xs
xsm
sm
md
lg

ฟีฟ่า เดย์ / กษิติ กมลนาวิน ราชวังสัน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

คอลัมน์ EYE ON SPORTS โดย กษิติ กมลนาวิน ราชวังสัน

เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ เพิ่งปรับปรุงปฏิทินการแข่งขันฟุตบอลทีมชาติชุดใหญ่ทั่วโลก ยิงยาวไปจนสิ้นปี 2018 ซึ่งอันนี้ย่อมมีความเกี่ยวข้องต่อสโมสรต้นสังกัดของนักเตะทั่วโลกโดยตรง โดยถือเป็นหน้าที่ที่จะต้องปล่อยตัวนักเตะที่ถูกเรียกตัวไปเล่นให้กับทีมชาติ

ฟีฟ่า วางหลักการเอาไว้ว่า สโมสรต้นสังกัดต้องปล่อยตัวนักเตะที่ถูกเรียกตัวติดทีมชาติไปร่วมแข่งขันในนามทีมชาติชุดใหญ่ ทั้งการแข่งขันนัดกระชับมิตร รายการชิงแช้มพ์ทวีป รายการคอนเฟเดอเรเชิ่นส์ คัพ และการแข่งขันฟุตบอลโลก ไม่ว่าสโมสรจะมีข้อตกลงกับนักเตะเป็นอย่างไร ไม่ยอมปล่อยตัว อันนี้ต้องห้าม กระทำไม่ได้ครับ

ช่วงเวลาที่ ฟีฟ่า กำหนดให้มีการแข่งขันฟุตบอลทีมชาติ ไม่ว่าจะเป็นนัดกระชับมิตร หรือ การแข่งขันรอบคัดเลือกนั้น แต่ละช่วงล็อคเวลาเอาไว้ 9 วัน นับตั้งแต่เช้าวันจันทร์ไปจนถึงกลางคืนวันอังคารของสัปดาห์ถัดไป ซึ่งก็อาจจัดให้มีการแข่งขันได้ไม่เกิน 2 นัด โดยการแข่งขันอาจเริ่มได้ตั้งแต่วันพุธเป็นต้นไป และต้องมีช่วงพักระหว่างการแข่งขัน 2 นัดอย่างน้อย 2 วัน เช่น ถ้าวันแรกจัดแข่งในวันเสาร์ อีกนัดก็ต้องแข่งวันอังคาร เป็นต้น

การแข่งขัน 2 นัดในช่วง ฟีฟ่า เดย์ จะเกิดขึ้นได้ก็ต้องจัดให้เตะในทวีปเดียวกันด้วย ยกเว้นในกรณีที่ทีมชาติต้องไปเตะ เพลย์-อ๊อฟ ในอีกทวีปหนึ่ง แต่ก็ต้องอยู่ภายใต้เงื่อนไข คือ 1 ใน 2 นัดในช่วงดังกล่าวต้องเป็นนัดกระชับมิตร และระยะทางก็ต้องไม่ไกลเกินไป โดยนั่งเครื่องบินไปยังสนามของอีกทวีปหนึ่งได้โดยใช้เวลาไม่เกิน 5 ชั่วโมง

อย่างไรก็ตาม สโมสรต้นสังกัดก็มีสิทธิ์รั้งตัวนักเตะของตน ไม่จำเป็นต้องปล่อยไปร่วมทีมชาติก็ได้ ถ้าการแข่งขันนั้นไม่ได้อยู่ในช่วงที่ ฟีฟ่า กำหนดไว้ในปฏิทิน และที่สำคัญ เมื่อปล่อยตัวไปร่วมการแข่งขันรอบสุดท้ายรายการหนึ่งแล้ว สโมสรก็ไม่จำเป็นต้องปล่อยไปอีก อันนี้มีข้อยกเว้นสงวนไว้ให้คณะกรรมการบริหาร ฟีฟ่า มีคำสั่งเป็นอย่างอื่นสำหรับการแข่งขันรายการคอนเฟเดอเรเชิ่นส์ คัพ เท่านั้น

รวมความแล้ว นักเตะต้องถูกปล่อยตัวและเริ่มเดินทางได้ตั้งแต่เช้าวันจันทร์และได้เดินทางกลับตั้งแต่เช้าวันพุธในสัปดาห์ถัดไป เนื่องจากช่วงของ ฟีฟ่า เดย์ นั้นจบตั้งแต่คืนวันอังคาร แต่หากเป็นการแข่งขันรอบสุดท้ายอย่างพวกรายการชิงแช้มพ์ทวีป รายการคอนเฟเดอเรเชิ่นส์ คัพ และการแข่งขันฟุตบอลโลก เขาให้ปล่อยตัวก่อนเป็นระยะเวลานานกว่าที่กล่าวมา นักเตะต้องได้เริ่มเดินทางตั้งแต่เช้าวันจันทร์ของสัปดาห์ก่อนสัปดาห์ที่การแข่งขันจะเริ่มขึ้น คือเป็นเวลาไม่น้อยกว่า 1 สัปดาห์อย่างแน่นอน และได้เดินทางกลับในเช้าวันรุ่งขึ้นของการแข่งขันนัดสุดท้ายของทีมตน อันนี้แม้ ฟีฟ่า จะกำหนดระยะเวลาเอาไว้ให้ แต่สโมสรกับสมาคมฟุตบอลอาจตกลงกันเองเพื่อให้มีระยะเวลาการปล่อยตัวยาวนานกว่าที่กำหนดหรือมีข้อตกลงที่ต่างออกไปก็ได้

ในส่วนของนักเตะเอง ก็ต้องมีวินัยที่จะกลับไปร่วมทีมของสโมสรต้นสังกัดภายในไม่เกิน 24 ชั่วโมงหลังจากได้รับการปล่อยตัว แต่ถ้าการแข่งขันเกิดขึ้นในทวีปอื่น ระยะเวลาดังกล่าวก็ขยับเป็น 48 ชั่วโมง ทั้งนี้ สมาคมฟุตบอลต้องมีหนังสือแจ้งอย่างเป็นทางการไปยังสโมสรต้นสังกัดอย่างน้อย 10 วันก่อนกำหนดปล่อยตัว โดยระบุวันปล่อยตัวเข้าร่วมทีมชาติและวันปล่อยตัวกลับสโมสรให้ชัดเจน และดูแลให้นักเตะสามารถเดินทางกลับไปได้ภายในเวลาด้วย ถ้านักเตะไม่ได้กลับสโมสรตามกำหนด การเรียกตัวครั้งต่อไปต้องถูกหดลงเหลือ 2 วัน สำหรับการแข่งขันนัดกระชับมิตรหรือรอบคัดเลือก และ 5 วันสำหรับการแข่งขันชิงแช้มพ์ รอบสุดท้าย

สิทธิ์ของสโมสรต้นสังกัดถือเป็นเรื่องสำคัญไม่แพ้สมาคมฟุตบอล ถ้าการละเมิดเกิดขึ้นซ้ำซาก คณะกรรมการของ ฟีฟ่า ฝ่ายที่ดูแลสถานภาพของนักเตะก็จะมีบทลงโทษ เช่น ปรับเงิน ลดระยะเวลาการปล่อยตัวนักเตะลง หรือห้ามตามรังควาญเรียกนักเตะคนนั้นมารับใช้ชาติอีก

สำหรับ ฟีฟ่า เดย์ ที่ถูกกำหนดในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2015 ก็คือ ฟุตบอลชิงแช้มพ์แห่งชาติอเมริกาใต้ (2015 Copa America) 11 มิถุนายน-4 กรกฎาคม ฟุตบอลชิงแช้มพ์แห่งชาติ อเมริกาเหนือ อเมริกากลาง และแคริบเบียน (2015 CONCACAF Gold Cup) นอกจากนั้น ก็มีช่วงการแข่งขันไม่เกิน 2 นัดคือ 31 สิงหาคม-8 กันยายน 5-13 ตุลาคม และ 9-17 พฤศจิกายน

* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *


กำลังโหลดความคิดเห็น