้วก็รอกันมาอีก 7 ปีถึงได้กำหนดมาบู๊กันเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาอย่างที่ว่า ปรากฏว่าพอเริ่มการต่อสู้ เคน แชมร็อก อาศัยชั้นเชิงแพรวพราว จับ “เทคดาวน์” ลากนักสู้รุ่นน้องลงมาสู้ในเกมบนพื้นที่ตัวเองถนัดได้ แถมพอ คิมโบ สไลซ์ ดิ้นหลุดได้ ยังลาก “เทคดาวน์” ลงมาได้อีกครั้ง เรียกว่าทำคะแนนเต็มๆ แล้วยังมีโอกาสจับล็อกในท่า Rear Naked Choke คือล็อกคอจากด้านหลังได้อีกต่างหาก
ปกติในการต่อสู้ถ้าใครลงโดนจับล็อกคอแบบนี้ก็ต้องยอมแพ้สถานเดียว ก่อนจะขาดอากาศหายใจ แต่ คิมโบ สไลซ์ ไม่ยอมแพ้ แล้วสบโอกาสที่ “ป๋าเคน” คลายวงแขนนิดเดียวดิ้นหลุดออกมาได้ หันไปจ้วงหมัดเข้าเต็มกรามนักสู้ระดับตำนานวัยดึก เล่นเอาเคน แชมร็อก เอียงไปติดกรง นักสู้จากข้างถนนไม่ปล่อยโอกาสทองให้ผ่านไปตามไปจ้วงกำปั้นเข้าเต็มๆ อีกหมัดเข้าขมับซ้าย ส่ง “ป๋าเคน” ลงไปนอนกับพื้น กรรมการจับแพ้ TKO ทันทีเพราะ เคน แชมร็อก ไม่อยู่ในสภาพที่จะสู้ได้แล้ว
แฟนๆ เคน แชมร็อก ที่คุ้นภาพ “ชายผู้อันตรายที่สุดในโลก” เมื่อตอนแกอาละวาดในรายการ UFC 1, UFC 3 หรือรายการอื่นๆ ในช่วงนั้น ก็คงต้องทำใจว่า สังขารไม่เที่ยงจริงๆ ให้ใจสู้แค่ไหน เตรียมพร้อมดีแค่ไหน แต่สุดท้ายก็ต้องพ่ายสังขาร เพราะขนาดมีโอกาสจับล็อกก่อนแล้ว ยังล็อกไม่อยู่ ต้องคลายวงแขนให้คู่ต่อสู้ดิ้นหลุดออกมาได้ แล้วโดนจ้วงเข้าทีเดียวเอียงวูบแล้วไม่ฟื้นเลย เคน แชมร็อก แพ้ คิมโบ สไลซ์ แต่ว่าไปแล้วเขาแพ้สังขารเหมือนนักสู้ทุกคนที่ไม่มีใครอยู่ค้ำฟ้า
* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!***
