ASTV ผู้จัดการสุดสัปดาห์ - ถือเป็นซัมเมอร์หฤโหดสำหรับนักเตะ เพราะนัดชิง ยูฟา แชมเปียนส์ ลีก เพิ่งเสร็จสิ้นเมื่อต้นเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ส่วนทีมที่ไม่ติดภารกิจก็เริ่มเดินสายทัวร์ จากนั้นมีศึก โคปา อเมริกา 2015 ที่ลากยาวจนถึงวันที่ 4 กรกฎาคม ตามด้วยฤดูกาลใหม่ที่จะเปิดฉาก เช่น พรีเมียร์ ลีก อังกฤษ คือวันที่ 8 สิงหาคม
เมื่อกลางเดือนมิถุนายนก็เพิ่งเสร็จสิ้นเกม ยูโร 2016 รอบคัดเลือก เหมือนที่ อาร์แซน เวนเกอร์ นายใหญ่ อาร์เซนอล แสดงความกังวลว่าปีหน้า อเล็กซิส ซานเชซ ปีกทีมชาติชิลีจะกรอบเป็นข้าวเกรียบ เพราะต้องโม่แข้งศึก โคปาฯ เท่ากับว่ามีเวลาพักไม่ถึงเดือน ดังนั้นพวกนี้จะได้รับอนุญาตพิเศษไม่ต้องมาเก็บตัวช่วงปรีซีซัน
ทำให้ตลาดนักเตะเงียบเหงาไปด้วย อย่างไรก็ตามยังมีเวลาอีกมากโขกว่าจะปิดตลาดวันที่ 31 สิงหาคม ลีกอังกฤษได้รับการคาดหมายว่าจะเป็น “แชมป์นักช็อป” เช่นเคย เนื่องจากปีที่ผ่านมาได้รับเงินปันผลจาก พรีเมียร์ ลีก อื้อซ่า โดยเฉพาะค่าลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดทั่วโลก
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้วหว่านเม็ดเงิน 150 ล้านปอนด์ (ประมาณ 7,500 ล้านบาท) ตอนนี้ได้มาเสริมแล้วรายหนึ่งคือ เมมฟิส เดปาย ปีกเนเธอร์แลนด์สจาก พีเอสวี ไอนด์โฮเฟน ค่าตัว 25 ล้านปอนด์ (ประมาณ 1,250 ล้านบาท) ดูแล้วก็มีน้ำมีนวล แต่ตำแหน่งที่สาวก “เรด เดวิลส์” อยากได้จริงๆ คือกองหน้า
เพราะปีที่แล้วมีสถิติอันน่าตกใจ ซึ่งบ่งบอกว่าไม่ใช่ แมนฯยู ที่หลายคนรู้จัก คือแม้จะจบอันดับ 4 ได้ตั๋ว แชมเปียนส์ ลีก แต่ 38 นัดยิงได้แค่ 62 ประตูน้อยกว่ายุคคุมทัพของ เดวิด มอยส์ ที่ทำไว้ 68 ประตูจบอันดับ 7 ถือว่าต่ำสุดเป็นสถิติอันดับ 2 ของสโมสรในประวัติศาสตร์ พรีเมียร์ ลีก ก่อนหน้านี้ฤดูกาล 2004-05 ยิง 58 ประตู
นอกจากนี้ตำแหน่งดาวซัลโวประจำถิ่น โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด เป็นของ เวย์น รูนีย์ ยิงรวมทุกรายการไปแค่ 14 ประตูเท่านั้น ถือว่าเลวร้ายมาก เพราะหนสุดท้ายที่แย่กว่านี้เกิดขึ้นเมื่อ 33 ปีก่อนหรือปี 1982 เป็น แฟรงค์ สเตเปิลตัน กองหน้าชาวไอริช ทำเอาไว้ 13 ประตู
ดังนั้น หลุยส์ ฟาน กัล นายใหญ่ แมนฯยู คงต้องหากองหน้าด่วน ถือเป็นปรัชญาของ “ผีแดง” คือเสียเท่าไหร่ไม่ว่าขอให้ยิงได้มากกว่าคู่แข่งเป็นพอ ส่วนแนวทางของคนอื่นจะเป็นอย่างไรช่างมัน เช่น โชเซ มูรินโญ ที่นำ เชลซี เป็นดับเบิลแชมป์ พรีเมียร์ ลีก กับ แคปิตอล วัน คัพ ที่เน้นสร้างหลังบ้านให้เหนียวแน่นเอาไว้ก่อน
รูนีย์ ยิงไป 12 ประตูในลีกเท่ากับ กราเซียโน เปลเล กองหน้า เซาแธมป์ตัน กับ ดาบิด ซิลบา แนวรุก แมนเชสเตอร์ ซิตี และน้อยกว่า คริสเตียน เบนเตเก หอก แอสตัน วิลลา รวมถึง ไซโด เบราฮิโน ตัวรุก เวสต์ บรอมวิช อัลเบียน ซึ่งไม่ใช่ตำแหน่งของนักเตะที่อยู่ภายในทีมลุ้นแชมป์อย่าง แมนฯยู
ปัจจุบัน รูนีย์ อายุ 29 ปีแล้ว ฤดูกาลที่แล้วมีช่วงที่ถูกจับไปเล่นกองกลางด้วย เพราะ ราดาเมล ฟัลเกา ที่ยืมมาจาก โมนาโก ก็ซ่าไม่ออก ส่วน โรบิน ฟาน เพอร์ซี ก็เจ็บออดๆ แอดๆ ดังนั้นแม้มีตัวปั้นเกมดีๆ อย่าง ฆวน มาตา, แอชลีย์ ยัง, เดปาย หรือ อังเคล ดิ มาเรีย แต่กองหน้าส่งบอลไปกองก้นตาข่ายไม่ได้ก็จบ
รูนีย์ ผ่านจุดที่ดีที่สุดในชีวิตกองหน้าคือฤดูกาล 2011-12 ที่ซัด 27 ประตูจาก 34 นัด ส่วนปีหน้า ฟาน กัล มีตัวเลือกอย่าง ฮาเวียร์ เฮร์นานเดซ หอกทีมชาติเม็กซิโก ที่กลับมาจาก รีล มาดริด แบบยืมตัว โดยซัดไป 9 ประตูจาก 33 นัดรวมทุกรายการในสีเสื้อ “ราชันชุดขาว” ซึ่งก็ต้องขึ้นอยู่กับว่านายใหญ่ชาวดัตช์จะให้โอกาสหรือไม่
คนที่พัวพันกับ แมนฯยู ตอนนี้คือ แฮร์รี เคน ที่ซัด 21 ประตูในลีกปีที่แล้ว แต่ก็มีหลายคนที่ต่อต้าน เพราะเสี่ยงไม่น้อยกับนักเตะที่เล่นดีปีแรก เหนืออื่นใดอย่างลืมว่า เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน เคยซื้อ รูนีย์ ตอนอายุ 18 ปีเมื่อปี 2004 ด้วยค่าตัว 25 ล้านปอนด์ (ประมาณ 1,250 ล้านบาท) มาแล้ว ซึ่งถ้า ท็อตแนม ฮ็อทสเปอร์ ไม่โก่งขนาด 40 ล้านปอนด์ (ประมาณ 2 พันล้านบาท) ก็พอรับได้อยู่
เรื่อง สรเดช เพชรแสงใสกุล
* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!***