คอลัมน์ “ริงไซด์ ไฟต์คลับ” โดย “ลักษมณ์ นันทิวัชรินทร์”
ช่วงที่มีมหกรรมกีฬาใหญ่ๆ ก็ไม่พ้นต้องมาคุยถึงมวยสากลสมัครเล่น เพราะเป็นกีฬาความหวังของเรามาโดยตลอด ถ้าในระดับ เอเชียน เกมส์ หรือ โอลิมปิก ก็เป็นความหวังเหรียญทองชนิดที่บางครั้งเป็นความหวังเดียวด้วยซ้ำ ก่อนที่หลังๆ จะได้ยกน้ำหนักหญิงกับเทควันโดมาแบ่งเบาภาระไป ส่วนในระดับซีเกมส์นี่แฟนๆ ก็คาดหวังว่าจะเป็นกีฬาที่ช่วยโกยเหรียญทองเพื่อลุ้นเจ้าเหรียญทองกันเลยทีเดียว
ซีเกมส์ครั้งที่ 28 ณ สิงคโปร์ ที่เพิ่งจะจบลงไปหมาดๆ มวยสากลสมัครเล่นเราส่งชุดใหญ่ไปเลยทีเดียวรวมแล้ว 10 รุ่น ตั้งเป้าไว้ 5 ทอง แต่แค่เริ่มวันแรกๆ ก็ค่อยๆ ร่วงไปเรื่อยๆ ในประเภทชายส่งไป 6 รุ่น ตัวเก็งอันดับ 1 อย่าง “เจ้าสด” ฉัตรชัย บุตรดี ร่วงไปก่อนเพื่อน ตามมาติดๆ ด้วยจอมเก๋าอย่าง สายลม อาดี รวมทั้ง “ไอ้หมัดสิบล้อ” อภิเชษฐ์ แสนสิทธิ์ ที่พลาดท่าชกไปโดนศีรษะคู่แข่งจนแขนหัก แต่กัดฟันชกต่อจนครบยกพ่ายคะแนนไป
สุดท้ายได้ “เจ้าเอ็ม” วุฒิชัย มาสุข หนึ่งเดียวเหรียญทอง เอเชียน เกมส์ ที่ผ่านมา ช่วยกู้หน้าให้สมาคมมวยสากลสมัครเล่นได้อีกครั้งคว้าเหรียญทองโทนในประเภทชายมาได้ ส่วนประเภทหญิง ส่งไป 4 รุ่นโสภิดา สะทุมรัมย์ ก็ร่วงแค่รอบรอง รอบชิงได้ ทัศมาลี ทองจันทร์ คว้าเหรียญทองมาให้แบบมีเสียว ส่วน จุฑามาศ รักสัตย์ พ่ายรอบชิงได้แค่เหรียญเงิน
หลังจบการแข่งขันเสียงวิจารณ์ก็กระหึ่ม โดยเฉพาะที่ดังที่สุดมาจากอดีตฮีโร่โอลิมปิก 3 เจเนอเรชัน ทั้ง ทวี อัมพรมหา, มนัส บุญจำนง และ แก้ว พงษ์ประยูร พูดเป็นเสียงเดียวกันว่าน่าห่วงมาก เรื่องฝีมือนักมวยก็น่าห่วง แต่มองลึกลงไปอีกเป็นปัญหาระดับสมาคมเลยทีเดียว ทั้งทีมงานสตาฟโค้ช การเก็บตัวฝึกซ้อม ที่สำคัญการวางแท็กติกรูปเกมการชก ที่ยังยึดการชกแบบเดิมๆ ที่จิ้มทีละหมัดๆ ทั้งๆ ที่การให้คะแนนเปลี่ยนไปแล้ว เน้นการเข้าทำ การควบคุมสถานการณ์บนเวที และดูภาพรวมของการชกในแต่ละยก แต่ทีมสตาฟโค้ชยังปล่อยให้นักมวยจิ้มหมัดอย่างเดียว
ดูจากคำสัมภาษณ์ของนักชกสาว จุฑามาศ รักสัตย์ ที่ให้สัมภาษณ์หลังชวดเหรียญทองก็จะเห็นว่าเจ้าตัวยังคิดว่าตัวเองออกหมัดเน้นๆ จิ้มได้เป็นหมัดๆ น่าจะได้คะแนนมากกว่าคู่ชกที่เน้นออกหมัดเป็นชุด แค่นี้ก็ชัดเจนว่าทีมงานสมาคมและผู้ฝึกสอนไม่ได้ทำการบ้านเรื่องกติการสมัยใหม่เลย สุดท้ายผลก็ออกมาอย่างที่เห็น แถมสไตล์นี้ติดมาถึงมวยอาชีพกันด้วยเพราะเราก็คุยกันอยู่เสมอๆ ว่านักมวยไทยออกหมัดชุดไม่เป็น ดีแต่เก็งหมัดโป้งๆ ทีละหมัด สุดท้ายก็เสร็จคู่ชกหมด
ถึงตอนนี้ก็ต้องดูว่าสมาคมมวยสากลสมัครเล่น ภายใต้การนำของนายก พิชัย ชุณหวชิร จะดำเนินการอย่างไรกันต่อ ทาง น.อ. สมยศ จุลเสน ประธานเทคนิค ก็ออกมายอมรับว่าจะต้องปรับสไตล์กันใหม่หมด ซึ่งว่าไปแล้วก็น่าตกใจที่คนระดับประธานเทคนิคเพิ่งจะรู้หรือครับว่ากติกาการให้คะแนนเขาเปลี่ยนไปแล้ว มองในแง่ดีพลาดในซีเกมส์ แต่ก็ทำให้รู้ตัวและยังมีโอกาส “คิดใหม่ทำใหม่” เพื่อให้รักษามาตรฐานกีฬาความหวังของคนไทยในโอลิมปิกครั้งหน้าให้ได้นะครับ
* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *
ช่วงที่มีมหกรรมกีฬาใหญ่ๆ ก็ไม่พ้นต้องมาคุยถึงมวยสากลสมัครเล่น เพราะเป็นกีฬาความหวังของเรามาโดยตลอด ถ้าในระดับ เอเชียน เกมส์ หรือ โอลิมปิก ก็เป็นความหวังเหรียญทองชนิดที่บางครั้งเป็นความหวังเดียวด้วยซ้ำ ก่อนที่หลังๆ จะได้ยกน้ำหนักหญิงกับเทควันโดมาแบ่งเบาภาระไป ส่วนในระดับซีเกมส์นี่แฟนๆ ก็คาดหวังว่าจะเป็นกีฬาที่ช่วยโกยเหรียญทองเพื่อลุ้นเจ้าเหรียญทองกันเลยทีเดียว
ซีเกมส์ครั้งที่ 28 ณ สิงคโปร์ ที่เพิ่งจะจบลงไปหมาดๆ มวยสากลสมัครเล่นเราส่งชุดใหญ่ไปเลยทีเดียวรวมแล้ว 10 รุ่น ตั้งเป้าไว้ 5 ทอง แต่แค่เริ่มวันแรกๆ ก็ค่อยๆ ร่วงไปเรื่อยๆ ในประเภทชายส่งไป 6 รุ่น ตัวเก็งอันดับ 1 อย่าง “เจ้าสด” ฉัตรชัย บุตรดี ร่วงไปก่อนเพื่อน ตามมาติดๆ ด้วยจอมเก๋าอย่าง สายลม อาดี รวมทั้ง “ไอ้หมัดสิบล้อ” อภิเชษฐ์ แสนสิทธิ์ ที่พลาดท่าชกไปโดนศีรษะคู่แข่งจนแขนหัก แต่กัดฟันชกต่อจนครบยกพ่ายคะแนนไป
สุดท้ายได้ “เจ้าเอ็ม” วุฒิชัย มาสุข หนึ่งเดียวเหรียญทอง เอเชียน เกมส์ ที่ผ่านมา ช่วยกู้หน้าให้สมาคมมวยสากลสมัครเล่นได้อีกครั้งคว้าเหรียญทองโทนในประเภทชายมาได้ ส่วนประเภทหญิง ส่งไป 4 รุ่นโสภิดา สะทุมรัมย์ ก็ร่วงแค่รอบรอง รอบชิงได้ ทัศมาลี ทองจันทร์ คว้าเหรียญทองมาให้แบบมีเสียว ส่วน จุฑามาศ รักสัตย์ พ่ายรอบชิงได้แค่เหรียญเงิน
หลังจบการแข่งขันเสียงวิจารณ์ก็กระหึ่ม โดยเฉพาะที่ดังที่สุดมาจากอดีตฮีโร่โอลิมปิก 3 เจเนอเรชัน ทั้ง ทวี อัมพรมหา, มนัส บุญจำนง และ แก้ว พงษ์ประยูร พูดเป็นเสียงเดียวกันว่าน่าห่วงมาก เรื่องฝีมือนักมวยก็น่าห่วง แต่มองลึกลงไปอีกเป็นปัญหาระดับสมาคมเลยทีเดียว ทั้งทีมงานสตาฟโค้ช การเก็บตัวฝึกซ้อม ที่สำคัญการวางแท็กติกรูปเกมการชก ที่ยังยึดการชกแบบเดิมๆ ที่จิ้มทีละหมัดๆ ทั้งๆ ที่การให้คะแนนเปลี่ยนไปแล้ว เน้นการเข้าทำ การควบคุมสถานการณ์บนเวที และดูภาพรวมของการชกในแต่ละยก แต่ทีมสตาฟโค้ชยังปล่อยให้นักมวยจิ้มหมัดอย่างเดียว
ดูจากคำสัมภาษณ์ของนักชกสาว จุฑามาศ รักสัตย์ ที่ให้สัมภาษณ์หลังชวดเหรียญทองก็จะเห็นว่าเจ้าตัวยังคิดว่าตัวเองออกหมัดเน้นๆ จิ้มได้เป็นหมัดๆ น่าจะได้คะแนนมากกว่าคู่ชกที่เน้นออกหมัดเป็นชุด แค่นี้ก็ชัดเจนว่าทีมงานสมาคมและผู้ฝึกสอนไม่ได้ทำการบ้านเรื่องกติการสมัยใหม่เลย สุดท้ายผลก็ออกมาอย่างที่เห็น แถมสไตล์นี้ติดมาถึงมวยอาชีพกันด้วยเพราะเราก็คุยกันอยู่เสมอๆ ว่านักมวยไทยออกหมัดชุดไม่เป็น ดีแต่เก็งหมัดโป้งๆ ทีละหมัด สุดท้ายก็เสร็จคู่ชกหมด
ถึงตอนนี้ก็ต้องดูว่าสมาคมมวยสากลสมัครเล่น ภายใต้การนำของนายก พิชัย ชุณหวชิร จะดำเนินการอย่างไรกันต่อ ทาง น.อ. สมยศ จุลเสน ประธานเทคนิค ก็ออกมายอมรับว่าจะต้องปรับสไตล์กันใหม่หมด ซึ่งว่าไปแล้วก็น่าตกใจที่คนระดับประธานเทคนิคเพิ่งจะรู้หรือครับว่ากติกาการให้คะแนนเขาเปลี่ยนไปแล้ว มองในแง่ดีพลาดในซีเกมส์ แต่ก็ทำให้รู้ตัวและยังมีโอกาส “คิดใหม่ทำใหม่” เพื่อให้รักษามาตรฐานกีฬาความหวังของคนไทยในโอลิมปิกครั้งหน้าให้ได้นะครับ
* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *